ถึง คุณผู้ไม่รู้อะไรเลย แต่คิดว่ารู้
คุณเคยคิดไหมว่า การที่คุณไปนั่งในสวนของเซ็น และมองก้อนหินอะไรก็ไม่รู้ และนั้นจะมีความหมายอะไร เพราะในเมื่อใจเราคิดว่า “หินเนอะ” คุณคิดไหมว่า คุณคิดถูกหรือคิดผิด
การมองโลกตามความเป็นจริง นั้นย่อมเป็นสิ่งที่ถูก แต่หลายครั้ง ที่คนเหล่านั้น ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จในทางธรรม คือ ผู้ที่เดินทางข้ามภพ ข้ามชาติ บรรลุมรรคผล นิพพานแล้ว คนเหล่านั้น “เขามองเห็นว่า หินคืออะไร”
ฉันมั่นใจที่แนะนำหนังสือเล่มนี้ให้กับคุณผู้ไม่รู้อะไรเลย คุณผู้ยังไม่เข้าใจในชีวิต คุณผู้ยังสับสนในชีวิต เพราะว่า ฉันมั่นใจว่า คุณได้มาถูกทางแล้วล่ะ ที่รู้ตัวเองว่า “คุณคือผู้ที่ไม่รู้อะไรเลย และคุณกำลังต้องศึกษาต่อไป”
หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่อธิบายรูปภาพในสวนโมกข์ว่า แต่ละรูปภาพนั้นมีความหมายว่าอย่างไร เพราะความหมายเหล่านั้นล้วนแล้วเป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้ผู้ศึกษาเข้าใจธรรมะหรือตัวตนของเราอย่างแท้จริง
“การทำลายความยึดมั่นในตำรานั้น
พระไตรปิฎกฉบับแท้ อยู่ในใจที่ใจแล้วตลอดกาลนานมา”
- พุทธทาสภิกขุ -
ท่านพุทธทาสภิกขุเป็นบุคคลที่สมแก่โลกจะยกย่อง สรรเสริญ เพราะท่านเป็นยิ่งกว่าปราชญ์และท่านเป็นสุดยอดปูชนียบุคคลที่ท่านได้อธิบายความหมายของรูปภาพต่างๆให้เราฟังอย่างเข้าใจลึกซึ้ง และท่านได้มีการอธิบายถึงการอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดโดยใช้ถัง ซึ่งท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวว่า “อาบทางใจคือการยึดมั่นถือว่า “เรา” ว่า “ของเรา” อันเป็นของสกปรกสำหรับใจ ส่วนที่เครื่องอาบชำระใจคือ “การปฏิบัติธรรม””
ท่านพุทธทาสภิกขุ ยังนำพาเราเข้าไปสู่ใจที่แท้จริง นั้นคือ “จิตเดิมอันเป็นจิตประภัสสร” ซึ่งท่านได้อธิบายว่า “ความวุ่นที่พุ่งขึ้นก็ย่อมดับมอดลงสู่ ความว่าง อันเป็นธรรมชาติเดิมแท้ เพราะฉะนี้แล ความไม่ดิ้นรนทะยานไปในอารมณ์ทั้งปวงด้วย ตัณหาอุปาทานจึงเป็นความดับสนิทไปแต่ต้นมือแล้ว”
และท่านพุทธทาสภิกขุยังกล่าวถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่บงการชีวิตเราทั้งหมดนั้นคือกิเลสนี้เอง ดั่งที่ท่านกล่าวไว้ว่า “คนมีกิเลสหมายมั่นว่า เราเป็นผู้จัดการ เราเป็นผู้บงการทุกสิ่ง เราเป็นผู้กระทำได้ตามใจเรา แต่ที่แท้คนกำลังถูกบงการจากกิเลสนั้นเอง จึงถูกกิเลสรัดรึงอยู่รอบด้าน ส่วนผู้รู้ใช้ปัญญาเข้าจัดการกับทุกเรื่อง จึงเป็น “อิสระ””
“ดอกไม้จัด คนบ้าง อย่างภาพนี้
คือพวกที่ หลงมัน ทุกแห่งหน
เด็กผู้ใหญ่ ไพร่ผู้ดี มีหรือจน
ไม่เคยพ้น บุปผชาติ คาดมัดเอย”
- พุทธทาสภิกขุ -
ท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวว่า “ถ้าเชื่อก้อนหินก็เป็นพระพุทธรูปได้ แต่พระพุทธรูปชนิดนี้ยังเป็นของภายนอกเกินไป ส่วนพระพุทธรูปที่แท้จริง อยู่ที่ใจที่หมดสงสัยลังเลต่อชีวิตแล้ว พระพุทธรูปภายนอกนั้นพาให้ลังเล ถ้าพบ “พระ” ในใจแล้ว “พระ” นั้น คุ้มครองในทุกแห่งหน”
“พุทธะจริง ข้างในมี ดีอยู่แล้ว
พุทธรูป หินหรือแก้ว มักพาเขลา
มีพุทธจริง แล้วจะวิ่ง เที่ยวหาเอา
อะไรเล่า มาหมอบไหว้ ให้ยุ่งเอยฯ”
- พุทธทาสภิกขุ -
ป.ล. ฉันคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณผู้ไม่รู้จักอะไรเลย ได้พบสิ่งที่มีอะไรในเล่มนี้บ้าง และคุณผู้ไม่รู้อะไรเลยคงเลือกเส้นทางสำหรับตัวเองได้เป็นอย่างดี
จาก คนที่ต้องศึกษา
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in