“บางครั้ง เราอาจจะหลงลืมไป ว่า

ชีวตเราแสนจะเปราะบางเหลือเกิน

เกินกว่าจะขัดแย้ง โกรธ และ เกลียด”

- ชมัยภร แสงกระจ่าง -

       หนังสือเล่มนี้ ช่วยเตือนตัวเองและผู้อื่นให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและให้เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง โดยแบ่งออกเป็น ๓ ภาคหลักๆ ได้แก่

-1-

ภาค ๑ ชีวิตเล็กจ้อย

“พระพุทธองค์ทรงสอนว่า 

เราไม่อาจเอาชนะความเกลียดชัง 

ด้วยการเกลียดตอบ

ถ้าเราเกลียดคนที่เกลียดเรา 

เราย่อมกลายเป็นคนที่มีจิตใจเกลียดชังไปด้วย 

ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย

ผลที่ตามมาคือ ความเกลียดชังในโลกทวีขึ้น”

- ชยสาโร -

     ภาคนี้เป็นภาคเล่าเรื่องของสรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่น่ารัก และบ่งบอกถึงอารมณ์ของสัตว์เหล่านั้นไม่ต่างจากอารมณ์ของคนเลย

เรื่องราวสุดประทับใจ คือ ตอนรูที่ปิดทัน

     เจ้าหมาที่ชื่อ หม้อแกง ขี้อิจฉา ขี้กลัว ขี้ตื่นและขี้กังวล โดยเฉพาะเวลามีคนแปลกหน้ามา มันจะเห่าอย่างกับหมาดุ แต่ความเป็นจริงแล้ว มันขี้กลัว เพราะมันเคยขี้ราดตอนพาไปหาหมอ และทุกคนในบ้านเริ่มรู้ว่า ถ้ามันเห่าแบบไม่หยุด แปลว่า จะเกิดเหตุอะไรบางอย่าง

     วันหนึ่ง มันกำลังเห่าไล่งู มันก็ไม่ยอมให้งูออกมา พองูออกมา ก็ต้องตกใจเสียงเห่ามัน จนสุดท้ายงูก็กลับรูไป และเจ้าของก็เอาอิฐมาปิดรูงูทันที

สิ่งที่ได้เรียนรู้

     ความกลัวก็มีข้อดีเหมือนกัน เพราะความกลัว มันจะทำให้ระแวงและระแวดระวังเป็นพิเศษ ด้วยความระวังข้อนี้เลยทำให้สัตว์ร้ายอย่างงู ไม่สามารถมาทำร้ายทั้งตัวเองและผู้อื่นได้

     เปรียบกับการที่เรามีความกลัวในความโลภ ความโกรธและความหลง เราจะระวังมันเป็นพิเศษไม่ให้ครอบงำจิต เพราะเมื่อไหร่ที่มันโผล่มา เราก็หาอะไรมาอุดไม่ให้มันโผล่ได้อีก

-2-

ภาค ๒ ใช่ไหม...ชีวิต

“ความทุกข์เป็นบทเรียนของชีวิต 

เป็นเหตุกระตุ้นเตือนให้ก้าวไปข้างหน้า

พวกเราทั้งหลายจึงไม่ควรย้อท้อต่ออุปสรรค 

ควรเห็นว่า อุปสรรคเป็นเครื่องสร้างกำลังใจ

เป็นปากทางไปสู่ความสำเร็จ”

- หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ -

     ภาคนี้เป็นภาคต่อจากภาคแรกและเล่าเรื่องของคนทั้งหลายที่มีทั้งความคิดในด้านบวกและด้านลบต่อชีวิตของแต่ละคน

เรื่องราวสุดประทับใจ คือ ตอนศัตรูไม่รู้ตัว

     จันทร์นวลไปหาหลวงพ่อและเล่าให้ฟังว่า คุณป้าบอกไม่ชอบเธอ หลวงพ่อถามบอกว่า เป็นอย่างที่คุณป้าว่าหรือเปล่า จันทร์นวลตอบว่า ไม่เป็น ดังนั้น หลวงพ่อบอกว่า ให้กลับไปหาศัตรูที่ทำให้จันทร์นวลเดินทางมาถึงตรงนี้ได้

