ที่ประเทศมาเลเซียนั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับไสยเวทย์มนต์ดำชนิดหนึ่ง มันถูกสร้างขึ้นมาจากศพของเด็กแรกเกิด ผ่านการทำพิธีจากโบมอห์หรือผู้มีอาคมมนต์ดำ เรียกวิญญาณของเด็กคนนั้นให้กลับมาเข้าร่าง และเรียกตุ๊กตาศพเด็กนั้นว่า โตโยล
คนที่อยากจะได้โตโยลมาไว้ใช้งานนั้น พวกเขาจะต้องหาศพเด็กทารกด้วยวิธีการต่าง ๆ ถ้าไม่ได้ขโมยมาจากโรงพยาบาล ก็ต้องไปแอบขโมยขุดศพของเด็กขึ้นมา ก่อนที่จะนำมาทำพิธีดังกล่าว
ลักษณะเด่นของโตโยลนั้น ดูไปก็คล้ายกับมัมมี่เด็ก ผิวหนังของมันเป็นสีเขียวคล้ำ บางตัวก็เป็นสีเทาเข้ม หัวโต หูแหลมเล็ก ดวงตาเรียวเล็ก นัยตาสีเพลิง ฟันแหลมคม ในสายตาของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยรู้จักก็อาจมองว่ามันดูคล้ายกับตัวก็อบลิน โดยร่างของโตโยลนั้นจะถูกเก็บรักษาไว้ในขวดโหลแก้ว แล้ววางเก็บซ่อนเอาไว้ในมุมมืดที่ไหนสักแห่งจนกว่าเจ้าของจะเรียกใช้มัน ผู้ใดก็ตามที่ได้ครอบครองโตโยลเอาไว้เป็นของตัวเอง มันก็เรียกได้ว่าคนผู้นั้นได้ตกลงทำสัญญากับปีศาจไปเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่เจ้าปีศาจตนนี้มันมีอุปนิสัยเหมือนกับเด็ก ๆ ที่เราจะต้องทำให้มันมีความสุขอยู่เสมอ ต้องคอยให้ความรัก ให้อาหารเยอะ ๆ และเราจะต้องหาเพื่อนเล่นให้กับมัน บางคนก็จะใช้วิธีปั้นตุ๊กตารูปสัตว์ต่าง ๆ เอาไว้ให้เป็นเพื่อน บางคนก็ซื้อของเล่นจริง ๆ และถ้าเป็นเรื่องของอาหารการกิน ทุกคนจะเลือกพวกขนมนมเนยมาวางบูชาเอาไว้ให้
แต่บางคนก็ดูแลโตโยลด้วยสิ่งที่เหนือกว่านั้น นั่นก็คือการใช้เข็มเจาะที่ปลายนิ้ว แล้วคั้นเลือดสด ๆ ออกมา จากนั้นก็ป้อนใส่เข้าในปากของมัน แต่ถ้าเริ่มให้สิ่งนี้เป็นอาหารแก่โตโยลแล้ว นอกจากมันจะมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น มันก็ยังจะกลายเป็นปีศาจที่เอาแต่ใจ วันไหนไม่ป้อนเลือดให้มันก็จะไม่ยอมเช่นกัน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นมันก็จะแอบออกมาดูดเลือดจากปลายเท้าของเราแทน หรือมิฉะนั้นมันก็จะแอบไปดูดเลือดของคนอื่นที่อยู่ในบ้าน ในช่วงเวลาที่พวกเขานอนหลับอยู่
ว่ากันว่าคนที่สร้างโตโยลขึ้นมา ก็เพื่อหวังจะใช้ประโยชน์จากความเป็นเด็ก ให้มันออกไปลักขโมยของจากคนอื่น และนอกจากนี้โตโยลก็สามารถใช้เป็นเครื่องรางป้องกันตัวได้อีกด้วย โดยมันจะสามารถสิงสู่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นพาหนะเดินทางตามผู้ที่เป็นเจ้าของ ๆ มัน บางตัวก็จะใช้วิธีวิ่งเล่นไปมาอยู่รอบ ๆ ตัวเจ้าของ และในหลาย ๆ ครั้งที่เกิดเรื่องร้ายแรง โตโยลก็สามารถทำหน้าที่ของมันได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้เลี้ยง ซึ่งก็นับได้ว่าในแง่ของประโยชน์แล้วโตโยลก็ถือเป็นเครื่องรางของขลังที่มีไว้เพื่อช่วยเหลือเรา ยามที่ภัยร้ายเข้ามาถึงตัวได้เป็นอย่างดี
แต่บางทีโตโยลมันก็มักจะซนจนเกินไป หลาย ๆ ครั้งมันมักจะเที่ยวไล่แกล้งผู้คน ซึ่งผู้ที่เลี้ยงโตโยลก็จะต้องหาวิธีป้องกัน เพื่อไม่ให้มันไล่แกล้งใครนานจนเกินไป ด้วยการวางลูกแก้วไม่ก็ลูกหินไว้รอบ ๆ ตัวบ้าน การแขวนพวงกระเทียมไว้เหนือบานประตูก็เช่นกัน ซึ่งของเหล่านี้สามารถเบี่ยงเบนความสนใจของโตโยล ให้หันมาเล่นกับสิ่งเหล่านี้แทนที่จะวิ่งเล่นรบกวนผู้คนไม่จบไม่สิ้น
