สวัสดีค่ะ เราทุกคนออกมาจากทุกข์ได้อย่างไร
ทุกคนเคยคิดไหมว่า ทุกข์นี้มันใหญ่หลวงนัก ทุกข์นี้มันไม่สามารถหาทางออกได้ แล้วทุกข์นี้จะออกได้อย่างไร ในเมื่อแสงสว่างปลายอุโมงค์ เรายังไม่เห็นเลย
เพียงแค่ทุกคนนั่ง หายใจเข้าออกยาวๆ ทำใจสบายๆ แล้วมองใหม่ ว่า ปัญหาอยู่ตรงไหน เราจะพบเหตุและสามารถแก้ไขเหตุนั้นได้ ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็จะดีเอง
เราได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้ ซึ่งก็คือ
"แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นจริงๆนะ"
เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่า เจ้ากระต่ายตัวน้อยได้สอนอะไรเรามากมาย โดยแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1: วันหนึ่งเมื่อหัวใจชวนคุย
การเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ
"เรียนรู้ที่จะเคารพตนเอง เมื่อไหร่เราเลิกยึดติดในอดีตและอนาคต ซึ่งเราทำปัจจุบันให้ดี ชีวิตเราก็จะดี และเราทำปัจจุบันไม่ดีชีวิตอนาคตเราก็ไม่ดี
เมื่อไหร่ก็ตามทุกอย่างอยู่ที่ความคิด ความทรงจำ อารมณ์ ของเราในทุกเวลาที่มีทั้งทุกข์และสุข บางสิ่งก็ควบคุมไม่ได้ ควรปล่อยมันไป บางเวลาก็ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว ดังนั้นเราไม่ควรเอาโซ่มาคล้องในใจเรา"
ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อวาน เราพลัดตกลงไปในหลุมลึกหนึ่ง ร้องขอให้มีคนมาช่วย มีคนมาช่วยเหลือจนออกมาได้แล้ว
วันนี้เราเดินทางมาที่เดิม เราไม่มีทางตกลงไปในที่นั้นอีก เพราะเรารู้จักที่จะไม่ประมาท
วันพรุ่งนี้ เรารวมทั้งทุกคนก็จะไม่ตกในหลุมนี้ เพราะเรารู้แล้วว่าหลุมนี้อยู่ที่นี้
เพราะเหตุการณ์นี้คือ การเคารพตนเองที่เพราะเมื่อเราตกลงไป เป็นส่วนหนึ่งทำให้ทั้งเราทั้งเขาไม่ตกลงไปในหลุมนี้
"ตัวอย่างนี้คือเมื่อไหร่ที่เราเคารพตนเอง ถึงแม้บางทีเราเคยเจ็บมาแล้ว เราก็จะรู้ว่าเราจะไม่เจ็บเพราะสิ่งนี้อีก แล้วเพราะความเจ็บครั้งนี้ ทำให้คนอื่นไม่เจ็บด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเคารพตนเอง ทุกคนก็จะเคารพในตัวเราด้วยเช่นกัน"
ส่วนที่ 2: ถึงแม้พยายามเป็นคนแสนดี
การเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ
"เราได้เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง โดยที่ไม่มีใครทำอะไรเราได้นอกจากตัวเราเอง อย่าลืมว่า เราทุกข์ที่ตัวเอง เราสุขที่ตัวเอง ไม่มีใครทำอะไรเราได้ นอกจากเราเอาใจของเราไปใส่ในความคิด ในการเปรียบเทียบกับคนอื่นเอง
เมื่อไหร่เรามีอคติต่อใคร ใจเราก็ทุกข์
เมื่อไหร่เราไม่มีเวลาให้ตัวเอง ใจเราก็ทุกข์
เมื่อไหร่เราพาอารมณ์ให้วนเวียนกับสิ่งที่ผ่านมา ใจเราก็ทุกข์
เมื่อไหร่เราชักใยตัวเองไปในทางที่ผิด เมื่อนั้นเราก็ทุกข์
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะรักตัวเอง แบบปล่อยวางสักที"
ยกตัวอย่างเช่น
เราไปรับก้อนหินมา 1 ก้อนเล็กจากคนๆนึง และคนๆนั้นบอกว่า ให้เราแบกไว้ เขาเอามาเติมหลายก้อนจนเราหนักมาก ถึงขั้นจากยืนเป็นนั่ง จนเริ่มทนไม่ไหว แล้วเรายังแบกอีก
วันหนึ่งเราคิดขึ้นได้ว่า เราควรปล่อยหินพวกนี้ทิ้งสักที แค่นี้ชีวิตก็สบายมีความสุข
"ตัวอย่างนี้คือเมื่อไหร่เราปล่อยวางความคิดทุกอย่าง ปล่อยวางเรื่องในอดีต ปล่อยวางเรื่องในอนาคต เราก็จะหมดทุกข์ด้วยการรักตัวเองที่ถูกวิธี"
ส่วนที่ 3: วันนี้ที่หัวใจถูกทำร้ายอีกแล้ว
การเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ
"เรียนรู้ที่เป็นตนเอง ว่า เราควรรู้จักยอมรับในตัวเราเอง และรู้จักปฏิเสธบางสิ่งบางอย่างที่เราทำไม่ได้
