เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
HP+Anawat Promjae
บทนำ
  •  

                เชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2548

                การขีดเขียนกระดาษหลังสมุดคณิตศาสตร์ป.6 ได้เริ่มขึ้น ภาพเผยให้เห็นตารางการแบ่งแยกตัวละครตามคาแร็กเตอร์การ์ตูนซึ่งถูกวาดทิ้งไว้พร้อมๆ กับร่องรอยการลบขีด HP หรือพลังชีวิตที่ดำจนเกือบจะมองไม่เห็นทุกอย่างดูเป็นวัฒนธรรมซึ่งถูกสร้างเอาไว้ยาวนาน ทั้ง ดาบไม้สองแท่ง แอปเปิลเพิ่มพลังและชุดเกราะหลายขนาดที่เกิดขึ้นมาจากหัวดินสอไม้แท่งหนึ่งซึ่งกำลังขยับไปมาวาดลูกตุ้มขนาดยักษ์ที่มีหนามอันแหลมคมอยู่ข้างๆ

    เป็นเวลาตี 1 กว่า ๆ ที่ โร่ เด็กชายวัย 12ปี นั่งสร้างเกมกระดาษอยู่ที่โต๊ะทำงานท่ามกลางเสียงการด่าทอของพ่อและแม่ที่ดังลอดเข้ามาผ่านประตูห้องนอนของเขาลูกตุ้มขนาดยักษ์ในสมุดเรียนคณิตศาสตร์ถูกวาดขึ้นมาพร้อม ๆ กับ การกระแทกเท้ากระทบพื้นบ้านของพ่อธนูไฟที่ดูร้อนแรงถูกวาดขึ้นมาขณะที่โร่ได้ยินเสียงข้าวของภายในบ้านแตกกระจาย ทุกอย่างดูรุนแรงไปหมดโร่ได้ยินเสียงคำรามของพ่อที่ขู่ว่าต้องการเงินจากแม่ก็รู้ทันทีว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทุกอย่างดูเป็นเรื่องธรรมดาตั้งแต่โร่จำความได้ภาพการทะเลาะของพ่อและแม่เหมือนหนังที่ฉายซ้ำไปวนมาจนหมดความตื่นเต้นแม้ความเป็นจริงจะรุนแรงแค่ไหนก็ตามแน่นอนว่าเขาพยายามที่จะไม่สนใจมัน

    อีสันดารหมา! คำด่าของพ่อที่กระแทกน้ำเสียงส่งไปให้แม่นั้นชวนให้โร่คิดว่าทั้งสองตัดสินใจแต่งงานกันมาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไงเขาคิดภาพดังกล่าวไม่ออกนอกเสียจากสิ่งยืนยันเพียงอย่างเดียวที่โร่เคยเห็นคือภาพถ่ายของพ่อและแม่ที่กำลังรดน้ำสังข์อยู่ในวันแต่งงาน“ดีจัง” โร่คิดแบบนี้ก่อนจะหันมาพลิกกระดาษไปหน้าต่อไปเขาเห็นภาพสถานที่สำหรับดำเนินเกม ตั้งแต่ภูเขาไฟ ซึ่งมีปีศาจบลาโว้ป่าดงดิบที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ภาพรั้วหนามที่เขายังสร้างไม่เสร็จและร่องรอยการต่อสู้ของผู้เล่นเมื่อกลางวันที่ผ่านมาโร่พยายามนึกว่าเขาอยากจะเห็นอะไรเพิ่มขึ้นมาบนเกมที่เขาสร้างอีก เด็กชายวางหัวดินสอไปที่กระดาษอยู่นานสองนานขณะที่เสียงคำรามของพ่อและแม่ยังคงดังขู่กันไปมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในหัวของโร่จะบอกไม่ให้สนใจแต่เขาก็ปฏิเสธสภาพแวดล้อมตอนนี้ไม่ได้เมื่อยิ่งคิดภาพในเกมไม่ออก เสียงของพ่อและแม่มันก็ลอดเข้ามาดังกว่าปกติ ดังเหมือนกับว่าเขาอยู่ตรงกลางของการทะเลาะวิวาทนั้นโร่รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เขาอยากจะวาดภาพต่อ แต่เขาจะวาดอะไรล่ะ พ่อแม่…. เสียงคำราม เขาคิดอะไรไม่ออก เหงื่อแตกพล่านมือที่จับดินสอก็สั่นไปหมดมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ โร่คิดแบบนั้น มันก็เกิดขึ้นอยู่ทุกวันเขาไม่ควรจะไปเสียสมาธิอย่างที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่ขณะนี้ กระทั่ง….

