เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เรื่องเล่าเมื่อเราไปเมืองสิงค์ ( in 2015)SnapDiary
Chapter 13/ไชน่าทาวน์ก่อนกลับบ้าน
  • ผมลืมตาตื่นก่อนนาฬิกาปลุกในเช้าวันสุดท้ายที่อยู่ที่นี่

    หันไปที่เตียง น้องรูมเมทยังไม่ตื่น เปิดม่านหน้าต่างออกไปดู ฟ้าเพิ่งจะเริ่มสาง  หากนอนต่อ คงจะหลับเลยเวลานัด เลยตัดสินใจลุกขึ้นเก็บของ 

    ผมเช็คสิ่งของทั้งหมดตามลิสต์ที่ทำไว้เมื่อคืน(กันลืม)ลงกระเป๋าจนครบ  หันมาทางหน้าต่าง  เห็นฟ้าเริ่มเปลียนสี มีแสง เลยคว้ากล้องมากดชัตเตอร์เก็บไว้เมื่อได้ภาพจนพอใจแล้ว ตั้งใจว่าจะเอนหลังพิงหมอนที่หัวเตียง  กดวิวไฟท์เด้อของ กล้องดูรูปที่ถ่ายมาตลอดทริปไปเรื่อยๆ
    ……………………………

    ผมรู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เห็นน้องรูมเมทแต่งตัวเก็บกระเป่าเรียบร้อยแล้ว….ชิทส์!!! เผลอหลับไปตอนไหนวะเนี่ย 
    ผมรีบคว้าอุปกรณ์เข้าห้องอาบน้ำทันที   
    ผมลงมาที่ล็อปบี้เป็นคนสุดท้าย  เลทจากเวลานัดหมายราวครึ่งชั่วโมง  จากนั้นเราทั้งสี่ก็ เช็คเอ้าท์ คืนกุญแจ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผมถามพนักงานว่า กรุ๊ปเราขอฝากกระเป๋าไว้ที่นี่ได้ไหม ช่วงเย็นจะกลับมาเอา พนักงานยินดีให้ฝากโดยไม่คิดค่าบริการหรือ อาจเป็นเซอร์วิชของโรงแรมอยู่แล้ว อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะแปลภาษาไม่ทัน (แฮร่)
    เราทั้งสี่พกกระเป๋าใบเล็กคนละใบ เดินตัวเบาออกมาจากโรงแรม
                          (บรรยากาศหน้าโรงแรมที่เราพัก)
    แรกเดิมที ที่ตั้งใจไว้คือ ผมจะชวนน้องๆไปกินอาหารเช้าแถวๆไชน่าทาวน์  ที่ร้าน Ya Kun Kaya Toast สาขา Far East Square  มันเป็นร้านที่มีกระยาโทสที่หมายปองว่าจะได้ลิ้มรสขาย แต่เมื่อมองเวลาแล้ว...ผมเองที่พาน้องๆเลท...ซึ่งคิดดูแล้วว่า...กว่าเราจะไปถึงที่นั่น แล้วก็…ยังไม่รู้ว่า..จะต้องต่อคิวที่ร้านนานแค่ไหน ซึ่งถ้านาน… มันคงทำร้ายกระเพาะน้องๆเกินไป เลยตัดสินใจบอกน้องๆว่า เราแวะกินอาหารเช้าที่ร้านเดิมเมื่อเช้าวานดีกว่าจากนั้นค่อยเดินทางตามสเต็ปเดิมกันเนาะ
    น้องๆตกลง (ด้วยความหิว)เราจึงฝากท้องเช้านี้ไว้ที่เดิมกระยาโทสของผมไว้ทีหลังละกัน (รับผิดชอบการเลทของตัวเอง  ฮื้อ...อ..)
                                 (ร้านอาหารเช้าที่กรุ๊ปเราฝากท้อง)
                                  (มีการซ่อมแซมถนน ข้างๆร้าน)