ถ้าบ้านไหนเลี้ยงโตโยลเอาไว้ ก็มักจะพบอีกปัญหาหนึ่งก็คือ วันดีคืนดีเงินทองที่วางเอาไว้ในบ้าน จะถูกมันแอบหยิบไปเล่นจนหาไม่เจอ ซึ่งพวกเขาจะต้องแก้ไขพฤติกรรมเหล่านี้ ด้วยการนำเงินไปวางไว้เหนือบานกระจก แล้วใช้เข็มปักสะกดเอาไว้ ซึ่งรู้กันดีว่าโตโยลนั้นกลัวเข็ม และกลัวเงาของตัวเองเป็นอย่างมาก และพอมันเห็นแบบนี้มันก็จะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเงินของเราอีกเลย
และถ้าวันดีคืนดีมีใครสักคนนำโตโยลมามอบให้เรา นั่นก็หมายความว่านับตั้งแต่วันนั้น เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมันไปจนถึงวันตาย และนอกจากนี้เราจะต้องแลกกับชีวิตปกติธรรมดา กลายมาเป็นที่รังเกียจของสังคม ยาวนานต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ถูกประนามสาปแช่งจากชาวบ้านไม่มีวันจบสิ้น โดยมีเพียงสองอย่างที่จะสามารถทำให้เราหลุดพ้นจากพันธะสัญญาเลือด ที่จะต้องดูแลมันไปตลอดกาลนั่นก็คือ การตัดใจนำโตโยลไปฝังไว้ในป่าช้า และอีกวิธีนั้นก็คือการจับมันโยนถ่วงน้ำ ไม่ก็โยนทิ้งออกไปในท้องทะเลนั่นเอง
ในประเทศมาเลเซียนั้น มีเรื่องเล่าพูดถึงเด็กหนุ่มชื่อบาชุค เขาเป็นคนขี้เกียจไม่เอาถ่านทำงานไม่ได้เรื่อง แถมยังติดการพนัน มีเงินติดตัวอยู่เท่าไหร่เขาก็จะเอาทั้งหมดไปทิ้งให้กับบ่อนจนหมดตัว บาชุคอาศัยอยู่กับภรรยาและน้องสะใภ้ ซึ่งพวกเธอเองก็ต้องทนลำบากอยู่กับความยากจน เพียงเพราะความขี้เกียจของชายคนนี้เท่านั้นเอง
วันหนึ่งในขณะที่บาชุคกำลังพยายามค้นข้าวของ ซึ่งเป็นมรดกของพ่อที่จากไป ด้วยความบังเอิญสายตาของบาชุคก็ไปเห็นหีบเก่า ๆ ใบหนึ่ง มันถูกวางแอบไว้อยู่ตรงมุมตู้เก็บของ ด้วยความอยากรู้ทำให้บาชุคหยิบมันออกมา หีบเก่า ๆ ใบนี้มันเก็บอะไรไว้ข้างในกันแน่ ? คิดได้แบบนั้นบาชุคจึงตัดสินใจเปิดฝาหีบออก และเมื่อเขาลองมองเข้าไปภายใน ก็พบกับของบางอย่างถูกเก็บรักษาอยู่ในนั้น เจ้าของสิ่งนี้มันดูเหมือนกับซากศพของเด็กทารก เมื่อบาชุคมองไปที่ใบหน้าของมัน ว่ามันเป็นศพจริง ๆ หรือเป็นเพียงรูปปั้นดิน มันก็ลืมตาขึ้นมาทันที ดวงตาของมันเปล่งประกายเป็นสีแดงดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก นั่นจึงทำให้บาชุคพยายามนึกย้อนกลับไปในสมัยเด็ก และในที่สุดเขาก็จำได้ว่าพ่อของเขาเคยหยิบเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมาให้เขาเห็นอยู่ครั้งหนึ่ง โดยครั้งนั้นพ่อของเขาเรียกมันว่า “โตโยล”
“ขอบคุณที่ช่วยปลดปล่อยข้า !” เสียงประหลาดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหัวของเขา บาชุคถึงกับตกใจกลัวมองหาที่มาของเสียงอย่างเสียสติ และในที่สุดเขาก็รู้ว่า เสียงนั้นมันน่าจะมาจากโตโยล เพราะพ่อของเขาเคยเล่าว่าโตโยลมันสามารถพูดคุยกับคนที่มันต้องการได้
บาชุคจึงรีบสงบสติอารมณ์ แล้วรวบรวมความกล้ามองไปที่มัน และเขาก็ได้ยินเสียงขึ้นมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้โตโยลบอกกับเขาว่า “ถ้าเจ้าอยากจะได้อะไร ข้าก็สามารถบันดาลให้ได้ทุกอย่าง เพียงแต่ตอนนี้เจ้าจะต้องให้ในสิ่งที่ข้าต้องการเสียก่อน” บาชุคทำใจดีสู้เสือถามมันกลับไปว่า “เจ้าต้องการอะไร ?”
