“การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
ตั้งแต่เด็กนั้นเป็นสิ่งที่ดี”
หนังสือการ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนเด็กแนวอ่านแล้วขบขัน กับต้องคิดตาม เอาเป็นว่า แต่ละอย่างเดาไม่ได้เลย เราเดาถูกอันเดียว คือ ภูเขาไฟฟูจิ นอกนั้น เดายากของจริง
เรื่องราวในเล่มนี้ เป็นเรื่องราวน่ารัก อบอุ่นหัวใจ แถมยังมีการฝึกฝนเด็กให้เด็กเรียนรู้อารมณ์ไม่พอใจของตนเอง เรียนรู้ตนเองที่มีความโกรธ และยังมีการอธิบายให้เด็กฟังถึงความจริง ว่า แม่ไม่เคยเห็นมนุษย์ต่างดาว แล้วแม่จะเดาถูกได้อย่างไร ไม่เพียงเท่านั้น เด็กอยากให้ผู้ใหญ่รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองอีกด้วย
-1-
แม่จ๋า แม่จ๋า มาเล่นกันเถิด
แม่จ๋า หนูจะทำท่าให้แม่ทายแล้วให้แม่ตอบนะว่า คืออะไร ซึ่งแม่ถามลูกว่า แล้วถ้าแม่ตอบไม่ได้ นัทสึมิจะโกรธไหมจ้า ซึ่งบุตรสาวตอบว่า แม่ตอบได้อยู่แล้วจ้า
“เพื่อนๆคิดดูว่า คุณแม่จะตอบกันได้ไหมค่ะ”
-2-
นี่คือ อะไรเอ่ย
นัทสึมิก็เเปลงกายเป็นหลายอย่าง แต่ขอบอกได้เลยว่า คุณแม่ตอบไม่ได้สักข้อ เพราะยากอย่างแท้จริง อย่างเช่นในชุดแรก นัทสึมิจะมีการแปลงตัวเป็นกาต้มน้ำ ข้าวปั้น ภูเขาไฟฟูจิและหลายอย่าง
-3-
เล่นต่อนะ
แม่บอกนัทสึมิว่าจะพับผ้า แม่จะเล่นกับลูกแค่สามข้อ แต่นัทสึมิบอกว่า ขออีกสิบข้อ ซึ่งครั้งนี้ยากขึ้นอีก และแม่ตอบไม่ได้อีก ไม่ว่าจะเป็น ซานต้า หอยลาย พัดลมและอย่างอื่น ซึ่งอะไรจะยากขนาดนี้
เมื่อแม่ตอบไม่ได้ นัทสึมิก็ดูโกรธ แม่เลยบอกว่า ถ้าโกรธ แม่ไม่เล่นด้วยแล้วนะ ซึ่งนัทสึมิบอกว่า งั้นหนูจะหาอันง่ายๆมาให้แม่เดา
-4-
ยากกว่าเดิม
คราวนี้ นัทสึมิทำหลายท่า ซึ่งยากต่อการคาดเดามาก และแม่ก็เดาไม่ถูก พอเฉลยออกมา คือ มนุษย์ต่างดาว และลูกบอกแม่ว่า ทำไมแม่ถึงเดาไม่ได้ แม่เลยตอบลูกว่า แม่จะเดาถูกได้อย่างไร เพราะแม่ไม่เคยเห็นมนุษย์ต่างดาว
และหลังจากนั้น ลูกให้แม่เดาต่อ แต่คราวนี้เป็นความรู้สึก ไม่ว่าจะดีใจที่ได้กินไก่ทอด หรือไม่อยากไปหาหมอฟัน ซึ่งนัทสึมิบอกว่า ทำไมแม่ไม่รู้ความรู้สึกของหนูค่ะ และแม่บอกว่า หนูไม่เคยบอก แม่จะรู้ได้ไง
-5-
นอนหลับแล้วหรือเนี่ย
นัทสึมิเอาตุ๊กตาออกมาและจะเล่นกับแม่ต่อว่า ใครคือ นัทสึมิตัวจริง แม่เลยบอกว่า เล่นแบบนี้ไม่ได้ ถ้าลูกจะเล่นแบบนี้ แม่ไม่เล่นแล้ว และแล้ว แม่เล่นกับลูกต่อ ซึ่งให้แม่เดาต่อว่า นี่คืออะไรเอ่ย และแม่ก็เดาไม่ได้อีก เพราะล้อเลียนแม่ และพอท่าสุดท้าย นัทสึมิหลับไปแล้ว ดังนั้น แม่อุ้มนัทสึมิไปนอน
“ไม่รู้เลย ว่า ท่านี้คืออะไร”
