“เธอคือน้องสาวศัตรูที่ถูกส่งมาเพื่อกำจัดอวิชชาในตัวเขา
ซึ่งเขาเกือบตาย เพราะรักเธอ"
เนื้อหาสาระสำคัญในหนังสือ
“เรียนจากกู ห้ามมีเมีย
มึงว่ามึงทำได้ แล้วกูจักคอยดู”
พันแสงตัดสินใจเรียนอวิชชา อาถรรพ์เวทกับครูเพื่อที่จะตัดสินใจที่จะเก่งและกำจัดคนฉ้อฉลทั้งหลายในแผ่นดิน และไม่เพียงเท่านั้น เขาจะจัดการกับเสือพรายที่ฆ่าพ่อเขาและทำให้ทั้งครอบครัวต้องตายยกเว้นเพียงเขาที่รอดชีวิต
พันแสงทั้งเก่งและไม่มีใครที่จะเทียบได้ในผืนแผ่นดินอโยธยาแห่งนี้ แต่สิ่งสำคัญของการเรียน คือ ห้ามมีความรักและจักต้องอยู่เดียวดายตลอดไป
พันแสงหรือขุนสุริยนหัสดีได้บังเอิญเจอกับชวาลาถึงสองครั้งสองครา โดยคราแรกเจอกันที่ตลาด เพราะชวาลาแอบไปขายของในตลาด และไปช่วยเจ้าโคแก่คู่เพื่อนทุกข์ของนาง เลยทำให้เจอกับพันแสงโดยบังเอิญ เพราะพันแสงได้โอบอุ้มช่วยเธอไว้ให้รอดพ้นจากกองทหารม้าของตัวเองที่เข้ามา
และคราที่สอง ชวาลาหนีไปพิษณุโลก แต่ระหว่างทางที่ตัวเองขอโดยสารเกวียนเพราะเข้าใจว่าเป็นแป้งหอม ถูกทหารพร้อมพันแสงจับกุมอีก เพราะจริงๆแล้วในเกวียนคือดินประสิวและนางก็ถูกมัดตรวจเป็นเชลยแต่ได้เป็นลมหมดสติเพราะเจ็บขาเลยถูกโอบอุ้มอีกคราหนึ่ง
และไม่เพียงเท่านั้น หมื่นวรไชย ศัตรูคู่อาฆาตของพันแสงดันออกข่าวเสียหายว่า พันแสงแอบได้เสียกับชวาลา เพราะจริงๆแล้ว ชวาลาคือ น้องสาวศัตรูของพันแสง ดังนั้น เลยต้องมีการจัดงานแต่งงานพระราชานให้กับทั้งสอง
ซึ่งสร้างความเคือบแคลงสงสัยให้กับพันแสงเป็นอย่างมากว่า ชวาลาตั้งใจที่จะมาเป็นสายให้กับพี่ชายหรือไหม แต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไหม เพราะชวาลา ก็มีความยุติธรรมในการที่จะว่าไปตามผิด
ดังนั้น เมื่อชวาลามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันแล้ว ทำให้พันแสงยังอดที่จะระแวดระวังไม่ได้ว่า ชวาลามีอะไรหรือไม่ แต่ก็จะอดห่วงไม่ได้เช่นกัน เลยให้ทหารช่วยตรวจตาดูการเคลื่อนไหวของชวาลา
แต่ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแล้วพันแสงกลับได้รู้ว่า ชวาลาไม่ได้เป็นอย่างที่ตัวเองคิดไม่พอ แล้วตัวเขาเองนี้ล่ะ ที่กลับรู้สึกรักชวาลาขึ้นมาโดยที่ต้องพยายามหักห้ามใจ ส่วนชวาลาก็เช่นกันที่รู้สึกหลงรักสามีตัวเองเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้นจะมีแม่หญิงพิมพิไลที่ชอบมาทำให้ชวาลาเข้าใจผิด แต่ด้วยความมีเหตุผลและรักของพันแสงทำให้ทั้งสองคนผ่านพ้นเรื่องร้ายไปด้วยกันได้ตลอด
หลังจากนี้จะสปอย
เนื้อหาสาระสำคัญในหนังสือ
หมื่นไชย พี่ชายชวลาวางแผนกำจัดพันแสงอยู่หลายครั้ง โดยใช้ละออซึ่งเป็นเด็กสนิทของชวาลาในแผนการอยู่หลายครั้ง โดยที่ลออไม่อยากจะทำเลยสักครั้ง แต่ก็ต้องทำเพราะถูกบังคับ ไม่ว่าจะเรื่องที่ทำให้ชวาลาเกือบจมน้ำตายแต่พันแสงมาช่วยไว้หรืออะไรอีกมากมาย