สิ่งที่ได้เรียนรู้

     ศัตรูคือความโกรธ ความไม่พอใจที่เขาว่าเรา ที่เขาพูดจาไม่ดีกับเรา ทำให้เราถึงขั้นร้อนใจจนต้องเดินทางมาถึงที่นี้เพื่อบอกกับพระและไม่พอมีความหลงผิดร่วมด้วยอีก ยิ่งทำให้ไปกันใหญ่

“หลงผิดในอารมณ์นำพาความทุกข์อย่างยิ่ง”

เรื่องราวสุดประทับใจ คือ ตอนความรู้สึกดีๆ

     ขวัญดีขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งที่บอกว่า ไม่เก็บค่าทางด่วน แถมโดยสารรถฟรีในวันเกิด ขวัญดีถามว่า ทำไปทำไม เขาตอบว่า คนเราเกิดมาอยู่ไม่นาน ควรมีความรู้สึกดีๆต่อกัน พอหลังจากที่ขวัญดีลงจากรถแท็กซี่ ทร๔๑๖๒ แล้ว ก็รู้สึกดี

สิ่งที่ได้เรียนรู้

     ความดี คนชั่วทำยาก คนดีทำง่าย เพราะมันง่ายต่อความรู้สึกดีๆในเรื่องราวที่ดูเล็กน้อยนี้ แต่มันยากต่อที่หลายคนจะทำ ดังนั้น เราประทับใจนะ ว่า ในสังคม ยังมีคนที่สามารถทำความดีในแบบฉบับของเขาได้

-3-

ภาค ๓ ช่างเปราะบาง

“ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ คือชีวิตที่อยู่ด้วย

ทาน ศีล เมตตา และกตัญญู”

- หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต -

     ภาคนี้เป็นภาคเล่าสรุปของชีวิตทุกชีวิตในโลก ว่า ช่างเปราะบางยิ่งนัก ดั่งคำพูดของพ่อเราเคยบอกว่า 

“ชีวิตน้อยๆก็มีค่า”

      มันเป็นคำพูดสั้นๆแต่กินใจ ว่า คนเราเกิดมาก็ลำบากขนาดไหน แล้วทำไม หลายต่อหลายครั้ง คนเราเลือกทางออกที่จะฆ่าตัวตาย เพราะเพียงความผิดหวังที่เราหลงในอารมณ์นั้นเอง คนเหล่านั้น คือ คนที่ไม่เมตตาตัวเอง และไม่กตัญญูรู้คุณพ่อแม่ที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเรามาอย่างแท้จริง

เรื่องราวสุดประทับใจ คือ

ตอนคน (เคย) คิดฆ่าตัวตาย

     เอื้อยขับรถแท็กซี่และรับผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมา จะไปสะพานพระรามแปด และเขาถามเอื้อยว่า เคยอยากฆ่าตัวตายไหม เอื้อยตอบว่าเคยและเล่าเรื่องชีวิตตัวเองให้เขาฟัง ทำให้เขายอมรับว่า ครั้งแรก เขาจะไปฆ่าตัวตายแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจจะกลับไปหาแม่แล้ว

สิ่งที่ได้เรียนรู้

     ชีวิตหมาแมว มันก็ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย มันคิดแต่จะสู้เพื่อความอยู่รอดและพึ่งพาในธรรมชาติ แต่ชีวิตมนุษย์นี้ล่ะ ทำไมถึงกล้าคิดฆ่าตัวตาย เพราะเพียงความหลงผิดชั่วคราวเท่านั้น หลงในทุกข์จนวนไปเวียนมา หาทางออกไม่เจอ และสุดท้ายเลยเผลอคิดผิด แต่เพราะเหตุการณ์นี้ คือ การพลิกนิดเดียวของความคิดที่เปลี่ยนอยากมีชีวิตขึ้นมา ซึ่งก็ส่งผลดีต่อตัวคนนั้นเอง