บางทีเราอยากหนีความจริงหรืออารมณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นก็เป็นไปไม่ได้ เพียงแค่เราเรียนรู้ที่จะยอมรับมัน อดทนกับมัน เมื่อเวลาที่เหมาะสม ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง
ดั่งความทรงจำในชีวิตบางอย่างทำให้เราจดจำว่ามันดีตลอดไป"
ยกตัวอย่างเช่น
วันนั้นมีคนที่เรารักมาเรียกให้ไปทำร้ายคนๆหนึ่ง
เราปฏิเสธไปว่า เราไม่ทำ
คนที่เรารัก เขาโกรธเรามาก เลยขอเลิกคบกับเรา
เราเดินออกไปจากคนนั้น และเดินไปในทางของเราต่อไป
"ตัวอย่างนี้คือเมื่อไหร่ที่เราทำในสิ่งที่ถูก ปฏิเสธในสิ่งที่ผิด เราไม่ต้องกังวลไป ต้องขอบคุณตัวเองที่เราทำในสิ่งที่ถูกต้องนั้น และต้องดีใจที่คนไม่ดีคนนั้นที่ออกจากชีวิตเราไปได้"
ส่วนที่ 4: อย่างไรก็ยังเหลือหัวใจให้คุณ
การเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ
"ขอบคุณตัวเองที่อดทนผ่านเรื่องร้ายๆเหล่านั้นมาได้จนถึงทุกวันนี้ อดทนที่จะแบ่งปันความสุขที่เรามีให้กับคนอื่น
โดยที่รู้จักขอโทษเมื่อทำผิด ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ ให้อภัยคนที่จะคิดแก้ตัวใหม่ รู้จักคนอื่นและรักคนอื่น แต่สิ่งสำคัญเหล่านั้นคือ ตัวเราเอง เราทำสิ่งเหล่านั้นที่ทำกับคนอื่นให้ตัวเราเองหรือยัง"
ยกตัวอย่างเช่น
วันนี้เราทำจานแตก
แม่บ่นเราไป 15 นาที
เรายังเครียดเรื่องจานแตกเพราะโทษว่าเป็นความผิดเรา
โดยที่จานแตกไปเมื่อ 15 นาทีก่อนแล้ว
เราแค่ให้อภัยตัวเองและคิดว่า จานมันต้องมีแตกบ้าง ไม่งั้นร้านขายจานคงเจ๊ง ที่ไม่มีคนซื้อ เราก็แค่อย่าประมาทเวลาถือจาน
เราขอบคุณตัวเองที่เราเข้าใจความเป็นไปมากขึ้น
เราหายทุกข์
"ตัวอย่างนี้คือ เมื่อไหร่ที่เราเรียนรู้ขอบคุณตัวเอง รู้จักตนเอง ให้อภัยตนเอง ขอโทษตนเอง เราจะสามารถพาตนเองก้าวข้ามผ่านเรื่องเลวร้ายได้อย่างง่าย เพราะทุกอย่างผ่านไปแล้ว ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปไม่ได้เเล้ว"
ส่วนที่ 5: เพราะคุณยังสำคัญต่อฉัน
การเรียนรู้จากเรื่องนี้คือ
"เรียนรู้ความสำคัญที่ใจเรา โดยที่เราจะไม่จมอยู่กับความทุกข์ที่ผ่านไปแล้ว ความเศร้า ความเครียด ความกังวลทั้งหลาย เมื่อไหร่ที่เราเลิกจม เลิกเปรียบเทียบ ใจของเราก็จะพ้นจากสิ่งยึดติดเหล่านั้น
ก่อนอื่นเราต้องมีเวลาให้ใจตัวเองพักบ้าง ให้กำลังใจตัวเองบ้าง อย่าปล่อยใจตามอารมณ์ที่กำลังโลภ โกรธ หลงบ้าง อย่าปล่อยความคิดไปกับอารมณ์ไม่ดี และควรเรียนรู้ผิดชอบชั่วดีจากความทรงจำของเรา"
ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อวานเราเผลอกินของคนอื่นโดยไม่ได้ขอ
วันนี้เราก็รู้สึกผิดอีก
กี่นาทีผ่านไปก็รู้สึกผิด
เราตัดสินใจเดินไปบอกกับคนๆนั้น คนๆนั้นบอกว่า ไม่เป็นไร
เราก็ยังรู้สึกผิดอยู่
นี่หมายถึงว่า เราไม่รู้จักปล่อยวางแต่จมอยู่กับความผิดอยู่ร่ำไป
เมื่อเราเรียนรู้ว่า คนๆนั้นยังให้อภัยเราเลย คราวหน้า เราก็ไม่ทำใหม่ แค่นี้ เราก็เลิกจมกับความผิดตัวเองแล้ว
เราก็หมดทุกข์ในเรื่องนี้ไปเรื่องหนึ่ง
"ตัวอย่างนี้คือ เมื่อไหร่เราทำผิดแล้ว เรารู้จักไปขอโทษแล้ว เราควรให้อภัยตัวเอง เพื่อให้ใจเราไม่ไปยึดติดในความผิดนั้น ทุกคนเกิดมาก็ผิดพลาดได้เท่าเทียมกัน เราเพียงแค่เรียนรู้ข้อผิดพลาดและให้อภัยในสิ่งที่ตัวเราทำด้วยเช่นกัน"
ความทุกข์ ความสุขอยู่ที่การกระทำของใจเราทั้งสิ้น
"ความทุกข์คืออะไรเมื่อใจรู้
ใจเพียงดูว่าทุกข์เกิดจากไหน
เมื่อได้รู้ก็แก้ไขทันภายใน
ใจรู้ใจเท่าทันก็สุขเอย
อย่าปล่อยใจให้ไปกับอารมณ์
อย่ายินยอมเชื่อใจที่พาทุกข์
จะพบใจเมื่อพบสุข
ใจไม่ทุกข์กายหมดทุกข์เสมอไป"
-- Look a Breathe --
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in