ณ วันที่เราโดนที่ทำงานบอกว่า คงไม่มีเงินเดือนจ่ายให้สักพักนะ
วันนั้นคือเครียดมากเลยนะ บอกตรงๆ
ตั้งแต่ทำงานหาเงินได้ เราบริหารเงินดีมาโดยตลอด อย่างมากสุดก็แค่ไม่มีเงินเก็บ แต่ส่วนมาก ก็จะเก็บเงินไว้ได้ เราเก็บเงินเผื่อวิกฤติที่จะเกิดในอนาคตอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะได้ใช้เงินก้อนนั้นเร็วขนาดนี้
โควิดเนี่ย มันทำให้เราต้องเอาเงินก้อนนี้ออกมาใช้เพื่ออยู่รอดไปวันๆ
มันก็ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะทุกนาทีมันคือเงินที่เริ่มค่อยๆ หายไป
ตอนนั้นเครียดมาก เลยหาคลิปพวกแนวคิดอะไรต่างๆ ดูไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองแย่ไปมากกว่านี้
จนมาเจอคลิปที่เอามาแปะของคุณขุนเขานี่แหละ
หลายอย่างมันจึ้ก วนแบบย้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
"เพราะมันมีวิกฤติไง มันเลยมีนวัตกรรมใหม่เกิด เพื่อรองรับวิกฤติรอบหน้าอีกทีน่ะ"
ในคลิปจะยกตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีตมาหลายอย่างมาก แต่เราขอยกอันที่เราจำได้เลยดีกว่า...
ครั้งหนึ่ง มนุษยชาติในยุคที่ยังเป็นยุคหิน ย้อนกลับไปก่อนที่มนุษย์จะรู้จักการใช้ไฟให้เป็นประโยชน์ ตอนนั้นพวกเขาต้องผจญกับวิกฤติความมืด
แต่พอรู้จักวิธีการใช้ไฟ ไม่ใช่แค่เพียงวิกฤติความมืดที่คลี่คลาย มนุษย์ยังรู้จักในเรื่องของการใช้ไฟทำอาหาร กลายเป็นว่าอาหารหลายๆ อย่าง พอเอามาปรุงให้สุก กลับให้สารอาหารกับเราได้มากมายมหาศาล จนทำให้สมองของมนุษย์เริ่มวิวัฒนาการ นอกจากนี้ ไฟยังกลายเป็นปัจจัยพลิกเกม จากอันดับล่างๆ ในห่วงโซ่อาหาร ให้กลายเป็นตัวท้อปได้ไม่ยาก
โลกก็ดำเนินมาจนถึงจุดหนึ่ง เราและบรรดาสัตว์น้อยใหญ่เผชิญกับวิกฤติอีกรอบ แต่คราวนี้เป็นวิกฤติความหนาว สัตว์สปีชีส์อื่นพากันสูญพันธุ์กันไปหมด ไม่รู้ว่าตัวอะไรรอดเป็นเพื่อนเราไหม แต่ที่แน่ๆ เรารอดกันมาได้ เพราะเรามีไฟให้ความอบอุ่น และเครื่องนุ่งห่มนี่แหละ จะเอาอุ่นๆ ก็ต้องขนสัตว์ที่ล่ามาได้ใช่ไหมล่ะ ล่ามาได้เพราะมีไฟอีกนั่นแหละเนอะ ที่ทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้นเนี่ย
ก็ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าวันนั้นมนุษย์ยังใช้ไฟไม่เป็น นอกจากจะยังไม่รอดจากพวกสัตว์นักล่าที่เก่งในความมืดแล้ว สมองคงไม่วิวัฒนาการ และเราเองก็คงไม่มีแมคบุ๊คส์มาให้นั่งพิมพ์บล็อกนี้ มินิมอร์เองก็คงไม่เกิด เพราะป่านนี้พวกเราอาจเป็นเพียงลิงธรรมดาๆ ที่วิ่งเล่นอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกก็เป็นได้
ตัวอย่างลักษณะแบบนี้ยังมีอีกมากในคลิปเลย
เรารู้สึกว่าคลิปนี้ดีมาก ชนิดที่ว่า วันไหนรู้สึกท้อเพราะปัญหาหรือวิกฤติ อยากให้ลองฟังดูจริงๆ แล้วจะรู้ว่าบรรพบุรุษเราผ่านความยากลำบากมามาก ในวันที่ชีวิตเขาก็มีข้อจำกัดในแบบยุคของเขา เขาก็อุตส่าห์ผ่านมันมา และส่งต่อเรื่องราวมาให้คนยุคเรา
ส่วนเราคือผลผลิตของพวกเขา ที่ถูกส่งต่อองค์ความรู้และนวัตกรรมต่างๆ มาแล้วมากมาย ชนิดที่ว่าไม่ต้องงมหรือลองผิดลองถูกเองขนาดนั้นด้วยซ้ำนะ อยากฝึกอยากเก่งอะไร สมัยนี้แค่ Google หรือ Youtube หรือเดินไปห้องสมุด หาหนังสือมาอ่าน ก็คือได้เรื่องแล้วจริงๆ นะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in