โดยเฉพาะการทำยาเสน่ห์ใส่พันแสง โดยที่ให้ละออเอากลกามาใส่ท่านขุนให้หลงรักน้องสาวอย่างชวาลา โดยหารู้ไหมว่าจริงๆแล้วทั้งสองรักกันโดยไม่ต้องพึ่งของต่ำนั้น
ส่วนชวาลาย่อมระแวงพี่ชายอยู่แล้ว เลยระมัดระวังเป็นพิเศษ และพบดอกไม้ชนิดนี้ เลยรีบเอาออกมาก่อนที่พันแสงจะทันได้ดื่มหรือได้กินเข้าไป
คืนก่อนเกิดเหตุจากผลที่ตามมาของพี่ชายชวาลานั้น พันแสงได้ให้ชวาลาเข้าไปนวดตัวให้และพันแสงก็ได้ทายาให้ชวาลาเพราะรู้ว่า ชวาลาถูกคนที่จับตัวไปทำร้าย และก็ทั้งสองนี้เองที่เผลอไผลจุมพิตกันและกัน แต่ชวาลากับกังวลใจเข้าใจ คิดว่า พันแสงถูกมนต์ดำก็เลยแอบเผลอไผลไม่กล้าคิดหรือทำสิ่งใดต่อไป
ผลจากการทำมนต์ดำหรือเล่นของใส่ ทำให้พี่ชายของชวาลาต้องอาญาโทษประหารชีวิต เพราะเนื่องจากชวาลามาเป็นพยานในการทำผิดของพี่ชายต่อสามีอย่างพันเเสง และพันแสงช่วยไม่ให้ชวาลาถูกว่าร้ายเช่นกัน เพราะทั้งคู่นั้นมีใจที่เอื้ออาทรและรักกันอย่างมากแล้ว
และไม่เพียงเท่านั้นแม่หญิงพิมพิไลก็ยังเอาปิ่นทองของชวาลามาใส่ร้ายนางอีก แต่พันแสงสามารถที่จะปกป้องชวาลาได้จากความกล่าวหานี้ได้ทุกประการ ซึ่งโทษเดียวกับหมื่นวรไชย
หลังจากนั้น พันแสงได้ยืนยันกับชวาลาว่า ไม่ใช่เพราะกลกามาแต่เพราะชวาลาที่ทำให้เขาทั้งรักและหลงใหลเช่นนี้
ซึ่งก่อนที่หมื่นวรไชย พี่ชายของชวาลาจะตายได้รู้ความจริงว่า ใครกันแน่เป็นคนฆ่าพ่อแม่เขาจนตาย จึงได้ยินยอมขายวิญญาณตัวเองเป็นวิญญาณอาฆาตเพื่อมากำจัดคนที่ฆ่าพ่อแม่เขา
และแล้วความจริงที่คาดไม่ถึงก็ปรากฏแก่สายตาของชวาลา เมื่อดันมารู้ว่าจริงๆแล้ว พันแสงกับเสื้อพรายเป็นเพื่อนกันและเรียนอาถรรพเวทจากที่เดียวกันอีกด้วย แต่ด้วยความรัก ทำให้ชวาลาพยายามที่จะเข้าใจในสิ่งที่พันแสงเป็นอยู่กับเสือพรายในขณะนี้
และพันแสงได้ต่อสู้กับหลวงบวรทัตพร้อมกับเสือพราย ไม่เพียงเท่านั้น โหงพรายอย่างหมื่นวรไชย พี่ชายชวาลาก็เข้ามาช่วยด้วย เพราะจริงๆแล้ว มีคนปลอมตัวเป็นเสือพรายมาทำร้ายผู้คนโดยใช้หลวงบวรทัตในการร่วมมือฆ่าคนด้วย
และคนที่เป็นเสือพรายตัวจริง คือ อ้ายแถนสีนิลที่ปลอมร่างเป็นพระยาแก้วเการพ พ่อของแม่หญิงพิมพิไล ในการทำความชั่วให้มาก เอาทุกอย่างของแผ่นดินมาเป็นของตัว และนี้ก็ได้ต่อสู้กันด้วยไสยเวทย์อย่างมันส์ที่ทุกคนเกือบพลาดพลั่ง แต่สุดท้ายธรรมมะย่อมชนะอธรรม
ซึ่งแม่ชี อาจารย์ที่สอนวิชาพันแสง บอกให้ปล่อยข่าวว่า ชวาลาตายแล้ว แต่จริงๆอยู่กับตน เพื่อให้ชวาลาไม่ไปทำลายแผนการของพันแสงแต่ชวาลาก็อดที่จะเป็นห่วงพันแสงไม่ได้
และเมื่อทุกเรื่องจัดการเรียบร้อยแล้ว เสือพรายตัวจริงทำหน้าที่ถอนอวิชชาให้กับพันแสง และในไม่ช้าพันแสงก็สามารถหลุดพ้นจากอวิชชาทั้งหมดนี้ได้
เรื่องนี้ก็ดำเนินมาถึงสุดท้ายของทั้งคู่ที่ได้พบกันหลังจากกันนานไม่ถึงสี่ปี และมาถึงที่ทั้งคู่จะรักกัน โดยที่พันแสงมั่นใจไว้แล้วว่า ใจขังเจ้าตลอดไป
