เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Autumn has comeByeruk
Road Trip
  • สองทุ่มกับพวกเราที่เพิ่งออกงานเลี้ยง—ฉลองก่อนกู้กำแพงมาเรีย—แสนวุ่นวาย มันเป็นเรื่องดีที่ทหารหน่วยสำรวจได้กินเนื้อสัตว์แทนขนมปังกับซุปโง่ๆนั่น แต่ขึ้นชื่อว่างานเลี้ยงก็ต้องเกิดเหตุความไม่สงบเป็นธรรมดา ยกตัวอย่างเช่น สมาชิกสองคนในหน่วยของผมทะเลาะกันจนเกิดเหตุการณ์ชกต่อย แทนที่จะมีคนห้ามแต่กลับส่งเสียงเชียร์ดังขึ้นแทน ผมทนความน่ารำคาญนั่นไม่ไหวจึงขอตัวจากกลุ่มเพื่อนในวงโต๊ะอาหารและเดินออกมาทันที แต่ผิดคาดที่ดันมีใครอีกคนเดินตามหลังผมมาด้วย 

    “มันก็เป็นปกติแหละน่า” เขาพูด เกลี่ยมือผมหวังให้ใจเย็นลง
    “เพราะรู้ดีก็เลยเลือกเดินออกมานี่ไง”
    “ออกไปเดินเล่นหน่อยไหม?” เขาเสนอ มีหรือที่ผมจะไม่สนอง
    “นำไปเลย”

    แน่นอนว่ามืดค่ำขนาดนี้ทหารที่เฝ้าเวรยามหน้าประตูคงไม่ให้ออกไปไหนแน่ เขาจึงเดินนำผมไปทางลับที่สามารถแอบออกไปได้แทน พวกเราเดินผ่านคอกม้าและที่พักในเขตทหารหลายแห่ง บ้างก็เป็นบ้านสองชั้น บ้างก็ชั้นเดียว ข้างหลังที่พักมีโรงเก็บเครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติกับอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็น จนกระทั่งมาถึงรั้วกำแพง พวกเราปีนออกไป

    “ช่างสรรหาจริงนะ”
    “ฉันเห็นพวกทหารฝึกหัดมาทางนี้ประจำ”
    “แล้วนายก็พาฉันออกมา”
    “แค่นายคนเดียว”
    “ไม่ใช่ แค่พวกเราสองคนต่างหาก”

    เขาจูงมือผมเดินนำทางไปสู่ที่หมาย หากเปรียบการเดินทางครั้งนี้คือการผจญภัยในรูปแบบหนึ่งล่ะก็ เขาคงเป็นเข็มทิศ ส่วนผมเป็นเพียงนักเดินทางที่อุทิศชีวิตของตัวเองอยู่กับเข็มทิศอันนี้ เขาพาผมเข้าออกตามตรอกซอยต่างๆ แวะชมกลุ่มคนเฒ่าบรรเลงดนตรีกลางจตุจักรเมือง เข้าร้านหนังสือซอมซ่อ แอบจูบกันหลังชั้นวางหนังสือเก่า ผมหยิบหนังสือที่เคยอ่านให้เขาดู เขาซื้อหนังสือสองเล่ม ส่วนผมซื้อหมึกปากกาให้เขาเป็นของตอบแทนที่พาผมอออกมาข้างนอก เข้าร้านขายของเก่า ผมได้ถ้วยชาลายประหลาดติดมือมาหนึ่งชุด เดินผ่านร้านของชำ เขาซื้อไม้ปัดฝุ่นให้ผม จากนั้นก็เดินเล่นที่สวนดอกไม้ซึ่งเป็นทางเดินกลับค่าย แสงไฟตามข้างถนนช่วยขับให้บรรยากาศดูอบอุ่นขึ้น พวกเราเดินจับมือกันตั้งแต่ตอนไหนผมก็ไม่รู้ แต่นั่นไม่ได้สลักสำคัญเท่ากับการที่พวกเราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันแม้มันจะไม่ได้นานเท่าที่ผมต้องการก็เถอะ

    “เหมือนฝันเลย” เขาเปรยขึ้น
    “แอบหนีออกมาน่ะเหรอ?”
    “ที่ได้อยู่กับนายที่นี่ต่างหาก” เขาพูดและมองหน้าผมไปด้วย
    “ฉันก็เหมือนกัน” ผมสบตาเขา
    “อยากจูบนายอีก”
    “ก็จูบเลยสิ”

    พวกเราจูบกันท่ามกลางสวนดอกไม้ ลำตัวแนบชิด สองมือสอดประสานกัน แสงไฟสีนวลจากถนนสาดส่องใบหน้าเขา ยามนี้มีเพียงผมและเขากับภวังค์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเราสอง ผมจำไม่ได้ว่าหลังจากนั้นพวกเราคุยอะไรกันอีกตอนเดินกลับ จำได้แค่เพียงเขาวิ่งนำผม ผมวิ่งตามเขา พวกเราวิ่งจากสวนดอกไม้ผ่านร้านขายของเก่า ผ่านร้านเหล้า ผ่านร้านขายของชำ ผ่านร้านอาหารกลางคืน ผ่านกลุ่มเฒ่าดนตรี ผ่านร้านหนังสือเก่า  เขาหัวเราะ ผมยิ้ม ค่ำคืนนี้ของผมเอ่อล้นไปด้วยความรัก 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in