ประกาศฟอร์เมชั่นซิง 4 ซากุระซากะ46
มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในครั้งนี้ หลายอย่างหักปากกาเซียน หลายอย่างก็เหนือความคาดหมายระดับที่ไม่น่าจะเรียกว่าหักปากกาเซียน น่าจะเรียกว่าเอาปากกาไปปาใส่หน้าเซียนมากกว่า ไล่มาตั้งแต่การผลัดเมมในซากุระ8 ริสะไม่ได้เป็นเซ็นเตอร์ อาโอยไม่ติดเพลงหลัก คุณยุกที่เป็นกัปตันก็ไม่ติดเพลงหลัก ไปจนถึงทำเพลงออลเซ็ม
อะไรที่ไม่เคยจะได้เห็นก็ได้เห็น
ที่นี่ ซากุระซากะ46
การที่ริสะไม่ได้เป็นเซ็นเตอร์ น่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนช็อคกันเยอะที่สุด เพราะริสะกำลังจะแกรด แถมเป็นเมมรุ่นหนึ่งที่ยังไม่มีใครได้เป็นเซ็นเตอร์เลยตั้งแต่เป็นซากุระมา ครั้งสุดท้ายของริสะควรจะเป็นตำแหน่ง 0
ถูกป้ะ
ต่อด้วยอาโอยที่กำลังจะแกรดเหมือนกัน ซึ่งอาโอยยังไม่เคยอยู่ในเพลงหลักเลยสักครั้ง ความคาดหวังที่จะเห็นอาโอยติดเพลงหลักในครั้งนี้ก็เลยสูงปรี๊ด
คอมโบมาติด ๆ ด้วยการที่คุณยุกไม่ติดเพลงหลักอีกคน เพราะตารางงานชนกับละครเวที ก็เลยเข้าร่วมได้แค่เพลงเดียว
ในประวัติศาสตร์46 กัปตันเป็นตำแหน่งที่นอนมาเลยว่าติดเซ็มแน่ ๆ
นี่เป็น ครั้งแรก ที่ไม่มีกัปตันอยู่ในนั้น
สุดท้าย ระบบซากุระ8
ที่ตอนนี้กลายเป็นซากุระ8 ซากุระ12 ซากุระ7 ไปแล้วเรียบร้อย ยิ่งกว่าสูตรค็อกเทล
เซียนคือกำหมัดจนไม่รู้จะกำยังไงแล้วอะ
แต่ก็นั่นแหละ
อะไรที่ไม่เคยจะได้เห็นก็ได้เห็นจริง ๆ
เชื่อว่ามันมีทั้งฝั่งพอใจและฝั่งที่ไม่พอใจ และเชื่อว่าฝั่งไม่พอใจก็น่าจะเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุผลข้างบน
แต่สำหรับเรา นี่เป็นฟอร์เมชั่นที่พอใจที่สุดตั้งแต่ตาม 46 มา ก็เพราะหักปากกาเซียนไม่เหลือชิ้นดีแบบนั้นนั่นแหละ
เราที่สิ้นหวังกับระบบเซ็มไปแล้ว
ก็ได้ฟอร์เมชั่นนี้นี่แหละ ที่ทำให้กลับมามีความหวังกับวงไอดอลที่ใช้ระบบเซ็มอีกครั้ง
เราชอบความแฟร์ ชอบความเท่าเทียม
ในการตามวง ๆ นึง เราอาจจะมีโอชิ มีคนที่ไบแอส แต่ในงานเพลงของวง เรามองเมมเบอร์ทุกคนเท่ากันหมด ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่รุ่นอะไร เก่งรึเปล่า ดังแค่ไหน คุณก็คือเมมเบอร์ของวงเหมือนกัน
ระบบเซ็มเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม
ต่อให้คุณจะเป็นเมมเบอร์เหมือนกัน แต่การที่คุณจะติดเซ็มได้ มันขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นใคร อยู่รุ่นอะไร ดังแค่ไหน
อ่านประโยคข้างบนดูอีกที