ตอนพิเศษ
เล่มนี้มีตอนพิเศษถึงสามตอนและแต่ละตอนชวนให้หวานกับโรแมนติกสุดหัวใจ เรามาดูกันทีละตอนกันเลยค่ะ
ตอนแรก เจ้าตัวเล็กๆ
ชวาลากับพันแสงได้มีอะไรกันโดยมีแต่คำพูดเปรียบเปรยให้ดูสวยงามและชวนจินตนาการด้วยตัวเองว่า พูดถึงอะไร แต่ทำให้เรารู้สึกสนุกสนานในการคาดเดาคำได้อย่างสนุก และเมื่อเลยถึงจุดที่ทุกอย่างสุขสม ชวาลาก็ฝันว่าจะต้องมีเจ้าตัวเล็กมาแน่
ตอนสอง ระลึกถึง
ชวาลาได้พาหลานมาไหว้หมื่นวรไชย และได้รู้ว่า ถึงแม้หมื่นวรไชยจะทำร้ายพันแสงขนาดไหน แต่พันแสงเลิกถือสาและแถมยกโทษให้อีกด้วย
ตอนสาม ในช่วงชีวิตหนึ่ง
ครอบครัวที่อบอุ่น ที่ไม่ว่า จะมีอะไรมาขวาง แต่ความดีย่อมชนะทุกสิ่ง ถึงแม้ว่า ตอนแรกอาจจะเริ่มต้นจากการเรียนไสยเวทย์ มนต์ดำก็ตาม แต่สุดท้าย ที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อแผ่นดินและคุณงามความดีเท่านั้น
วิเคราะห์ตัวละคร
พันแสง
พระเอกเรื่องนี้มีครบเลย เงียบขรึม แต่ในใจแอบห่วงหาอาทร ขี้หึงแต่มีเหตุผล และพยายามช่วยเหลือนางเอกอย่างชวาลาตลอด ทั้งมอบความไว้ใจให้กับชวาลา ไม่เพียงเท่านั้นก็อดทน พยายามจะอดทนที่จะไม่เข้าใกล้คนรักอย่างชวาลา และพันแสงทำให้เรารู้สึกถึงความยับยั่งชั่งใจหลายต่อหลายอย่างและก็ทำให้เราอมยิ้มกับความน่ารัก อบอุ่นเวลาอ่านและคะนึงหาเมื่ออ่านเล่มนี้จบแล้ว ก็ขอฝากตัวเป็นแฟนคลับติดตามทุกเรื่องไป เพราะชอบพระเอกแนวนี้มาก
ชวาลา
นางเอกเป็นคนที่มีเหตุผล ฉลาดมีไหวพริบ หูหนักและรักเดียวใจเดียวอย่างพันแสง คือ ไม่ไปรักใครนอกจากสามีของตัวเองเท่านั้น พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยสามีตัวเอง แถมเป็นคนน่ารัก ไม่เรื่องมาก ไม่เอาเรื่องอะไรไประคายหูสามี และเชื่อใจสามีอย่างว่าง่ายและมั่นคงในรักเดียวใจเดียวนี้ เราชอบนางเอกแบบนี้ เพราะไม่ขี้โวยวาย มีเหตุผล มีความเป็นคนสูง ทำให้เราอ่านลื่นไหล และหลงรักชวาลาได้อย่างไม่ยาก แถมทำให้เชื่อสนิทใจว่า ทำไมพันแสงถึงต้องรักชวาลา เพราะเป็นผู้หญิงที่นิสัยน่ารักอย่างนี้นี้เอง
ส่วนตัวละครตัวอื่นทั้งตัวร้ายฝ่ายชายและฝ่ายหญิง แสดงถึงด้านมืดของจิตใจมนุษย์ได้อย่างมาก ซึ่งมีคนครบทุกประเภท ไม่ว่าคนโลภ คนหลง คนโกรธ ที่แต่ละตัวละครทำให้เรื่องนี้มีเสน่ห์และผูกปมให้เราค้นหาจนจบทีเดียว
วาทกรรมคำคมจากหนังสือ
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” และเมื่อทำชั่วอย่างมากก็ต้องได้อย่างสาสมกับความชั่วที่มันทำไว้ต่อกับคนอื่นและต่อกับแผ่นดิน
เราคิดว่าคนเราจะชั่วช้าขนาดไหน ก็ไม่ควรทำผิดต่อแผ่นดินที่ให้กำเนิดเราขึ้นมา คนที่ทำชั่วกับคนในแผ่นดิน ไม่ว่าด้วยตรงหรืออ้อมก็ต้องย่อมนำพาความทุกข์ใจแสนสาหัสทั้งก่อนและหลังความตายเป็นแน่แท้ เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ใครทำความชั่วกับเราไว้ด้วยกาย วาจา ใจ ก็จักต้องได้รับผลของกรมมนั้นแน่นอน