    ตัดกลับมาที่โปรแกรมของกรุ๊ปเราวันนี้คือ  เราจะไปที่ไชน่าทาวน์  ไหว้พระขอพรที่วัดพระเขี้ยวแก้ว เดินดูสถานที่ต่างๆ แล้วซื้อของฝาก(หมูแผ่น) ของที่ระลึกกันจนครบ ต่อด้วย ไปการ์เด้นส์บายเดอะเบย์  และ เบย์ อีสต์ การ์เด้น และ ฟลาวเวอร์ โดม (Flower Dome) และ ซูเปอร์ ทรีส์(Supertrees) และๆๆๆ  กรุ๊ปเราตั้งใจจะไปเก็บที่เที่ยววซิกเนอเจอร์แถวนั้นให้หมดก่อนเที่ยงหากเป็นไปได้(อ่ะนะ)  

    จากนั้นช่วงบ่ายหากมีเวลาพอ (จากการทำเวลาช่วงเช้าให้ดี) เราจะไปซื้อ………. อีกห้างนึง(ที่หาข้อมูลมาเมื่อคืน) เราจะทานข้าวที่ห้างนั้น แล้วเดินชิวๆ  จนได้เวลา กลับมาเอากระเป๋าที่ โรงแรม  แล้วค่อยไปสนามบิน  จบทริปการมาที่นี่อย่างงดงาม ตามท้องเรื่อง เฮ้!!!!
     
    เมื่อท้องอิ่ม..เราก็เดินตามโปรแกรมที่ว่ามา….เสต๊ปแรกเราขึ้นรถไฟมาลงที่สถานีไชน่าทาวน์ แล้วเดินมาตามป้ายบอกก็ถึงที่หมายชุมชนย่าน ไชน่าทาวน์  

                                  
                                 (ป้ายรถเมล์หน้าสถานี Dakota)
    เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่รู้สึกคือ แดด!!! จ้า เวลานี้ร้อนเอาการเลยหล่ะ    แต่ก็บ่หวั่นครับกรุ๊ปเราลุยต่อเลย(ต้องทำเวลา)…เราเดินๆหยุดๆ ดูของที่ระลึกที่ขายตามร้านต่างๆ (แบบเล็งๆไว้ ค่อยมาซื้อตอนจะกลับ) มุ่งสู่ วัดพระเกี้ยวแก้ว 
    เมื่อถึงวัด คนหนาตา แต่ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย  เราหยุดถ่ายรูปเป็นอันดับแรกชื่นชมกับสถาปัตย์กรรมอันสวยงามด้านหน้าวัด ต่างคนต่างถ่ายรูปรอช่วงเวลาที่จะเข้าไปข้างในพร้อมกัน
    เมื่อเราทั้งสี่เข้ามาที่ด้านใน พบว่าข้างในนั้นมีพระพุทธรูปให้สักการะมากมาย แบ่งออกเป็นชั้นๆเปิดให้คนทั่วไปได้กราบไหว้
    เราเดินตามกลุ่มคนที่เข้ามาก่อนหน้านี้ไปเรื่อยๆ แล้วแต่ใครจะไป ณ. จุดใด  สำหรับตัวผมเองนั้นเมื่อเข้ามาข้างใน กลิ่นธูป สีสัน แดงทอง บรรยากาศและความสงบ ทำให้คิดถึงแม่  อยากให้แม่ได้มาที่นี่จัง  ผมมองไปรอบๆ ยืนนิ่งช่วงเวลานึง จากนั้นจึงเดินไปที่พระพุทธรูปองค์กลางจุดธุปขอพรให้ทั้งแม่และพ่อสุขภาพดี

    ผมหันไปรอบๆ ไม่เห็นน้องในกรุ๊ป เลยเดินดูบรรยากาศรอบๆ จากนั้นจึงพาตัวเองออกมารอน้องๆ ที่ด้านนอก 
     รออยู่ประมาณหนึ่ง ทุกคนก็ออกมา