มันมีอะไรหายไปใช่ป้ะ
แต่ไม่ได้พิมพ์ตกหรอก
ระบบเซ็มมันขึ้นกับแค่นั้นจริง ๆ
มันไม่แคร์ว่าใครจะเก่ง ไม่แคร์ว่าใครจะทำได้ดี ไม่แคร์ว่าใครจะพยายามแค่ไหน
มันแคร์อยู่อย่างเดียวคือตัวเลข
ตลกร้ายเนอะ
เราที่ชอบอะไรที่มันเท่ากัน กลับมาชอบวงที่ปัจจัยคัดเซ็มมีความดังอยู่ในนั้น
ความดัง ที่ไม่มีวันเท่ากัน
เคยมีคนบอกเราว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเท่ากัน วงมีตั้งกี่คน นี่มันคือวงการไอดอล มันคือธุรกิจ
อือ
เรารู้ ที่พูดนี่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้
แต่แล้วไงอะ
คนชอบพูดว่าโลกนี้ไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ และจะชอบพูดเป็นพิเศษเวลาที่มีใคร raise awareness เรื่องอะไรสักอย่างขึ้นมา ซึ่งก็ใช่ ไม่เถียง ใคร ๆ ก็รู้ว่าโลกเป็นสีเทา
แล้วมันเทาน้อยลงกว่านี้ไม่ดีเหรอ
เมมกี่คนแล้วที่ถอดใจ กี่คนแล้วที่สิ้นหวัง กี่คนแล้วที่กลับมาตั้งคำถามว่าที่ทำอยู่มันยังใช้ไม่ได้ใช่มั้ย ที่ยังไม่ติดเซ็มเพราะตัวเขายังไม่เก่ง ยังร้องไม่เพราะ ยังเต้นไม่ดี ยังพยายามไม่พอ
พยายาม
คำพูดที่อยู่คู่กับความเป็นไอดอล เป่าหูกันทุกวันว่าต้องพยายาม ถ้าพยายามสักวันก็จะไปถึง
แต่ความพยายามที่ว่าคือพยายามทำให้ตัวเองดังจะได้ติดเซ็มอะนะ
ถ้าแค่พยายามก็ดังได้ ถ้ามันมีสูตรสำเร็จแบบนั้น
คนที่ดังที่สุดก็คงเป็นคนที่ซ้อมเยอะที่สุดไปแล้ว
แล้วทุกวันนี้มันเป็นแบบนั้นมั้ยล่ะ
ก็ไม่
เพราะความพยายามวัดไม่ได้ แต่ความดังวัดได้
ระบบเซ็มมันถึงได้สิ้นหวังไง
ถ้าจะไม่คัดเซ็มจากความดัง แล้วจะให้คัดจากอะไร
มันมีปัจจัยเยอะ กับการคัดเลือกเมมเบอร์ชุดหนึ่งที่ไม่มีใครรู้นอกจากคนที่เลือก แต่จากที่ผ่าน ๆ มา ก็ค่อนข้างชัดเจนในระดับนึงว่ามันมีเรื่องความนิยมเป็นหนึ่งในนั้น (แต่เป็นหนึ่งในนั้นที่ดูจะมีสัดส่วนเยอะกว่าเพื่อนหน่อย) ก็แหงแหละ ความนิยมมันเป็นตัวเลข จับต้องได้ที่สุด แต่เราไม่คิดว่าการเลือกจากความดังจะเป็นสิ่งที่ถูกที่สุด
งั้นจะให้คัดจากอะไร
สำหรับเราที่เป็นแฟนเพลง ก็คงจะตอบว่าเพลง
เราชอบฟังเพลง ชอบดูการเต้น ชอบดู performance สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่จะทำให้ตัดสินใจตามไอดอลสักวง ต่อให้จะไม่ได้โอชิเมมเบอร์ในวงนั้นเลย แต่ถ้ามีเพลงที่ชอบ มีงานที่รู้สึกว่าถูกจริต เราก็ยังจะตามวงนั้นอยู่ดี
ทุกวันนี้ก็ตามซากุระด้วยเหตุผลนั้น
