รูปภาพนี้ หนังสือที่ผลิตโดยสำนักพิมพ์ดอกหญ้า 2000
“‘ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”
“พม่าเสียเมือง ไปแล้ว เมื่ออดีต
ชีวิตรีด ถูกถอน อิสรภาพ
ความจริงแท้ นั้นเหลือ พ้นความราบ
มีคนกราบ อิสระ ที่อยากได้”
หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช ท่านทรงเขียนเรื่องนี้ได้อย่างสนุก จิกกัด และมีเรื่องราวแทรกให้เราเห็นถึงเรื่องเวรกรรมและการขาดความสามัคคีได้อย่างแยบยล
รูปภาพนี้ แอบบี้เริ่มค้นพบว่า การอ่านแบบนี้
ทำให้มีความคิดไหลเวียนมากขึ้น
และเนื้อเรื่องก็สนุกเต็มเป้า (เป้าหมายครับ ไม่ใช่เป้าอย่างอื่นแน่ๆ) มากขึ้น
เล่มนี้เป็นหนังสือที่เล่าถึง หลังจากที่พม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกแล้ว ก็ทำให้พม่ารู้สึกภาคภูมิใจว่า ประเทศพม่าเป็นประเทศยิ่งใหญ่เหนือสิ่งอื่นทั้งปวง และคิดว่า พม่าคงสู้อังกฤษได้
“แต่ทุกอย่างไม่ได้กลับกลายเป็นเช่นนั้น”
รูปภาพนี้ พระนางศุภยลัตที่ตัดสินใจทำทุกวิถีเพื่ออำนาจของตน
เมื่อพม่าไม่สามารถสู้อังกฤษได้ พระเจ้ามินดงพยายามที่จะหาพระมหาอุปราชที่เก่งกล้า แต่สุดท้ายก็ถูกพระนางอเลนาดอจัดการกำจัดทิ้งซะ แล้วเมื่อพระเจ้ามินดงเสด็จสวรรคต พระนางอเลนาดอก็อัญเชิญพระเจ้าธีปอขึ้นครองราชย์
เมื่อพระเจ้าธีปอขึ้นครองราชย์ก็เชิญพระนางศุภยลัตขึ้นด้วย เพราะหลงรักและเกรงกลัวพระนางอย่างมาก เนื่องจากพระนางมีพระพี่นางอยู่ พระเจ้าธีปอก็เลยต้องแต่งตั้งพระพี่นางเป็นพระมเหสี แต่เนื่องจาก พระน้องนางอย่างพระนางศุภยลัตร้ายกาจมาก แม่อย่างพระนางอเลนาดอขอลูกสาวที่เป็นคนโตกลับไปอยู่ด้วย
พระนางศุภยลัตเริ่มเกรงกลัวอำนาจจะหายไปก็เลยตัดสินใจฆ่าล้างเผ่าพันธ์เครือญาติของกษัตริย์ให้สูญสิ้น โดยจัดการฆ่าคน ในขณะจัดงานรื่นเริง และเอาศพไปทิ้งไว้ในหลุม แต่เมื่อทิ้งมากขึ้น ศพก็อืดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เลยต้องใช้ช้างเหยียดเพื่อกลบศพเหล่านั้น
รูปภาพนี้ กู่มณฑปบรรจุพระอัฐิของพระนางศุภยาลัต และพระนัดดาองค์อื่น
พระนางศุภยลัตก็ยังไม่จบเพียงเท่านี้ คือ หาทางกำจัดหญิงที่พระเจ้าธีปอรักอย่างทรมานที่สุดเท่าที่นางจะหาทำได้ แต่สุดท้าย อำนาจก็มาถึงสุดทาง เมื่ออังกฤษชนะพม่า และพม่าก็ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษอย่างสมบูรณ์ ซึ่งสุดท้ายชีวิตของนางศุภยลัตก็มาตายที่พม่าอย่างโดดเดี่ยว ดุจดั่ง “เมื่อไรที่คนสิ้นสุดในวาสนาของตนนั้นไซร้แล้ว ย่อมหาผู้ใดไปมาหาสู่อีกคงไม่มี”
เกร็ดเล็กผสมน้อย
รูปภาพนี้ พระเจ้าธีปอ
เราพบว่า เมื่อไรที่ผู้นำอ่อนแอ ขี้ขลาดและโหดร้าย เมื่อนั้น บ้านเมืองคงถึงกาลวิบัติเป็นแน่แท้ ดั่งเช่นในเรื่องนี้ที่พระเจ้าธีปอกลัวเมียมาก และพระนางศุภยลัตก็โหดร้ายเกินมนุษย์มาก กรรมก็ตามสนองทำให้มีบุตรชายก็ต้องมีอันเป็นไป
และยังมีอีกที่คนพม่าขาดความสามัคคี ต้อนรับคนอังกฤษ และขโมยของในวังแบบแย่งชิงกันเต็มที่ และอย่างที่บอกแต่ต้นว่า เมื่อคนเราสิ้นวาสนาแล้ว ก็คงไม่เหลืออะไร แต่จริงๆแล้ว ถ้าพูดให้ถูกก็คือ “ตัวเองทำตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครทำตัวเองเลย เพราะตัวเองทั้งโหดร้ายผิดมนุษย์ และไม่ไว้วางใจใคร ฆ่าคนอย่างไม่เป็นธรรม เป็นคนที่ทำทุกอย่างผิดขึ้นมาเองทั้งสิ้น ไม่มีใครทำตัวเองเลยจริงๆ”
รูปภาพนี้ หลังปกหนังสือพม่าเสียเมือง
“กรรมย่อมสนองผลของการกระทำนั้นอย่างแท้จริง”
Look A Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in