โตโยลจึงตอบกลับมาว่า “ตอนนี้ข้าหิว เจ้าต้องหาอาหารมาให้ข้ากินเดี๋ยวนี้!”
และตั้งแต่นั้นมาบาชุคจะส่งโตโยลปีศาจน้อยในร่างของเด็กชาย เที่ยวออกไปหลอกหลอนชาวบ้านทุกค่ำคืน บางวันก็จะส่งมันเข้าไปในบ้านของคนมีเงิน เพื่อจะได้แอบลักขโมยทรัพย์สินจากพวกเขากลับมาให้ ทำแบบนี้มายาวนานจนในที่สุดบาชุคก็กลายมาเป็นคนร่ำรวยอย่างผิดปกติ โดยชาวบ้านแถวนั้นต่างก็ไม่มีใครรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินทองมากมายยิ่งกว่าใครแบบนี้
จนเวลาผ่านไปนานโตโยลที่เคยทำทุกอย่างให้กับบาชุค ก็เริ่มร้องขอสิ่งแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นไปอีก มันบอกกับบาชุคว่าตอนนี้มันต้องการแม่คนใหม่ แม่ที่สามารถมีน้ำนมให้มันดื่ม บาชุคได้ยินแบบนี้ก็ไม่สบายใจ จึงออกอุบายบอกกับมันว่า อยากดูดนมก็ลองไปดูดของน้องสะใภ้แทน ซึ่งบาชุคเองก็ไม่ทันคิดว่าน้องสะใภ้ของเขาจะไปมีน้ำนมให้มันได้อย่างไร
พอรุ่งเช้าน้องสะใภ้ที่นอนอยู่อีกห้องก็โวยวายเสียงดัง บาชุคและภรรยาจึงรีบเข้ามาดู พวกเขาก็พบว่าบนร่างกายของเธอนั้น มีคราบเลือดละเลงติดอยู่ไปทั่ว ภรรยาของบาชุครีบเข้าไปช่วยดูใกล้ ๆ เพื่อจะได้ตรวจสอบว่าน้องสะใภ้ของเธอ ถูกใครแกล้งเอาเลือดที่ไหนมาละเลงเล่นหรือเปล่า และทั้งสองพี่น้องก็พบว่าที่หน้าอกของเธอ มีรอยเขี้ยวของอะไรบางอย่างกัดอยู่ที่บริเวณปลายหัวนม นั่นจึงทำให้น้องสาวของเธอตกใจร้องไห้ออกมาจนถึงกับสลบไป
ท่ามกลางความตกใจนั้นบาชุครู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น รอยเขี้ยวที่พวกเธอพูดให้เขาได้ยินนั้นมันจะเป็นเขี้ยวของใครไปไม่ได้ นอกจากเจ้าโตโยลตุ๊กตาปีศาจเด็กตัวนั้น มันอาจจะเป็นเพราะน้องสะใภ้ของเขาไม่มีน้ำนม นั่นจึงทำให้มันต้องดูดกินเลือดสด ๆ จากอกของเธอแทน ในเมื่อโตโยลมันน่ากลัวเกินกว่าที่คาดไว้แบบนี้บาชุคจึงต้องทำอะไรสักอย่าง
บาชุคจึงตัดสินใจออกอุบายว่าที่บ้านตอนนี้ มันอาจจะมีสัตว์ร้ายอะไรบางอย่างอาศัยอยู่ และเพื่อความปลอดภัย ทุกคนควรจะรีบเก็บข้าวของหนีออกจากที่นี่ ก่อนที่จะถูกสัตว์ร้ายตัวนี้ บุกเข้ามาดูดเลือดจนตายกันหมดทุกคน
ทั้งภรรยาและน้องสะใภ้ตอนนี้ต่างก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร อีกทั้งตอนนี้เหตุการณ์มันก็น่าจะเป็นอย่างที่บาชุคพูด พวกเธอจึงรีบทำตามโดยไม่คิดจะไต่ถามรายละเอียดใด ๆ เพิ่มอีก
จนเมื่อทุกคนเก็บข้าวของเสร็จ บาชุคจึงรีบพาทั้งสองเดินทางออกไปจากตัวบ้าน แต่พอเดินออกไปได้ไม่ทันไร ทุกคนก็ต้องตกใจกลัวกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า มันคือร่างของโตโยลตุ๊กตาเด็กปีศาจ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาสีแดงของมันเปล่งประกายน่ากลัวกว่าทุกครั้ง
