เมื่ออ่านเรื่องราวในเล่มนี้แล้วไม่สามารถวางลงจริงๆ เพราะต้องคิดว่า เด็กๆจะแก้ไขปัญหาอย่างไรดีนะ เพราะต้องเอาชนะทั้งความกลัวของตัวเองและผู้ใหญ่ทั้งหลายที่ไม่มีเหตุผล แถมเอาแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างเดียว โดยไม่สนใจความคิดเห็นของเด็ก
ผู้ใหญ่เมื่อยิ่งโตขึ้นก็ไม่สามารถยอมรับความจริงในอารมณ์และความรู้สึกของเราได้ นั้นคือ ผู้ใหญ่มีความรู้สึกกลัว และเด็กอีกหลายคนที่ต้องทำเป็นเหมือนกล้าตลอดเวลา แต่ในความจริงคือกลัวอยู่นั้นเอง
“ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก”
เรื่องย่อ (จากเราเอง)
รูปภาพนี้ แสดงถึงความตั้งใจของเขา
มาโนโล่กับเลาร่าชอบดูหนังสยองขวัญมาก และวันหนึ่ง มาโนโล่ได้เปิดดูรายการของลูน่าและพบว่า การดูหนังพวกนี้มันไม่ดี แถมมันทำให้เราเพิ่มความกลัวกับนอนไม่หลับและภาพติดตาอีกด้วย ดังนั้น มาโนโล่ไปบอกความคิดนี้กับเลาร่า และเลาร่าเห็นด้วยและไปวางแผนชวนเพื่อน 7 คนมาเป็นพวกเดียวกัน ก่อนที่ทุกคนจะพยายามชวนเพื่อน แต่บางคนเห็นด้วย และหลายคนไม่เห็นด้วย
ในเรื่องนี้ มีเพื่อนในกลุ่มนี้คนหนึ่ง เป็นนักท่องอินเตอร์เน็ต จึงชวนทั้งสองมาคุยกันเพื่อเผยแพร่เรื่องราวนี้ผ่านอินเตอร์เน็ต จะได้เป็นช่องทางในการหาเครือข่าย โดยส่งผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อค้นหาคนที่เห็นด้วยและช่วยหาคนที่จะช่วยเหลือเรา
วันหนึ่งทั้งสองโทรศัพท์ไปคุยกับลูน่า ลูน่าแนะนำให้ไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาและเมื่อทั้งสองไปปรึกษาอาจารย์ใหญ่ ซึ่งอาจารย์ใหญ่เห็นด้วยกับเด็กกลุ่มนี้ และทั้งสองหาที่ปรึกษาอาจารย์ที่ใจดีได้หนึ่งท่าน ที่เข้าใจและช่วยเหลือได้ และตั้งชื่อชมรมก่อนที่จะช่วยเผยแพร่ความคิดนี้ต่อไป
ทั้งสองชวนลูน่ามาพูดถึงเรื่องสำคัญนี้ เด็กหลายคนเริ่มเห็นถึงความสำคัญนี้ แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่า เมื่อเชิญผู้ปกครองมากลายเป็นว่าส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่เด็กทั้งสองไม่หยุดอยู่เท่านั้น เด็กทั้งสองได้ไปคุยกับผู้อำนวยการสื่อแห่งรัฐ และเขาเห็นด้วย ซึ่งพยายามจะช่วย โดยครั้งแรก พ่อแม่เด็กไม่เชื่อ แต่เมื่ออกทีวี พ่อแม่เด็กจึงเชื่อว่าลูกไปพบผู้อำนวยการสื่อแห่งรัฐจริง
แต่กาลกลับกลายว่า มีจดหมายส่งมาหายังโรงเรียน ทำให้ครูใหญ่ต้องยกเลิกสนับสนุนเรื่องนี้ และบังคับห้ามมีชมรมอีก แต่ในไม่ช้า ทั้งสองได้ไปออกรายการของลูน่า ซึ่งหลายคนไม่เห็นด้วย แต่มีคนส่วนน้อยเห็นด้วย และเด็กทั้งสองสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามช่วยเรื่องนี้ต่อไป
———————————————
พลังของเด็กดี