5 เหตุผลที่เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้
1. ฝึกฝนจินตนาการ
เรื่องราวในเล่มนี้บ่งบอกถึงจินตนาการของเด็กมาก เพราะเด็กสามารถหาวิธีมาเล่นกับแม่และเเสดงออกถึงความรู้สึกของเด็กที่มีต่อแม่จริงๆ เพราะหลายๆท่า เดาไม่ออกจริงๆ โดยเฉพาะท่าทางมนุษย์ต่างดาวต่างๆ อยากถามนัทสึมิมาก ว่า หนูเคยเจอมนุษย์ต่างดาวมาก่อนหรือเปล่า
“จินตนาการสำคัญกว่าความรู้”
2. ตลกขบขัน
หนังสือเล่มนี้ อ่านกี่รอบ ก็ขำมาก ตลกสุดๆ กับท่าทางของเด็กที่ให้แม่เดา แบบว่า อะไรหว่าเนี่ย ช่างคิด และใครจะไปคาดเดาได้ โดยเฉพาะท่าแสดงความรู้สึก อะไรจะน่ารักปานนั้น
“เเบ่งปันใครอ่านก็ตลกขบขันด้วยกัน”
3. ภาพสื่อน่ารัก
ภาพในหนังสือเล่มนี้ น่ารักมากเลย แถมพออ่าน และคิดหนักว่า คืออะไรเนี่ย เราก็นั่งคิดไปกับแม่ของนัทสึมิด้วยความขบขันในความน่ารักของนัทสึมิ ว่า แต่ละภาพ คืออะไร เราเดาถูกอันเดียว คือ ภูเขาไฟฟูจิ
“ภาพสื่อถึงใจของเด็กที่คิดจินตนาการได้เรื่อยๆ”
4. เรื่องราวสนุกสนาน
คุณชินสุเกะผูกเรื่องราวสนุกมาก โดยผูกเรื่องดี ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก และการเรียนรู้อารมณ์ของเด็กโดยผ่านการแสดงออกของเด็ก ซึ่งทำให้ผู้ปกครองเข้าใจเด็กมากขึ้น ว่า จะมีวิธีการจัดการอย่างไร เมื่อเด็กรู้สึกโกรธและไม่พอใจ แถมมีการอธิบายให้เด็กฟังว่า เด็กต้องบอกเรื่องราวความรู้สึกตัวเองให้ผู้ใหญ่รับรู้
“การเรียนรู้คือความสนุกสนาน ไม่ใช่น่าเบื่อ
เพียงเปลี่ยนมุมมองความคิด”
5. ความคิดสร้างสรรค์
เรื่องราวทั้งหมดนี้ที่เด็กได้แปลงร่างเป็นหลายๆอย่าง ซึ่งเป็นการแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ ว่า เด็กอย่างนัทสึมิ ช่างคิด ช่างจำนรรจาและช่างสร้างสรรค์มาก หากเราส่งเสริมเด็กอย่างนัทสึมิ เด็กโตเป็นผู้ใหญ่ที่ก้าวหน้าไปได้อีกไกล
“ความคิดสร้างสรรค์นำพาสู่จุดมุ่งหมายที่สำเร็จ”
การฝึกฝนให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการไม่รู้จบ นี่ส่งผลให้เด็กมีความรู้รอบด้านและก้าวไกล ในไม่ช้าเด็กฉลาดและมีเหตุผล
“เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เหมือนกับนัทสึมิอยากให้แม่
เข้าใจความรู้สึกของตนด้วย”
เด็กช่างมีความไร้เรียงสา
เรียกแม่มาเล่นกันเถิดหนา
แม่จะได้รู้จักนัทสึมิทุกเวลา
แม่จ๋ามาเล่นอะไรเอ่ยกัน
แม่จ๋าแม่นี่คืออะไรเอ่ย
แม่จ๋าเอ๋ยบอกลูกถึงคำตอบ
ทำไมแม่ตอบไม่ได้สักกะรอบ
นัทสึมิพินอบแม่ทุกเวลา
“ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องเล่านี้จนจบค่ะ เรามาเล่นอะไรเอ๋ยกัน”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in