๖
ธรรศวางโทรศัพท์มือถือลงหลังจากนอนเล่นเกมอยู่บนโซฟายาวในห้องรับแขกวันนี้น้องสาวพามารดาไปตรวจสุขภาพประจำสามเดือนที่โรงพยาบาล ในบ้านจึงเงียบเหงารับประทานอาหารเช้าเสร็จเขาก็นอนเอกเขนกเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือไปเรื่อยเปื่อยชนะแล้วชนะอีกก็เริ่มเบื่อ อยากหาอะไรอย่างอื่นทำมากกว่านอนอยู่แบบนี้
สายตาคมกวาดมองรอบตัวผ่านไปทางหน้าต่างกระจกบานใหญ่เห็นเงาไหวๆ อยู่แถวกำแพงบ้านหลังติดกันก็นิ่วหน้า
ใครมาทำอะไรตรงนี้
เขาเพ่งตามองตรงไปอีกครั้งแค่เห็นก็ยิ้มออก
ยายลูกกะตา...
พอเห็นว่าเป็นใคร ธรรศก็รู้สึกว่าถึงจะไม่มีใครอยู่บ้าน แต่สายวันนี้ชีวิตเขาจะไม่เงียบเหงาแล้ว...
“ทำอะไรน่ะหนูตา”
เสียงที่ดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้ศรานตาซึ่งนั่งยองๆนับกระถางเปล่าสำหรับปลูกต้นไม้อยู่บนพื้นต้องเงยหน้าขึ้นพยายามชะเง้อมองไปจากอีกฟากของกำแพง
“พี่ธรรศไม่ได้ออกไปกับคุณป้าหรือคะ”เธอไม่ตอบ แต่ถามกลับไปอย่างสงสัย ทั้งๆ ที่ยังนั่งอยู่กับพื้นในมือมีกระถางอยู่ด้วย
ศรานตารู้จากการบอกเล่าของกณิศาว่าวันนี้เป็นวันนัดตรวจสุขภาพของคุณป้ากุสุมาแล้วทำไมลูกชายหัวแก้วหัวแหวนถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้
“วันนี้พี่เฝ้าบ้านปล่อยให้เก๋ไปทำคะแนนลูกสาวที่ดี” ธรรศตอบกลั้วเสียงหัวเราะ
ไม่ใช่รักมารดาน้อยกว่าที่กณิศารักแต่เขาอยู่ต่างประเทศเสียหลายปี หน้าที่ตรงนี้จึงเป็นของกณิศาเธอรู้รายละเอียดมากที่สุด ถ้าเขาพามารดาไปเอง ถึงเวลาแพทย์อ่านผลการตรวจให้ฟังเขาอาจลืมซักถามบางประเด็นไป จึงปล่อยให้กณิศาทำหน้าที่นี้จะดีกว่า
อีกอย่างมารดาเห็นว่าเขาทำงานทุกวันเหนื่อยพอแล้วให้คนเวลาเยอะอย่างกณิศาขับรถให้ เขาจะได้พักผ่อน
“แล้วหนูตาทำอะไรยังไม่ได้ตอบพี่เลย”ธรรศพยายามชะโงกหน้ามองคนซึ่งพูดกับเขาไปมือก็ทำงานของตนไปด้วยอย่างใคร่รู้แต่ลูกกรงเหล็กตรงหน้าก็ทำให้เขาเห็นภาพไม่ชัดนักและยิ่งศรานตาทำท่าสนใจกระถางต้นไม้มากกว่าตนก็ยิ่งทำให้คนที่มักได้รับการสนใจขัดใจยิ่งนัก จึงตัดสินใจข้ามไปฝั่งตรงข้ามจะได้มองหน้าศรานตาให้ชัดๆ เขาอยากให้ศรานตาสนใจเขามากกว่าอะไรทั้งสิ้น
ทว่าวิธีของธรรศทำให้หญิงสาวที่หันมาจะตอบคำถามร้องเสียงแหลมอย่างตกใจ
