เอาวะ ลองดูไปก็ไม่เสียหาย
ผิดจ้าอิดอก
กูจะหมดตัวตั้งแต่ยังไม่เริ่มเรียนเลยมึง 5555555 โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพ การเดินทางมาสอบ ค่าสอบ ฯลฯ ตัวแม่งกรอบตั้งแต่ยังไม่ได้สอบเข้าเลย
บทความนี้จะพยามเวิ่นให้น้อยลง (ขอโทษ) แล้วจะลงไว้ให้สำหรับคนที่สนใจแล้วกันว่าต้องมีคุณสมบัติยังไงบ้าง ต้องจ่ายอะไรบ้าง และข้อสอบแนวไหนค่ะ /ไหว้ย่อ
ก่อนอื่น ขออนุญาตนั่งทางใน เพราะทุกสิ่งผ่านมาสักพักละ รายละเอียดบางส่วนขออ้างอิงจากเว็บนี้นะคะ https://www.arts.chula.ac.th/ccti/ และบทความนี้จะเล่าเป็นของสายล่ามเป็นหลักนะ
การสมัครเข้า
จ่ายเงินค่าธรรมเนียมการสมัคร 1,000 พร้อมกรอก google form ของปีนั้นๆ + อัพโหลดเอกสารเช่น รูปถ่าย สำเนาบัตรปชช สำเนาทะเบียนบ้าน transcript ใบปริญญา และ สำเนาผลสอบทางภาษา*
สายล่าม CU-TEP 91 ขึ้นไป TOEFL iBT 92-93 ขึ้นไป หรือ IELTS 7.0 ขึ้นไป อย่างใดอย่างหนึง
สายแปล CU-TEP 80 คะแนนขึ้นไป หรือ TOEFL iBT 79 ขึ้นไป หรือ IELTS 6.5 ขึ้นไป อย่างใดอย่างหนึง
*รอบเรา ส่งผลสอบภาษาหลังจากสอบของทางคณะ/หลังสัมได้ ตรงนี้ลองปรึกษาแอดมินทางคณะได้
การสอบ
แบ่งออกเป็น 2 วัน
วันแรก
9.00 – 11.00 เขียน essay ไทยและอังกฤษ
11.00 – 12.00 สรุปความ จากบทความอังกฤษเป็นไทย 1 บท
รอบบ่าย
14.00 – 16.00 แปลบทความ ไทยและอังกฤษ
(ตรงนี้รอประมาณวีคสองวีคถึงประกาศผล)
2. วันที่สอง
9.00 สัมภาษณ์กับอาจารย์สั้นๆ ไม่เกินครึ่งชัวโมง ได้เวลานัดต่างกันไป
12.00 สอบล่าม ฟังแล้วจับใจความ (ไทยเป็นอังกฤษ และ อังกฤษเป็นไทย) และพูดในหัวข้อที่กำหนด (ภาษาอังกฤษ)
**คะแนนการสอบของวันแรก (เขียน essay, สรุปความ, แปล) จะต้องมากกว่า 85% ถึงจะมีสิทธิสอบสัมภาษณ์ + ล่าม ในวันที่สองได้
เท่าที่เห็นในสายล่าม น่าจะทุกคนที่สอบของวันที่หนึ่งผ่าน แล้วได้ไปต่อสัมภาษณ์ค่ะ
แนวข้อสอบ
เท่าที่จำได้และขอไม่ลงรายละเอียดลึกเกินไป
วันแรก
(เช้า)
Essay: ให้เขียนสองบทความ ไทยและอังกฤษ
แต่ละบทความให้เวลา 1 ชั่วโมง
ความยาว จำเป็นจำนวนคำไม่ได้อ่ะ แต่อย่างน้อยๆ 1 เอสี่ น่าจะประมาณ 500-600 คำ++
ความยาก ยาก แต่ไม่ยากมาก สิ่งที่ท้าทายคือเวลามากกว่า จำได้ว่าทำภาษาไทยก่อน ภาษาอังกฤษเกือบทำไม่ทัน
ภาษาไทย ให้เขียนเกี่ยวกับบทบาทของอาชีพล่ามในบริบทหนึ่ง
ภาษาอังกฤษ เขียนเกี่ยวกับความสำคัญของการรู้ภาษาหนึ่งๆ และ define ‘การรู้’ นั้นอย่างไรบ้าง
หลักๆ ตรงนี้ไม่มีอะไรมาก แค่โฟกัสที่ความเมคเซ้นท์ที่เราเขียน และระวังแกรมม่าที่อาจถูกหักเล็กๆน้อยๆ
สรุปความ: จากบทความอังกฤษเป็นไทย 1 บท
บทความคือยาวววว สามสี่หน้าได้มั้ง แต่ศัพท์ไม่ได้แอดวานซ์มาก พออ่านได้อยู่ โดยที่ต้องสรุปลงเอสี่ไม่เกินครึ่งหน้ากระดาษ ตรงนี้เราแอบเกินแหละ ทำไป ¾ ขอหน้ากระดาษได้ หัวข้อของบทความคือเรื่องการเมืองแขนงหนึ่งๆ ของอเมริกา
เราสรุปแบบอ่านทีละพารากราฟ อ่านให้จบหนึ่งรอบก่อนแล้วดูภาพรวม บางพาราคือข้ามไปได้เลย แต่บางอันก็แอบมีความสำคัญอยู่ ต้องดูดีๆ ว่ามันเชื่อมโยงกับส่วนอื่นของบทความยังไง
(บ่าย)
เอาจริงมาถึงจุดนี้สมองล้าแบบล้าาละ เพราะแค่ตอนเช้าคือเจอไปจุกๆ สาม tasks แต่ยังไง ไปต่อจ้ะ ช่วงบ่ายนี้จะเป็น
แปลบทความ ไทยและอังกฤษ มีเวลาสองชั่วโมง
บริหารเวลาเอาเองเหมือนตอนเช้าเลย ข้อสอบชุดนี้เราแชร์ร่วมกับคนที่จะสอบเข้า ป.โท สาขาแปลด้วยจ้า ทั้งสองบทความให้เราแปลสุนทรพจน์
ไทย งานเปิดค่ายระดับประเทศ
อังกฤษ งานกล่าวเปิดงานความมั่นคง(?) โดยผู้นำระดับโลก
ความยาก ยาก และ ณ จุดนี้สมองล้า จำนวนบทความก็ยาวอยู่ มีเรื่องให้กังวลเยอะ ทั้งเวลา การเช็คคำศัพท์และแกรมม่าโดยเฉพาะไทยมาอังกฤษ และที่สำคัญที่สุดคือการใช้โทนที่เหมาะสม
จบสอบวันนี้ก็คือสลบไปเลย นั่งกลิ้งนอนกลิ้งประมาณเกือบสองอาทิตย์ได้ ส่วนตัวไม่หวังมากเพราะ 85% มันสูงนะ คิดว่าไม่น่าผ่าน เพราะไทยน่าจะเขียนผิดเยอะ ส่วนอังกฤษก็แทบไม่มีเวลาตรวจแกรมม่า
ก็เลยตามเลย
แต่ผลออกมาว่าผ่าน..
เลยต้องเตรียมตัวสถานีต่อไป สอบสัมฯและสอบล่ามจ้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in