เพลงเป็นสิ่งที่แฟร์ มันตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน ไม่ได้มีอะไรในก่อไผ่
ต่อให้คุณจะไม่ใช่คนที่ดังที่สุด แต่ถ้าเพลงนั้นมันเหมาะกับคุณ คุณทำได้ดี คุณก็ deserve it
แค่นั้น
พอเอาเพลงมาเป็นตัวตั้ง ก็เลยอยากเห็นการคัดเซ็มหรือจัดฟอร์เมชั่นตามความเหมาะสมกับเพลงเป็นหลัก อยากเห็นมาตลอด
อะไรแบบว่า เขาแสดงได้ดี เต้นได้เข้ากับเพลง ร้องได้เข้ากับเพลง (ในแง่ของเพอร์ฟอร์แมนซ์) เขาถึงติดเซ็ม
ไม่ใช่เพราะความนิยม ไม่ใช่เพราะอย่างอื่น
ดูเผิน ๆ มันเหมือนไม่ต่างกัน ความเหมาะสมมันวัดได้ที่ไหน
เพลง
เพลงบนโลกนี้มีเป็นล้าน ดนตรีมีตั้งหลายแขนง ถ้ามันเป็นวงที่ทำอะไรใหม่ ๆ ตลอด ลองคอนเซปต์ ลองเพลง แล้วคัดเซ็มจากเพลงจริง ๆ
มันไม่มีทางที่จะไม่มีเมมเบอร์ที่ไม่เคยติดเซ็มหรอก
ยังไงมันก็ต้องมีเพลงที่เหมาะกับเมมคนนั้นอยู่แน่
ถ้าเทียบกับการบอกว่าไม่ติดเซ็มเพราะพยายาม(จนดัง)ไม่พอ กับไม่ติดเซ็มเพราะไม่เหมาะกับเพลง
เรายอมรับอันหลังได้มากกว่านะ
ไม่ใช่เพลงนี้ มันอาจจะยังมีเพลงหน้า อย่างน้อยมันก็คงมีอะไรใหม่ ๆ ให้เขาได้ลองจนกว่าจะเจอสิ่งที่เหมาะกับเขา
ดีกว่าไม่ได้มีโอกาสลองอะไรเลย เพราะดังไม่พอจะติดเซ็ม
พอเทความคาดหวังไปที่เพลง แล้วก็คาดหวังว่าเมมชุดที่เขาเลือกมา จะเป็นเมมที่คัดมาแล้ว เป็นเมมชุดที่เหมาะจะแสดงภาพแบบนี้ด้วยเพลงนี้ที่สุด
แพทเทิร์นเซ็มแบบที่ผ่าน ๆ ถึงได้น่าเบื่อสิ้นดี
คนนี้น่าจะติดเพราะงานนอกเยอะ
คนนี้น่าจะติดเพราะขายบัตรจับมือได้เยอะ
คนนี้แกรดแล้ว งั้นก็คงจะได้เป็นเซ็นเตอร์ซิงนี้
ซิงนี้มีรุ่นใหม่ด้วย น้องคนนี้น่าจะได้เป็นเซ็นเตอร์ (แต่เอาขึ้นมาแล้วเททิ้งมั้ยก็อีกเรื่อง)
ไหนเพลง
เพลงอยู่ตรงไหนในสมการนี้
ทั้งที่เป็นไอดอลยังไงมันก็ต้องออกเพลง แต่ดูสิว่าการติดเซ็มมันขึ้นอยู่กับอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพลงทั้งนั้นแปลก ๆ มั้ย
แล้วเซ็มก็จะได้รับหน้าที่ในเพลงไตเติ้ล เป็นเพลง A-side ที่มันมีพาวเวอร์ของการเป็นเพลงหลักอยู่
ใครกดเข้ามาในซิงนี้ยังไงก็จะต้องฟังเพลงนี้ก่อน หรือใครฟังวงนี้ครั้งแรกก็จะได้รู้ว่า อ่อ วงนี้เป็นแบบนี้
มันสำคัญมากนะ
มันคือภาพของวงเลยนะ
แต่สิ่งที่เราเจอมามันตรงกันข้ามทุกอย่าง
หลายครั้งที่รู้สึกว่า เหมือนเขาเห็นเพลงหลักเป็นแค่หุ่น เป็นของตาย จะปู้ยี้ปู้ยำทำอะไรกับมันยังไงก็ได้
ยังไงคนก็ฟังเพราะมันเป็น "เพลงหลัก"
บางทีไม่ใช่แค่ไตเติ้ลที่ยำรวมมิตร แต่คือทั้งซิง
ตัดเพลงอันเดอร์ออกแต่มีเพลงโฆษณาในนั้นก็ทำมาแล้ว
