สวัสดีค่ะ ทุกคนชอบมองพระจันทร์ไหม
เราเป็นหนึ่งคนที่ชอบมองพระจันทร์ เพราะเรารู้สึกแปลกใจเกี่ยวกับแสงสว่างของพระจันทร์
เวลาเรามองดวงอาทิตย์ ตาเราบอดได้ เพราะแสงสว่างจะสว่างจ้าเกินตามนุษย์จะมองได้ในเวลาสั้น
แต่ผิดกับแสงพระจันทร์ที่เราสามารถมองแสงนวลๆนั้นได้เวลายาว แสงสว่างนวลนี้ทำให้โลกสว่างไสวในตอนกลางคืน ทำให้คนมองเห็นกันในยามกลางคืน และยังเป็นเครื่องเตือนใจว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องพักผ่อนกายใจ
เราชอบมองพระจันทร์ที่ดวงดาวรายล้อมหรือวันฟ้าโปร่งที่ไม่มีดวงดาวรายล้อม มีแต่พระจันทร์ดวงเดียวลอยเด่นนั้นทำให้เราจินตนการเสมอว่า มีอะไรอยู่บนนั้น มีคน มีกระต่าย มีหมีอยู่ในนั้นไหม ซึ่งนั้นเป็นเรื่องที่คิดแล้วก็สนุกใจดี
วันนี้จะมาพูดถึงหนังสือเล่มหนึ่งค่ะ หนังสือเกี่ยวกับเด็กและดวงจันทร์ของจิมมี่ เลี่ยว นั้นคือ
"ดวงใจในดวงจันทร์ (The Moon Forgets)"
เรื่องนี้เริ่มต้นที่เด็กคนนึงไปเก็บพระจันทร์ที่ดับไปแล้วได้ พระจันทร์ได้หายไป ทุกชีวิตวิตกกังวลและกลัวมาก
วันนึง ดวงจันทร์ออกมา มีการขนดวงจันทร์ไปยังเมืองต่างๆที่มืด ทุกคนมีความสุข ลืมความกลัวไปชั่วขณะ
ดวงจันทร์เหล่านั้นมีรอยยิ้มเสมอไม่ว่า ทุกคนจะทำอะไรกับมัน มันส่องแสงพร้อมส่งรอยยิ้มให้ทุกคนเสมอ
เด็กที่เก็บดวงจันทร์มาเลี้ยงก็ช่วยเหลือ ดูแลอย่างดี แสงสว่างของดวงจันทร์ที่ส่องแสงทั้งสว่างจนมืด เด็กกับพระจันทร์เล่นด้วยกัน
เด็กเริ่มเข้ากับคนไม่ได้ แต่เด็กก็มีความสุข มีความกล้าที่จะสู้เพื่อความถูกต้องของเด็กและจันทร์
วันนึงดวงจันทร์ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เด็กก็เล่นกับดวงจันทร์ ช่วยดวงจันทร์จากพายุ จนสุดท้ายเด็กได้ไปอยู่กับพระจันทร์
ขอบคุณทุกจินตนการที่ทำให้เด็กโต
"สำหรับเรื่องนี้เราได้เรียนรู้อะไรมากมาย"
1.) ความสัมพันธ์ของดวงจันทร์คือจิตใจ
- จิตใจเรามีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง เมื่อใจสว่างก็พบกับทางออก เมื่อใจมืดก็ไม่พบทางออก และตัวเราสามารถเลือกทางออกให้ใจโดยเป็นเเสงสว่างส่องสว่างเมื่อยามไม่พบทางออก
2.) ความสัมพันธ์ของดวงจันทร์คือสังคม
- สังคมทำให้เราเป็นคนที่ถูกจดจำและเป็นคนที่ถูกหลงลืม แต่ตัวเราเองต่างหากที่สามารถทำให้สังคมจดจำได้เมื่อเราเป็นตัวของตัวเอง
3.) ความสัมพันธ์ของดวงจันทร์คือตนเอง
- ดวงจันทร์เปรียบเหมือนดวงตาที่มองเห็นตนเองและไม่เห็นตนเอง บางทีเราเห็นว่าตนกำลังทำอะไรผิด เราก็รีบแก้ไข ส่วนบางสิ่งที่มองไม่เห็นก็ใช่ว่าจะไม่มี ดังนั้น เราควรต้องระวังทั้งในสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น เพื่อตัวเราเอง
4.) ความสัมพันธ์ของดวงจันทร์คือความจริง
- ดวงจันทร์เปรียบเหมือนความจริงในชีวิตของคนเราที่พบทั้งทุกข์ทั้งสุข ทุกข์สุขล้วนไม่อยู่นาน เมื่อเรารู้ทัน มันก็หายไป แสงดวงจันทร์ที่ไม่ว่ามืดหรือสว่างก็คือดวงจันทร์ดวงเดียวกัน เหมือนกับความจริงที่ไม่ว่าทุกข์หรือสุขก็คือตัวเราที่ประสบนี้ แต่สุดท้ายมันจะมลายหายไป
5.) ความสัมพันธ์ของดวงจันทร์คือชีวิต
- ดวงจันทร์เปรียบเหมือนชีวิตที่มีทั้งสมหวังและผิดหวัง คนเราไม่มีทางสมหวังทุกเรื่องและคนเราไม่มีทางผิดหวังทุกเรื่องเช่นกัน มันแค่ว่า ไม่ใช่วันของเรา แต่เมื่อถึงวันนั้นแล้ว เราก็จะไม่หลงระเริงกับมัน เพราะเรารู้แล้วว่า ชีวิตมีสองด้านคือสมหวังและผิดหวังเท่านั้นเอง
"อย่าลืมว่า ไม่ว่าดวงจันทร์หันทิศทางใด จะมืดหรือสว่าง นั้นก็คือดวงจันทร์เหมือนกัน เปรียบดังเหมือนชีวิตคนเราไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ สมหวังหรือผิดหวัง ถูกคนจดจำหรือหลงลืม และถูกคนมองเห็นหรือมองไม่เห็น คนๆนั้นก็คือเรา"
ความจริงในชีวิตเราเปรียบดังแสงดวงจันทร์ที่สว่างและมืด
"หากเปรียบดวงจันทร์เป็นดวงใจ
ดวงในใจที่ส่องสว่างสดใส
ดวงใจส่องสกาวสว่างไสว
ดวงใจคือจิตใจยามสกาว
บางทีทุกคนก็หลงลืม
ได้ใจคืนก็เหมือนจะจดจำ
สุดท้ายล้ำหน้าก็ลืมอีก
ว่าจดจำนั้นเป็นอย่างไร
จิตใจคนเรานั้นหยั่งยาก
เหมือนกับอยากตลอดเวลา
ทั้งโหยหาสุขตลอดไป
สุดท้ายไม่บางทีเจอทุกข์เอย"
-- Look a Breathe --
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in