5 เหตุผลที่เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้

1. อย่าอวดรู้

แม้จะมีดีให้อวด ก็อย่าอวดดี

เพราะถึงจะอวดไป ก็ไม่มีใครชอบ

พุทธทาสภิกขุ

“หลายคนชอบอวดรู้ อวดเก่ง

ว่าเราเก่งกว่าทุกคนในโลกไปหมด 

เรารู้ทุกเรื่อง ซึ่งหลายต่อหลายครั้งก็รู้จริง

แต่มันกลายเป็นว่า ไปสร้างความรู้สึกไม่พอใจ 

ความรู้สึกอิจฉาให้กับคนอีกคน 

ดังนั้น ถึงแม้เราจะรู้จริง

เราควรเงียบ เพราะ จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย 

ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน”

2. การถือสัจจะ

การแก้กรรมที่ถูกต้อง ในความหมายของพระพุทธองค์ 

คือ การตั้งใจมั่นว่า จะไม่ทำสิ่งนั้นอีกต่อไป

ชยสาโร

“คนเราควรต้องมีสัจจะในตัวเอง ว่า 

เราตั้งมั่นในการไม่ทำผิด 

ไม่หลงผิด และคิดที่จะทำแต่คุณประโยชน์

ต่อตนเองและผู้อื่นเท่านั้น”

3. ความพอดี

อย่าดีใจจนเกินไป อย่าเสียใจจนเกินไป อย่าร้อนใจจนเกินไป

ให้อยู่ในความพอดี ให้ถูกหลักศีลธรรม

หลวงปู่สาย เขมธัมโม

“หลายต่อหลายครั้งที่ทำอะไร

จนมากเกินไปหรือน้อยเกินไป 

จนมันเป็นอะไรที่ผลลัพธ์ออกมาคือ ทุกข์มากกว่าสุข 

แต่เมื่อใดที่ปล่อยวางและหาความพอดีในชีวิตได้

เราพบว่า ความสุขอยู่แค่ตรงหน้า”

4. อย่าสนความคิดคนอื่น

อย่าห่วงที่เขาไม่รู้ว่าเราดี แต่จงห่วงว่าเรานี้ดีจริงหรือเปล่า

หลวงปู่บุญกู้ อนุวัฒโน

“เวลาที่เราคิดว่า 

ทำไมคนอื่นถึงไม่เห็นคุณค่าความดีของเรา 

ทำดีแล้วไม่ได้ดี ตอนนี้เองล่ะ ที่จริงๆคือ 

เราหลงผิดในความคิดของเรา

และจริงๆแล้ว เรายังดีไม่พออีกด้วย เพราะ ถ้าเราดีพอ 

ไม่ต้องไปสนใจความคิดของคนอื่นเลย

เราเพียงแค่ตั้งใจทำต่อไป ถึงแม้คนไม่เห็นแต่เราเห็น”

5. โลกธรรม ๘

เราเกิดมาโดนนินทาและสรรเสริญ 

อย่าไปรับเอามาหนักไว้ในใจ

ปล่อยผ่านไปเสีย

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

“ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันล้วนไม่เที่ยงทั้งคำด่าและคำชม ถ้าเรายึดมั่นถือมั่นในคำเหล่านั้น 

เราจะพบทางทุกข์ตลอดไป

แต่ถ้าเพียงแค่เราเป็นผู้รับฟังและรับสิ่งกระตุ้นนั้น

แล้วปล่อยผ่านไปเสีย 

จะไม่มีโลกธรรมใดทำร้ายเราได้”

เราเรียนรู้ความจริงของเราผ่านเรื่องราวทั้งหมดในหนังสือ ว่า แต่ละสรรพสิ่งมีชีวิตในโลกล้วนอยู่ในห้วงอารมณ์เดียวกัน

“ระวังในการคบคนพาล 

โดยเฉพาะ คนพาลนั้นคือใจตัวเอง” 

"อารมณ์พาลนำทุกข์มาให้

เปรียบดั่งใจซ่อนกลิ่นชั่วไว้

ทุกๆวันเราได้กลิ่นอันตราย

กลิ่นแห่งร้ายนำโรคมาสู่ตน

อารมณ์ดีนำสุขมาให้

เปรียบดั่งใจกลิ่นหอมสู่ตน

เหมือนคำสอนให้เป็นคน

ใจของตนนี้นำสุขนิจนิรันดร์"

“ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องเล่านี้จนจบค่ะ 

ความสุขอยู่เบื้องหน้า เพียงใช้ตาใจมองค่ะ”

Look a Breathe