“พี่ธรรศไปทำอะไรตรงนั้นเดี๋ยวเหล็กก็เกี่ยวเอาหรอก”
ตรงนั้นของศรานตาคือบนลูกกรงเหล็กซึ่งต่อสูงขึ้นไปจากกำแพงซีเมนต์ความแหลมของปลายเหล็ก ซึ่งมีไว้ป้องกันโจร ทำให้เธอต้องรีบลุกขึ้นปรี่ไปห้ามอย่างเป็นห่วง กลัวธรรศจะเกิดอันตราย
“ลงไปเดี๋ยวนี้นะพี่ธรรศเหล็กมันแหลมเห็นหรือเปล่า ไปเข้าทางประตูเลย”
ท่าทางยืนเท้าสะเอวมือหนึ่งส่วนอีกข้างชี้ไปทางประตูหน้าบ้าน หน้าตาถมึงทึงของศรานตาไม่ทำให้ธรรศกลัวสักนิดยังนึกเอ็นดูด้วยซ้ำ เขาหลุดหัวเราะออกมาหน้าระรื่น
“หัวเราะอะไรน่ะพี่ธรรศหนูตาไม่ได้พูดเล่นนะ ไปเข้าทางประตูเดี๋ยวนี้เลย”สีหน้าและท่าทางของธรรศทำให้ศรานตานึกฉุนอยากเปลี่ยนจากดุมาเป็นทำโทษเหมือนเคยทำกับเด็กนักเรียนที่ประพฤติตัวไม่ดีหลังจากเคยตักเตือนไปแล้วไม่ฟังแต่จุดที่ธรรศยืนพักขาอยู่ทำให้เธอทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะเกรงว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุทำให้เขาเจ็บตัวเสียเอง
เธอไม่อยากเห็นภาพธรรศเหมือนโจรร้ายในข่าวซึ่งปีนป่ายเข้าไปหวังขโมยของภายในบ้านคนอื่นแล้วพลาดพลั้งตกลงมาโดนเหล็กแหลมบนกำแพงแทงจนทะลุค้างติดอยู่กับลูกกรงเหล็กทำได้แค่ร้องโอดโอยเรียกให้คนช่วย และถ้าเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจริง เธอคงช่วยอะไรไม่ได้แน่ๆ
“ไม่เห็นต้องเสียเวลาเดินไปหน้าบ้านเลยตรงนี้แหละเร็วดี”
จากคำพูดและสีหน้าของธรรศทำให้ศรานตามั่นใจไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร ชายหนุ่มก็ยังคงดึงดันผ่านทางกำแพงให้ได้แน่ๆและถ้าเธอยังรั้งเขาเอาไว้ คราวนี้คงได้ตกลงมาจริงๆ ดังนั้นศรานตาจึงเร่งให้เขารีบลงมายืนบนพื้นหวาดเสียวกับภาพที่ขาข้างหนึ่งอยู่ในบ้านตัวเองอีกข้างเหยียบอยู่ในช่องซึ่งมีเหล็กคาดทับเหล็กแหลมตั้งตรงที่พร้อมจะบาดเนื้อหรือแทงแขนขานิ่มๆ ของธรรศตลอดเวลา
“ถ้างั้นพี่ธรรศก็รีบลงมาค่ะเดี๋ยวเหล็กทิ่มเอา”
ใจธรรศนึกอยากแกล้งศรานตาอีกสักหน่อยเด็กสาวข้างบ้านนี่ไม่เหมือนน้องสาวเขาเสียเลย ถ้าเป็นกณิศาคงขอมีส่วนร่วมด้วยไม่ใช่ยืนห้ามหน้าเหยเกแบบนี้ แต่ประกายเป็นห่วงในแววตา ทั้งยังคำพูดหลายๆประโยคนั้น ทำให้ใจร้ายไม่ลง
เขามั่นใจว่าหนูตาพูดเช่นนี้เพราะเป็นห่วง...