    อา! โร่ตะโกนคำดังกล่าวออกมาลากยาวจนกลบเสียงทุกอย่าง

    สถานที่แห่งนั้นนิ่งเงียบไปหมด โร่ค่อย ๆหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ปลดปล่อยพลังบางอย่างออกมาเสียงของพ่อและแม่หยุดลง ทุกอย่างนิ่งเงียบเพียงแค่คำตะโกนของเขา อาการสั่นและเหงื่อแตกก็หายลงไปด้วยความรู้สึกนี่เกิดขึ้นกับโร่อยู่เพียงชั่วครู่ก่อนที่เสียงคำรามของพ่อจะกลับมาอีกครั้ง

    กูบอกให้เอามาไง!

    เข้าใจมั้ยว่าตอนนี้มันไม่มีแล้ว คนโง่ ๆแบบมึงเคยเข้าใจอะไรข้างมั้ยไอ้เหี้ย! แม่ของโร่ด่ากลับพ่อสิ่งที่เขาทำลงไปมันไม่ได้เกิดประโยชน์ขึ้นเลยสักนิดพ่อและแม่ยังคงทะเลาะกันเหมือนเดิมโดยไม่สนใจเสียงที่เปล่งออกมาของลูกชายโร่รู้สึกเจ็บใจอยู่ไม่น้อยแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เด็กชายหันมาจ้องมองแผนที่ในเกมกระดาษอีกครั้ง เขาคิดไม่ออกว่าตอนนี้ตัวเองควรทำอะไรต่อไปจนการด่าทอของพ่อและแม่ดำเนินมาถึงประโยคประโยคนี้

    ไอ้ชาติหมา! ไป๊ มึงจะเอาไปกี่บาทก็เอาไปแม่งเอ้ย! พี่น้องกูได้ดีกันหมด ดูกูสิทำไมต้องมาเจอกับอะไรเหี้ย ๆ แบบนี้ด้วย แม่โร่ตวาด

    ชีวิตกูก็เหี้ย! มึงจะทำไมไม่พอใจก็ออกบ้านกูไปเลย! พ่อตอบกลับ

    จริงอย่างที่พ่อกับแม่ของโร่สนทนากัน ชีวิตมันเหี้ย! โร่คิดแบบนั้นและเรื่องเหี้ย ๆ แบบนี้ก็เกิดขึ้นกับเขาอย่างต่อเนื่องไม่เว้นแต่ละวัน  เหี้ย! ไม่มีใครอยากมีชีวิตแล้วตามหลังด้วยคำๆ นี้ แต่พ่อกับแม่ของโร่กับยินดีที่จะมอบคำดังกล่าวให้แก่กันและกันจนเหมือนทุกอย่างภายในบ้านแห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยความเหี้ยจากน้ำเสียงที่ทั้งคู่เปล่งออกมา

    ประตูเหี้ย!

    บ้านเหี้ย!

    เมียเหี้ย!

    ครอบครัวเหี้ย!

    ชีวิตเหี้ย!

     ใช่ชีวิตมันเหี้ย โร่นั่งนิ่งสักพักหนึ่งพิจารณาคำพูดของพ่อและแม่ก่อนจะได้ไอเดีย วาดภาพสถานที่ขึ้นมาสถานที่หนึ่งมันเป็นอาคารขนาดใหญ่ มีตราสัญลักษณ์พยาบาลติดตรงหน้า เด็กชายเขียนคำกำกับอาคารแห่งนั้นข้างๆ ว่า “สำนักอัพพลังชีวิต”

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in