เด็กดีต้องมีเหตุผลและคิดเปลี่ยนแปลงโลกให้ไปในทางที่ดีจริงๆ ดังเช่น มาโนโล่และเลาร่าเข้าใจตนเองว่ากลัวอะไร และอะไรคือสาเหตุที่แท้จริงของความกลัว ก็พยายามที่จะรณรงค์ในการเลิกสิ่งนั้น เพราะจะได้หมดความกลัวและนั้นเป็นสิ่งไม่ดี แต่ผู้ใหญ่กลับพบว่า เด็กกำลังขัดในผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งสิ่งนี้ สามารถพูดได้ว่า คือ ความขี้ขลาดอย่างหนึ่ง
“พลังด้านดีอยู่ที่เราเข้าใจความรู้สึกของตัวเองอย่างถูก”
———————————————
ที่มีกล้าหาญ
เด็กทั้งสองดูมีความกล้าหาญที่จะตั้งใจเปลี่ยนแปลงโลก ปลดปล่อยเด็กจากเรื่องราวไม่ดีนี้ และคิดถึงอนาคตอีกด้วย ว่า ถ้าเด็กทั้งหลายเสพสื่อเป็นเวลานานจะพบแต่สิ่งไม่ดี ดังนั้น เราทุกคนควรต้องรีบแก้ไขในขณะนี้ และเด็กทั้งสองรู้ว่า ตัวเองยังเด็ก ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ก็พยายามติดต่อผู้ใหญ่ขอความช่วยเหลือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเรียกว่า ความกล้าหาญ
“ความกล้าเริ่มต้นจากยอมรับและเรียนรู้”
———————————————
ชนะ (ความ) กลัวนาน
เด็กทั้งสองคนเอาชนะความกลัวมานานแล้วหลังจากที่เด็กทั้งสองยอมรับว่า ตัวเองกลัว จากการดูหนังสยองขวัญ เลือดสาดกระเซ็น และยอมรับว่า หนังเหล่านี้มีพิษ มีภัย ร้ายจริงต่อกับเด็กและผู้ใหญ่จริง เพราะยิ่งสร้างความรุนแรงมากขึ้น อย่างเช่น กรณีในหนังสือที่เด็กถูกผู้ใหญ่ทำร้ายร่างกายแต่ไม่กล้าบอกครอบครัว เพราะกลัวคำขู่ เราสามารถตีความได้เลยว่า ทำไมผู้ใหญ่กล้าตีเด็ก ก็เพราะผู้ใหญ่ซึมซับเรื่องราวไม่ดีจากสื่อเหล่านี้ก็ย่อมเป็นไปได้
“ไม่มีใครกล้ายอมรับความจริงที่เกิดขึ้นจริงในจิตใจว่า
เราเป็นคนขี้กลัว ขี้โกรธ เศร้า เหงามากเพียงใด”
———————————————
ไม่ระรานใคร
การกระทำของเด็กทั้งสองสร้างความเห็นต่าง แต่ทั้งสองไม่เคยระรานใคร และพยายามที่จะเสนอความจริง เพราะจะเห็นว่า ทั้งสองยืนยันจะพูดความจริง ว่า มันไม่ดีอย่างไร อย่างเช่น ที่เลาร่าคุยกับมาโนโล่ว่า เราควรพูดอะไร มาโนโล่บอกว่า เราควรพูดความจริง
“ความจริงไม่เคยระรานใคร เพราะยังไง มันก็จริงอยู่วันยังค่ำ”
———————————————
เมื่อเราอ่านจบจะพบว่า ผู้ใหญ่นี้ละที่เข้าใจยากสุด เพราะไม่สามารถยอมรับความจริงได้ว่า ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในบ่อทำลายความเจริญของเด็กและประเทศชาติ อย่างในปัจจุบัน จะพบว่า ผู้ใหญ่ชอบทะเลาะกัน ฉายภาพให้เด็กดู แล้วเด็กก็ไปทำตาม เพราะเข้าใจว่ามันดี
“เด็กคืออนาคตของชาติ
ที่เราทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
ถ้าเด็กคิดถูกก็ควรสนับสนุน
ถ้าเด็กคิดผิดก็ควรว่ากล่าวตักเตือน”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in