“หนูตานี่ขี้กลัวจัง” ธรรศหัวเราะเบาๆแล้วยอมปีนลงมาแต่โดยดี
ศรานตาจึงเบาใจ แต่ก็ไม่นานเพราะสวรรค์คงอยากลงโทษคนมีความสุขบนความห่วงใยของคนอื่น
กางเกงขาสั้นซึ่งธรรศสวมอยู่ดันไปเกี่ยวเข้ากับปลายเหล็กเกิดเสียงดังแควกยาวตามการดึงรั้งของร่างกายกำยำที่ทิ้งตัวกระโดดลงมายืนกับพื้นแม้ไม่ถึงกับหน้าคะมำ แต่ก็ยืนไม่ตรงนัก
“พี่ธรรศเป็นยังไงบ้างคะ”ศรานตารีบถลันมาถามชายหนุ่มด้วยความห่วงใย ดวงตาคู่สวยกวาดไปทั่วตัวชายหนุ่มโดยเฉพาะขากางเกงซึ่งขาดเป็นทาง มีชายผ้าห้อยรุ่งริ่งภาพคนร้ายที่ตกลงมาโดนเหล็กแหลมแทงทำให้ศรานตาใจสั่น หวั่นกลัวว่าเนื้อในของธรรศอาจไม่ต่างจากชายผ้า“บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ธรรศอมยิ้มเมื่อเห็นความห่วงใยจากศรานตาเขาใช้มือแหวกรอยขาดของผ้าออกดู โชคดีไม่โดนเหล็กข่วนเข้าจริงๆไม่งั้นคงได้ไปฉีดยาบาดทะยักกันบ้าง
“ไม่เป็นไรครับหนูตา เนื้อไม่ขาดแต่ผ้าขาด”
“ยังมีเวลามาพูดเล่นอีก เกิดไม่โชคดีอย่างวันนี้โดนเสียบคาอยู่ตรงนั้น พี่ธรรศจะทำยังไง”
“ก็เรียกรถพยาบาลหรือไม่ก็หน่วยกู้ภัยสิครับ”
ศรานตานิ่งไปกับคำตอบหน้าระรื่นของธรรศอาการเล่นไม่รู้จักเวลาของเขาทำให้เธอฉิว ไม่อยากต่อคำกับคนหน้าเป็นตรงหน้าจึงเดินหนีไปเปิดน้ำล้างมือ แล้วทำท่าจะเดินเข้าบ้านไม่สนใจผู้ชายตัวใหญ่ที่ปีนกำแพงข้ามมาบ้านเธออีก
“อ้าว หนูตา” ธรรศร้องเสียงหลงก้าวยาวๆ แค่เพียงสองก้าวก็มายืนดักหน้าหญิงสาว พอเห็นดวงหน้าเท่านั้นก็รู้ว่าเธอกำลังไม่พอใจ เขาคงทำเกินไปจริงๆ “หนูตาโกรธพี่หรือครับ”
“............”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากศรานตานอกจากอาการเบี่ยงตัวแล้วเดินหนีไปอีกทาง แต่ธรรศก็ไม่ยอม เขาก้าวตามไปติดๆเพียรง้อ...
“อย่าโกรธสิครับหนูตาพี่ธรรศขอโทษนะ”
“............”
“หนูตาครับอย่าเดินหนีพี่แบบนี้สิ ไม่เอานะ หนูตาทำแบบนี้พี่ใจไม่ดี”
--------------------------------
สวัสดีค่า มาถึงช่วงแรกของตอนที่ 6 แล้ว ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายที่ลงตัวอย่างให้อ่านแล้วนะคะ ตอนนี้หมดโควต้าแล้ว ใครสนใจเรื่องนี้สามารถดาวโหลดอีบุ๊กได้ตามลิงก์ด้านล่างเลยค่ะ
ฝาก E-Book เรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ https://goo.gl/SyMfOz
FB Fanpage : เนตรนภัส
สามารถติดตามผลงานเรื่องอื่นๆ
ในรูปแบบ E-Book ที่ Meb ค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in