(เฉลยเลยเหรอว่าวงไหน)
แล้วเกี่ยวอะไรกับซากุระล่ะทีนี้
ก็ดูฟอร์เมชั่นที่ได้
เห็นมั้ยว่ามันผิดกันไปหมดเลย
อะไรที่มันเคยเดาได้ (จากวงที่ว่า) พอมาซิงนี้มันไม่ถูกสักอย่าง
เดาไม่ได้ถึงขนาดว่าไม่มีกัปตันในเพลงหลัก
การเป็นกัปตัน ทุกคนเข้าใจมาตลอดว่ามีโควต้า ยังไงก็ติดเซ็ม อย่างน้อย ๆ คือแถวสาม
มันก็อาจจะ "แค่" แถวสาม ไม่ได้ดูเป็นตำแหน่งสำคัญอะไร หลังสุดด้วย เผลอ ๆ อยู่ในมุมอยู่ในหลืบ
แต่แถวสามมันก็คือเซ็มอยู่ดีนะ
อันเดอร์บางคนพยายามแทบตายยังไม่เคยได้มายืนเลยด้วยซ้ำ
อย่างที่บอกว่าเราชอบความแฟร์ เมมเบอร์ทุกคนเท่ากัน ควรมีโอกาสติดเซ็มเท่า ๆ กัน
โควต้ากัปตันมันก็คือสิ่งที่ขัดกับหลักการที่เราเชื่อ
ตำแหน่งพวกนี้มันเป็นเรื่องของ management แต่ในเพลงมันไม่มีอะไรแบบนั้น
การที่ไม่มีคุณยุกในเพลงนี้ก็ได้ใจเรานะ ทั้งตัวคุณยุกเอง ทั้งสตาฟ
เขาทำให้เราเห็นว่า โควต้านั้นมันถูกทำลายได้ ถ้ามันต้องทำ เปลี่ยนได้ถ้ามันต้องเปลี่ยน
ต่อให้คุณจะเป็นกัปตัน ก็ไม่แน่ว่าคุณจะติดเซ็ม (ถึงจะเพราะเรื่องงานอีกฝั่งก็เถอะ แต่การที่เขาเลือกจะไม่จับปลาสองมือเพื่อไม่ให้กระทบทั้งงานวงทั้งงานตัวเอง คือได้ใจไปเลยจริงๆ)
ตอนนี้ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาคัดจากอะไร
แต่การที่มันไม่ใช่ทั้งความนิยม หรือรุ่น หรือตำแหน่ง (ซึ่งมันก็อาจจะใช่ แต่จากฟอร์เมชั่นวันนี้ก็จะเห็นได้ว่าไม่ทั้งหมด) มันก็ดูไม่สิ้นหวังเหมือนที่ผ่านมาแล้วอะ
เห็นทาเคยุยก็คิดแล้วว่าเพลงน่าจะเพิร์ฟหนักระดับนึง เพลงนี้มีทั้งพี่ฟูทั้งฮิคาริงั้นต้องกำยาดมมั้ย น้องเท็นเซ็นเตอร์จะเป็นเพลงลูกเสืออีกรึเปล่า บลาๆ
ฟอร์เมชั่นกลายเป็นเรื่องสนุก สนุกที่ได้พูดถึงอย่างอื่นนอกจากงานนอก บัตรจับมือ อะไรพวกนั้นที่ไม่ได้เกี่ยวกับเพลง
ถึงมันจะเป็นฟอร์เมชั่นที่ไม่ได้แฟร์ 100% อันที่จริงก็ไม่คาดหวังว่าจะได้ขนาดนั้น
แต่การได้เห็นอะไรที่ไม่น่าเป็นไปได้มันดูมีเค้าลางขึ้นมาบ้าง สิ่งนี้มีความหมายกับเรามากกว่าฟอร์เมชั่นอีกนะ
เราเคยถอดใจไปแล้ว เพราะคิดว่าเปลี่ยนไม่ได้หรอก
แต่วันนี้ ความหวังพวกนั้นมันค่อย ๆ กลับมา
แวะมาพูดเรื่องแกรดหน่อย
เราดีใจที่เพลงส่งริสะกับอาโอยเป็นเพลงรองนะ
การจบการศึกษาจากการเป็นไอดอล มันก็เป็นหนึ่งอีเวนท์ที่สำคัญ เพราะไอดอลคนนั้นจะไม่ได้เป็นไอดอลของวงนั้นอีกแล้ว
พอเป็นคนที่ได้รับความนิยมเยอะก็จะได้ซิงหลักไปเป็นซิงแกรด
มันก็ไม่ใช่ความผิดของเมมคนนั้นหรอก
