ตอนนี้ทำเพจ Cinemania ใน FB แล้วนะครับ ก็กดไลค์เข้าไปพูดคุยหรืออ่านรีวิวหนังกันได้ ก็จะมี content เล็กๆน้อยๆให้อ่านกันบ่อยๆ จึงอาจจะอัพที่เพจบ่อยกว่า ไปสิงกันอยู่ที่นั่นได้นะจ๊ะ
ก่อนที่จะ
#รื้อหนังเก่า หยิบเรื่องนี้มาดู เราอยากดู
Arrival มากกกก จากที่ดู trailer และกระแสวิจารณ์แล้วคิดว่าพ
ล็อตเรื่องต้องว้าวแน่ๆ แต่ก็รอไปเถอะ มกรา 2017 รอกันจนแทบเหี่ยวกว่าจะเข้าบ้านเรา สุดท้ายเลยคิดว่าลองหาหนังแนวใกล้ๆเคียงกันมาดูดีกว่า เผื่อเขียนให้เพื่อนๆอ่านด้วย ก็เลยหยิบเรื่องนี้มาดู (และเชื่อว่าคงอีกหลายๆๆๆเรื่อง) เพื่อฆ่าเวลากันไปก่อน
ตอนเขียนนี่ก็ยังอึนๆอยู่นะ บอกเลยว่าหลังจากดูเรื่องนี้จบ มีความรู้สึกอึ้งและทึ่งที่ค้างอยู่ในอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกที่เราจะรู้สึกได้เวลาได้พบกับหนังประทับใจและมีการเล่าเรื่องอย่างน่ามหัศจรรย์ นี่คือหนึ่งหนังในตำนานของ Steven Spielberg อย่างแท้จริง
Close Encounters of the Third Kind เป็นหนังที่เกิดในปี 1977 (ปีเดียวกับ Star Wars : A New Hope) มีอายุอานามเกือบ 50 ปี หนังมีความ Pure Sci-Fi อยู่สูง มีแนวคิดจิตนาการเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก เรียกได้ว่าเป็นเรื่องแฟนตาซีที่แปลกใหม่และเริ่มเข้ามามีอิทธิพลการวงการหนังอย่างมากในยุคนั้น ตั้งแต่การจุดประกายของ 2001: A Space Odyssey ที่ Stanley Kubrick ได้ทำไว้ในปี 1968 ซึ่งเป็นหนังล้ำสมัยก้าวข้ามเวลาอย่างที่โลกไม่เคยมีมาก่อน กระแสของความใคร่รู้ใครสงสัยใน UFO เองหรือ Alien ก็ตาม จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อคนในสมัยนั้น Are we alone? เมื่อเริ่มคิดว่านอกจากเราย
ังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆนอกโลกอยู่อีก ก็เริ่มมีการพูดถึงการมาถึงของมันในรูปแบบต่างๆ มีการคาดคะเนหน้าตาหรือรูปลักษณ์ รวมไปถึงความเป็นไปได้ในการสื่อสารกับมนุษย์ ข้อถกเถียงถึงความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิตนอกโลกนั้นเกิดขึ้นมากมาย แต่สิ่งที่คนทั่วไปต้องการจริงๆคือ การได้พบเจอมนุษย์ต่างดาวแค่ครั้งเดียว จะตอบทุกข้อสงสัย และหนังเรื่องนี้ได้ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับประสบการณ์การเจอสิ่งลี้ลับจากนอกโลกไปพร้อมกับตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม
'Close Encounters' หรือการเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตนอกโลก ได้ถูกแบ่งเป็นลำดับขั้นเอาไว้ตามจานบินวิทยา ว่าอาจจะมีถึง 5 ระดับ และเรื่องนี้คือการเผชิญหน้าในลำดับ 3 ซึ่งคือการได้เข้าไปในจานบินและจำเรื่องราวในนั้นออกมาได้
หนังแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ต่างดาวพยายามทดลองสื่อสารกับเราในหลายรูปแบบ มีการสื่อสารผ่านความถี่เสียงที่ดูซับซ้อนในการแปลความหมาย ซึ่งเทคโนโลยีหรือความรู้ของมนุษย์ยังไปไม่ถึงหรืออาจต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากในการหาความหมาย แต่มีการสื่อสารนึงที่ดูเหมือนจะสำเร็จได้ดีนั่นคือการคุยกันผ่านโทรจิต หรือ Telepathy ซึ่งฝั่งลงไปในจิตใต้สำนึกให้เกิดเป็นภาพ แต่การสื่อสารนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความคิดและสติสัมปชัญญะของมนุษย์ โดยเฉพาะตัวละครหลักของเรื่อง
การเล่าเรื่องทำได้อย่างดีในสไตล์หนังยุคเก่าที่ไม่เร่งเร้า ค่อยๆเล่า ทิ้งเวลาให้คนดูเก็บรายละเอียดต่างๆของภาพและอารมณ์ของตัวละครไปตลอดทั้งเรื่อง แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของคนอย่างสมเหตุสมผลและต้องใช้เวลา ซึ่งตรงนี้มีข้อเสียสำหรับคนดูหนังยุคใหม่คืออาจทำให้ง่วงได้
ด้าน
Special Effect ต่างๆของหนังเรื่องนี้ ถือว่ายอดเยี่ยมมากสำหรับหน
ังในยุคนั้น เทคนิคการถ่ายทำยังคงความยิ่งใหญ่และอลังการตระหง่านตา คอนเซปท์ของ UFO มีเอกลักษณ์และอาจถือเป็นต้นแบบของหนังแนว UFO บุกโลกที่ทำต่อๆกันมาได้เลย
เรื่องนี้เป็นอีกต้นตำรับของหนังจานบินต่างดาว ไม่มีเหตุผลอะไรที่คอหนังแนวไซไฟจะพลาดเรื่องนี้ได้ นอกซะจาก แผ่นหายาก 555555555
คะแนนความอิน : 9.5 / 10
- - - - --------------------------------------------- - - - -
*** รอบนี้เขียนสั้นหน่อยนะครับ เพราะ copy มาจากตอนที่เขียนบน platform ของ facebook ***
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in