    เอาหล่ะ เมื่อเราขอพรได้บุญกันจนครบแล้ว ก็ถึงเวลาไปต่อ
    เราเดินออกมาจากวัด ย้อนกลับตามถนนที่มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย เที่ยวนี้เราทุกคนต้องตัดสินใจซื้อ หลังจากที่เล็งๆไว้ในขามา กรุ๊ปเราจึงแยกย้ายแวะดูร้านที่สนใจก่อนหน้านี้และซื้อของฝากตามใจชอบ  ผมแวะเข้าร้านหมูแผ่น ซิกเนเจอร์ที่ต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก
    ทีนี้แหละ คนที่ไม่สันทัดการซื้อของฝากแบบผมต้อง งงมึนตึบอยู่นานกว่าจะตัดสินใจได้ คือหมูแผ่นมันเยอะ มากหน้าหลายตา หลายยี่ห้อหลายแบบ ชิมทั้งหมดคงไม่ไหว(ถ้ามีข้าวเหนียวด้วยก็พอได้ผมคิดเล่นๆ หมูแผ่นที่นี่คงคล้ายๆน้ำพริกบ้านเราที่ขายตามร้านของฝากประจำจังหวัด มันจะมี ยี่ห้อ แม่นั่น ป้านี่ ลุงโน่นสูตรนั่นไว้ให้เลือกเยอะๆ แล้วเราก็จะลังเลว่า….อันไหนอร่อยฟ่ะ
    ผมเลยตัดสินใจเข้าดูรีวิวอีกรอบ โอ้ย….ไม่เป็นผล มันก็เยอะอีกอยู่ดี ไม่ดงไม่ดูมันแล้ว…. เลือกเอาที่แพ๊คเกทสวยๆ ตามแบบฉบับความชอบของตัวเองละกัน (อร่อยหรือเปล่าไม่รู้ ดีไซน์สวยไว้ก่อน)
    เมื่อได้หมูแผ่นครบตามคนที่จะฝากแล้วผมก็เดินออกมาซื้อของที่ระลึก เช่น พวงกุญแจ  เข็มกลัด สัญลักษณ์ เมอร์ไลอ้อน  อยากซื้อไฟแช็คกลับมาด้วย แต่กลัวมีปัญหาตอนขึ้นเครื่องเลยซื้อเท่านี้ แล้วก็ออกมารอน้องๆ หัวมุมถนน
    ไม่นานน้องๆก็มาที่จึดนัดหมายครบทุกคน




    โอเค….เราไป การ์เด้นบายเดอะเบย์ กันต่อเถอะ เดี๋ยวไม่ทันเวลา
    ผมบอกน้องๆ(การเที่ยวแบบรีบๆ นี่มันไม่ดีเลยเนาะ ครั้งหลังมาใหม่ๆ)
    ก่อนจะไปต่อน้องคนหนึ่งร้องบอกขึ้นมา…. “ พี่เดี๋ยวๆอ่านเจอในรีวิว เค้าบอก ห้างที่เราจะไปซื้อ Charles and Keithมันอยู่ระหว่างทางผ่านก่อน ไปการ์เด้นบายเดอะเบย์ เราควรแวะก่อน”
    โอเคผมตอบน้องออกไป และยังย้ำว่าเช็คข้อมูล คอมพลีสแล้วใช่มั้ย

    น้องตอบกลับมาว่า… “เยส ชัวร์ “ (บร๊ะ อินเตอร์ขนาด)

    ผมเลยเล่นมุขกลับไปโอเค เลสโกว…. และก่อนที่ทุกคนจะก้าวขาออกไป น้องคนหนึ่งพูดสวนขึ้นมาเดี๋ยว!!!! แล้วพี่ไม่กิน กระยาโทสหรอผมสะดุดกับคำว่า “กระยาโทสแล้วนิ่งไปสามวินาทีในใจคิดว่า ยังไงก็ไม่ทันหรอก เสียเวลาน้องๆ เปล่า

    ไม่เป็นไร ค่อยหากินเอาดาบหน้าโอ้ยตอบอย่างเป็นผู้เสียสละ แต่ในใจ ฮื้อ….เสียดาย กระยาโทสร้านดัง อดเลย….
    .

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in