แต่เราที่มองเพลงหลักเป็นเพลงที่จะเป็นหน้าเป็นตาของวง
ยังไงเราก็อยากให้เพลงหลักมันจากวง ไม่ใช่มาจากใคร
เพราะเพลงมันเป็นเพลงของวง ไม่ใช่เพลงของใคร
จริงอยู่ที่ว่า เราก็อยากให้เขาได้รับการส่งแบบดี ๆ ให้สมกับที่เขาเหน็ดเหนื่อยกับการเป็นไอดอลมา อยากให้เป็นพื้นที่ของเขาจริง ๆ
แต่ต่อให้เขาได้ซิงหลักไปเป็นซิงแกรด เขาก็หนีไม่พ้นระบบเซ็มอยู่ดี
ซิงที่เราเคยเห็นซิงนึง เมมเบอร์ที่สนิทกับเมมคนที่แกรด ไม่ได้แม้แต่จะขึ้นมายืนอยู่แถวเดียวกันด้วยซ้ำ
แล้วมันจะเป็นพื้นที่ของเขาได้จริงดิ
การที่มันต้องไปแบกหน้าที่ของเพลงหลัก ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องถูกจำกัดบางอย่าง จะส่งก็ส่งเต็มที่ไม่ได้เพราะยังมีเมมคนอื่นให้ต้องดันอยู่ แต่จะดันก็ดันเต็มที่ไม่ได้เหมือนกันเพราะเป็นซิงแกรด สุดท้ายก็ออกมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ
เราไม่อยากให้โอชิไปทั้งครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนั้น
แล้วเราก็ไม่อยากให้ใครดูเหมือนมาเป็นฉากให้โอชิเรา
เพราะเขาก็คือเมมเบอร์วงเดียวกัน และนี่คือเพลงวง
มันเป็นซิงที่โอชิเราแกรดก็จริง
แต่มันก็คือซิงเกิ้ลลำดับ xx ของวง ไม่ใช่ซิงเกิ้ลของโอชิเรา
ที่จริงไม่ต้องมีอะไรก็ได้ แกรดก็คือแกรด
อยากให้วงเป็นพื้นที่ของคนที่จะอยู่ต่อไป ไม่ใช่คนที่จะจากไป
แต่ก็นะ
เอาเป็นว่าพอมันเป็นเพลงรอง มันก็ไม่มีอะไรแบบนั้น
ไม่ต้องออกหน้า มีอิสระ จะทำอะไรตามใจก็ไม่เป็นไร (เช่นออลเซ็ม) ปล่อยให้เพลงหลักทำหน้าที่ของมันไป
งานวงที่เป็นเพลงหลักก็เต็มที่ได้ เพลงรองก็ทำส่งเมมแกรดอย่างเต็มที่ได้
ดีกับทุกฝ่าย
ถ้าจะพูดตรง ๆ อีก แบบตรงกว่านี้
เราไม่ชอบสิ่งที่เรียกว่าซิงแกรด
เมมเบอร์ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของวง เขาก็พยายามทุ่มเทให้วงเหมือนกัน เราก็อยากให้เขาได้อะไรเท่า ๆ กัน
การแกรดก็เป็นหนึ่งในนั้น
เวลาที่มีคนแกรดพร้อมกันสองคน แล้วคนนึงมีอีเวนท์ส่งยิ่งใหญ่ แต่อีกคนนึงทำได้แค่ยืนอยู่ข้างหลัง
เห็นแล้วมันเจ็บปวด
จะส่งเท่ากันได้ไงในเมื่อดังไม่เท่ากัน
หลายคนคิดแบบนั้น
เราก็อยากจะถามเขาเหมือนกัน ว่าพอดังไม่เท่ากัน ความเป็นเมมเบอร์มันก็ไม่เท่ากันด้วยใช่มั้ย
คิดแบบนั้นจริง ๆ ใช่มั้ย
งั้นที่บอกว่ารักวงก็คงไม่ได้นับรวมเมมที่ไม่ดังสินะ
ก็ไม่เห็นเขาเป็นเมมเบอร์เหมือนกันนี่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in