ความรู้สึกส่วนตัว
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่นักเขียน คุณครามผูกเรื่องได้ดีมาก สนุก น่าติดตาม จนวางไม่ลงทีเดียว ขนาดต้องอ่านข้ามวันข้ามคืน ไม่หลับไม่นอน เพราะทนไม่ไหว จะต้องดูจนจบให้ได้ เพราะมีเงิบหลายเงิบ มีให้ตื่นเต้นและลุ้นระทึกใจหลายตอน
แต่ขอบอกว่าชอบความหวาน ความโรแมนติก ความน่ารักของพระนางคู่นี้มาก ที่ชวนให้เราอมยิ้ม เคลิบเคลิ้ม ว่าอะไรจะหวานขนาดนี้
เรามีหลายฉากที่ชอบในเรื่องนี้นะ อย่างเช่น
ฉากที่ชวาลาเกือบจมน้ำตายและพันแสงมาช่วยไว้ เมื่อช่วยขึ้นมาจากน้ำ เสื้อผ้าได้หลุดไปจากชวาลาหมด ทำให้พันแสงถึงกับช็อก เพราะตัวเองก็พยายามที่จะไม่คิดถึงชวาลาแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ และพันแสงรีบเดินหนีไป แต่สุดท้ายก็มาช่วยทายาขาให้
ฉากที่ชวาลาทะเลาะกับคุณหญิงนวลฉวีและคุณปรางค์ทอง เพื่อพันแสง เพราะของๆใครๆก็หวง ซึ่งแสดงถึงความมีเหตุผลและความเอาใจใส่สามีเป็นอย่างมาก
ฉากที่ชวาลารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่รู้จักพันแสงเท่ากับแม่หญิงพิมพิไล และพันแสงตอบอ้อมๆว่า ไม่มีเพื่อนหญิง เป็นการตอบสั้น แต่ได้ใจความว่า เขาหวงเธอแค่คนเดียว
ฉากที่ชวาลาจะขอหนีไปจากพันแสง เพราะกลัวจะเป็นตัวเองที่เป็นคนทำร้ายพันแสง ซึ่งพันแสงก็รู้สึกโกรธ ไม่ให้ไป ก็เพราะรักคำเดียวที่ทำให้ใจคะนึงหาและไม่สามารถปล่อยคนรักของตนไปไกลตัวเขาได้
ฉากที่พันแสงเข้าข้างชวาลาจากที่โดนแม่หญิงพิมพิไลใส่ความให้เข้าใจผิด ซึ่งคือแสดงความเป็นเจ้าของเจ้าของและบอกเป็นนัยว่า อย่าเผือกเรื่องของผัวเมีย คนนอกไม่เกี่ยว
ฉากที่พันแสงได้บรรจงมอบจุมพิตให้หลังจากที่เฉลยแก่ใจกับชวาลาแล้วว่า เพราะว่ารักชวาลาไม่ใช่กลกามาแต่อย่างไร
“รักเอ๋ยรัก
ชื่อว่ารักนั้นมีอยู่จริงฤาไม่
เปรียบร้อยรุ้งพาดพนาลับคลาไคล
เปรียบน้ำค้างพร่างธรามลายเลือน
รักเอ๋ยรัก
จึงใช่รักที่โอบอุ่นในคืนหนาว
ดุจพิรุณพราวพรมภพรดจราว
ดุจเดือนดาวสุกสกาวนำมรรคา
รักเอ๋ยรัก
หากถลำรักสุดจักหักพรากรักแม้อาสัญ
ให้กำสรวลระทมโศกม้วยชีวัน
มิอาจจากเจ้ามิ่งขวัญจนวายปราณ”
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้สามารถอธิบายถึงความชอบทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้ได้เป็นอย่างดี
เรื่องความรักที่เริ่มต้นจากความระแวง แต่เมื่ออยู่ด้วยแล้วก็เต็มไปด้วยรักที่จะต้องขังเจ้าไว้ในใจตลอดไป
“รักจริงทุกทิวาร่วง
รักไม่ลวงทุกทิวา
รักแท้ตามเวลา
เดินตามมาทุกวิถี
รักนั้นเฝ้าค้นหา
รักเวลายามอยู่กัน
รักกันทุกๆวัน
มีกันนั้นที่ทักทาย”
Look a Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in