เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆในเกียวโตที่ยังมีลมหายใจอยู่ เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเล็กๆ ชาวบ้านใช้ชีวิตอยู่ในชนบท อย่างมีความสุข ชาที่ชาวบ้านทำก็เป็นเอกลักษณ์ เราได้ซื้อกับชาวบ้าน เราได้คุยกับเขาและพบว่า เป็นวิธีการทำชาแบบสมัยโบราณ เราขอบอกว่า "เมื่อดื่ม รสชาติถึงใจมาก"

รูปภาพนี้ บรรยากาศสบายๆของเมือง

     ทุกคนเคยคิดไหมว่า เวลาเราไปเที่ยวตามสถานที่ๆคนเยอะไปหมด มันรู้สึกปวดหัวและก็ไม่ค่อยสงบใจ แต่ไม่เป็นกับเมืองนี้ค่ะ เมืองนี้เต็มไปด้วยคนญี่ปุ่นมาเที่ยว ไม่มีคนต่างชาติเลย แต่กลับกลายเป็นว่า "สบายกาย สบายใจ"

“อากาศเย็นๆ บรรยากาศสบาย ดื่มชากับขนม ก็อิ่มใจแล้ว”

รูปภาพนี้ ชากับขนมกลมกล่อม

     เมื่อเราเดินไปเรื่อยๆ ก็จะพบบ้านเรือนของคนญี่ปุ่น ชาวบ้านเหล่านั้นมีน้ำใจและกำลังทำงานของตัวเองอยู่ ระหว่างเดินทางก็จะได้ยินเสียงน้ำไหลพร้อมกับสงบใจ

“ความจริงของสิ่งที่ทุกคนปรารถนาคือความสุข”

เปรียบดั่ง

“ทุกคนต้องการแค่ความสุข

อยากหนีทุกข์ให้พ้นจากชีวี

และต้องการสงบสุขในที่นี้

คือที่ใจและกายสงบเอย”

รูปภาพนี้ สะพานแห่งความหวัง (อธิษฐาน)

    สะพานที่ถูกแฝงตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติทำให้เรามองเห็นภาพสวยงาม เปรียบเหมือนชีวิตของคนเราที่เมื่อไร เราอยู่กับธรรมชาติฉันใด เรามีความสุขฉันนั้น ปล่อยใจให้สบายและไม่เครียดจนเกินไป และไม่เพียงเท่านั้น เป็นสะพานแห่งอธิษฐาน โดยกลั้นหายใจและเดินข้ามสะพานก็พบกับความสำเร็จ (เราทดลอง ดีต่อใจมาก)

รูปภาพนี้ เสียงกระทบจากน้ำกับหินอย่างสบาย

     เสียงน้ำที่กระทบฝั่งเป็นเสียงดังของน้ำไหล พอเราปล่อยใจสบายๆ เราพบว่า น้ำไหลนี้มีเสียงที่แตกต่างกันไป เปรียบดั่งชีวิตของคนเราที่ย่อมเจอเรื่องที่แตกต่างกันไป เพียงแค่เราทำใจให้มีสติ ทุกอย่างก็ผ่านไปได้

รูปภาพนี้ บรรยากาศรอบๆเมื่อใบไม้เปลี่ยนสี

     ยังมีอีกมากมายในทุกที่ๆพอเราเดินผ่านไปเห็นใบไม้เปลี่ยนสี ผลัดสีใบ แข่งกันอวดสีสวยงาม ก็สวยงาม และรู้สึกว่า ตาเนื้อของเรายังเห็นได้สวยงามเกินกว่าจินตนาการขนาดนี้ แล้วตาใจล่ะที่ถ้าเข้าถึงธรรมชาติคงมีความสุขกว่านี้

     หลังจากเราเที่ยวจนครบถ้วนประมาณครึ่งวันแล้ว เราเห็นกับเรื่องราวของคนระหว่างทางว่า แต่ละคนมีเรื่องราวอย่างไร และตัวเราเองล่ะ เรื่องราวระหว่างต่อเมืองนี้เป็นอย่างไร

“เรื่องราวของเมืองนี้คือ

สีสันในชีวิตเราที่มีลมหายใจอยู่”

Look A Breathe 

(LAB)