หนังสือที่เล่าสู่เรื่องราววันวานที่อบอุ่นหัวใจ หลายต่อหลายครั้ง เรามีการย้อนวัยวานกลับไปยังวัยเก่าๆที่ผ่านมาในช่วงชีวิตเก่าๆของเรา และพบว่า ที่นั้นถึงไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว แต่มีความทรงจำเดิมที่รอเราอยู่
เรื่องราวที่นำมาเล่าสู่กันฟังในเวลานี้และวันนี้ เป็นเรื่องราวที่อ่านกี่ทีก็อบอุ่นหัวใจ และเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แถมยังมีความเข้ากันได้ในคนละอย่างอย่างลงตัว
“หลังจากอ่านเล่มนี้จบ ทำให้เราเชื่อว่า
ไม่ว่า คนเราจะอยู่ในศาสนาใด
เป็นคนชาติใด เราสามารถอยู่ร่วมกัน
อย่างมีความสุขได้ด้วยศรัทธา”
รูปภาพนี้ แสดงถึงความต่างที่มีความเหมือนในหนึ่งเดียวกัน
ศรัทธาในหน้าที่และคุณธรรมของความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เพราะทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี สอนให้เป็นคนดั่งมนุษย์หนึ่งคนเหมือนกัน ดังนั้น
“ไม่มีความแตกแยกใดจะเกิดขึ้นได้
เมื่อทุกคนรู้เท่าทันอารมณ์และความจริง”
เปรียบดั่ง
“ศาสนาพุทธอิสลามเราพี่น้อง
คงร่วมสองประสานเสียงให้กึกก้อง
ร้องให้ดังถึงใจตามทำนอง
ว่าเราสองร่วมศรัทธาในแดนไทย”
รูปภาพนี้ แผนที่อำเภอแว้ง
อำเภอแว้ง เป็นอำเภอเล็กๆที่อยู่ในจังหวัดนราธิวาส ทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นี้ มีความถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน แบ่งปันกันใช้ ช่วยเหลือกัน มีอะไรก็คอยแบ่งปัน และไม่คิดจะเอาอย่างเดียว โดยที่จะเหลือให้คนอื่นใช้ด้วย อย่างเช่น เก็บผักในลำคลอง ก็จะเก็บไปแค่พอใช้ และเหลือให้คนอื่นได้ใช้อีก แถมยังมีพูดถึงการละเล่นหลายอย่างที่ทำให้เราคิดถึงอย่างหมากเก็บ
“เราต้องตื่น ขึ้นล้างหน้า เวลาเช้า
ฟันผมเผ้า พึงชำระ ให้สะอาด
เราจงทำ หน้าที่ กระวีกระวาด
ไม่ต้องคาด คั้นเตือน เรื่องเรือนชาน
แล้วรีบไป ให้ทัน โรงเรียนเข้า
เลิกแล้วเรา บ่ายหน้า มุ่งมาบ้าน
ช่วยพ่อแม่ เก็บงำ และทำงาน
ว่างก็อ่าน คัดเขียน เล่าเรียนเอย”
— หน้า๗๑ —
รูปภาพนี้ มิตรภาพระหว่างคนไทยพุทธกับคนอิสลาม มลายู
เด็กมักจะมีมิตรภาพที่ดีงามเสมอ เฉกเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ที่สามารถสร้างมิตรภาพที่ดีงามได้เช่นกัน น้อยตัวดำเนินเรื่องเป็นเพื่อนสนิทกับมามุที่เป็นเด็กมลายูและอิสลาม ทั้งสองคนจะชอบชวนกันเล่น และเรียนรู้ที่จะทำงานบ้าน ช่วยเหลือแบ่งเบาพ่อแม่ ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ก็คุ้มค่าที่ได้ทำ น้อยเคยคิดว่า ลูกคนจีนทำงานสบาย แต่ก็เปล่า เพราะแต่ละคนมีความเหนื่อยและใช้ความอดทนที่ต่างกันไป
“‘งานทุกอย่างต้องออกแรงทำทั้งนั้นแหละ
นอกจากคนเกียจคร้าน
หรือไม่ก็เอาเปรียบคนอื่นเท่านั้นที่ไม่ชอบทำงาน
ลูกจำคำแม่ไว้นะ ให้เกิดมารวยแค่ไหน
ถ้าไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ
เอาแต่จ่ายอย่างเดียว ไม่นานเงินทองก็จะหมดลง
ไม่เพียงแต่หนักเอาเบาสู้ แม่ก็ต้องรู้จักประหยัดด้วย”
— หน้า ๘๐ —
รูปภาพนี้ สมาคมคุยกันที่ร้านกาแฟ
วันเวลาผ่านไป โดยที่ครั้งหนึ่งมีไข้ทรพิษเกิดขึ้น และหมอเทวดาทักว่า เขาร่ายมนต์ไว้ ห้ามทุกคนออกจากเขตนี้ ไม่งั้นจะติดไข้ทรพิษ และเมื่อทุกคนทำตาม ก็กลายเป็นว่า ไม่ติด แต่คนที่อยู่เหนือเขตอาคมก็ติดไข้ทรพิษ
หรือจะคุณตาช่างง่อยที่ทำตะเกียง ช่วยเหลือน้อยเมื่อยามเลือดไหลจนเป็นลม
และยังคุณตาที่ดีใจที่ได้มาพึ่งพาในหลวงรัชกาลที่ 8 และเมื่อรู้ว่า ท่านสวรรคต ทุกคนทั้งคนไทยและคนมลายูทุกคนก็เศร้าใจมาก
เรื่องราวก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆท่ามกลางความสามัคคีและปรองดองของคนไทยและอิสลาม ที่ยังถกกันเรื่องภาษาที่ใช้ในของศาสนาพุทธและอิสลาม
“คนในอำเภออาจจะมองว่า
เขาเป็นช่างง่อยผู้ยากจน แต่สำหรับลูก
ช่างทำตะเกียงไม่ใช่เป็นเพียงผู้ช่วยเหลือลูก
ในยามที่ได้รับบาดเจ็บและกลัวเท่านั้นนะ
เขายังมีพระคุณอย่างอื่นด้วย
เขาเป็นตะเกียงที่ส่องสว่างให้ลูกได้อ่านได้เขียนมาตลอด ๔ ปี
เขาจึงมีส่วนในความสำเร็จของลูกในวันนี้และวันหน้าด้วย
คนที่รู้สำนึกในพระคุณของผู้มีพระคุณเท่านั้นที่จัดว่าเป็นคนดี”
— หน้า ๑๗๙ —
ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะจากสถานที่นี้ไปนานแล้ว แต่ความทรงจำก็ยังคงอยู่ในจิตใจ ทั้งคำสอนในการใช้ชีวิต ทั้งตัวเองประสบเอง พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ รวมถึงมิตรภาพเหล่านั้นและการใช้ชีวิตของคนทุกคนที่นั้น ที่เป็นเครื่องเตือนสติและเตือนใจให้ชบาบานเป็นชบาบานในทุกวันนี้
“ถึงแม้ว่าคนเราจะเกิดมาด้วยชนชาติใด ศาสนาใด
แต่เราทุกคนสามารถสามัคคีได้ด้วยศรัทธา
ทั้งต่อหน้าและผืนแผ่นดินเดียวกัน”
Look A Breathe
(LAB)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in