บาชุครู้ดีว่าเจ้าโตโยลมันคงจะโกรธเขามาก และที่มันปรากฏตัวออกมาให้ทุกคนเห็นตอนนี้ มันก็น่าจะเป็นเพราะมันรู้ว่าเขาหักหลัง ไม่ยอมมอบสิ่งที่มันต้องการให้อีกต่อไปแล้ว
คิดในใจยังไม่ทันรู้เรื่องดี โตโยลก็พุ่งเข้ามาหาบาชุคด้วยความรวดเร็ว มันใช้เขี้ยวของมัน ฝังเข้าไปที่คอของบาชุค ในขณะเดียวกันมือและเท้าของมันก็รัดเขาจนแน่นไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ ในไม่ช้าทุกคนก็รู้ว่า ตอนนี้เจ้าโตโยลมันกำลังดูดเลือดของบาชุคอยู่ และมันยังคงดูดต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ภรรยาและน้องสะใภ้ของเขาเอง ก็ถึงกับตกตะลึงเข่าทรุดจนทำอะไรไม่ถูก
สุดท้ายบาชุคก็ถูกโตโยลดูดเลือดจนหมดตัว ร่างกายของเขากลายเป็นซากศพแห้ง ๆ นอนตายคาที่อยู่ตรงนั้น ส่วนโตโยลก็หายตัวไปและไม่หวนกลับมาให้ใคร ๆ ในหมู่บ้านพบเห็นอีกเลย
และก็มีอีกหนึ่งเรื่องเล่าสั้น ๆ ที่พูดถึงการพบกับโตโยลในอีกรูปแบบ โดยในช่วงปี ค.ศ. 2006 นั้น ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับชาวประมงชาวมาเลเซียคนหนึ่ง วันนั้นเขาออกเรือล่องไปในคลอง เพื่อทอดแหดักอวนหาปลามาขายตามปกติ เพียงแต่ในวันนี้เขาพบกับความผิดปกติบางอย่าง หลังจากทอดแหลงไปในพื้นน้ำ เพราะเมื่อเขาสาวแหกลับขึ้นมา เขาก็พบกับขวดโหลแก้วใบหนึ่งติดขึ้นมาด้วย
ชาวประมงคนนั้นจึงหยิบมันขึ้นมาดูใกล้ ๆ เขาสังเกตเห็นว่าภายในขวดโหลใบนี้ มีรูปปั้นเล็ก ๆ สีดำ ลักษณะคล้ายกับเด็กทารกเป็นอย่างมาก และพอมองไปที่ดวงตา เขาก็พบว่ามันเป็นสีแดงก่ำน่ากลัว โดยชาวประมงเองเห็นแบบนั้น เขาก็พอจะรู้มาบ้างว่าเจ้าตุ๊กตารูปร่างแบบนี้ มันก็คือโตโยลนั่นเอง
แต่ถึงชาวประมงจะรู้ว่ามันคืออะไร เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงถูกนำใส่ขวดโหลแก้วมาทิ้งไว้ใต้คูคลองแบบนี้ และนั่นจึงทำให้เขาเตัดสินใจเดินทางไปยังบ้านหมอผี ที่อาศัยอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เขากำลังล่องเรือตรงนี้ เผื่ออย่างน้อยเขาจะได้หายสงสัย และหมอผีก็อาจจะมีอะไรดี ๆ อย่างเช่นเลขเด็ดมาบอกกับเขา
พอไปถึงบ้านพ่อหมอ ชาวประมงก็รีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง และรีบส่งขวดบรรจุรูปปั้นโตโยลให้กับหมอผีดู ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดกัน หมอผีบอกว่าสิ่งนี้มันก็คือรูปปั้นของโตโยล และมันก็ถือเป็นสิ่งต้องห้ามกับคนทั่วไปที่จะสามารถครอบครองมันเอาไว้ ดังนั้นหมอผีจึงได้ขอให้ชาวประมง มอบโตโยลตัวนี้ให้แก่เขา เพื่อที่จะได้นำมันไปเก็บรวบรวมไว้ ให้เป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นเครื่องปลุกเสกของที่นี่จะดีกว่า พูดจบแล้วก็นำโตโยลออกมาแล้วจุ่มมันลงไปในน้ำมนต์เพื่อเริ่มทำพิธีกรรม
ชาวประมงเห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจขอตัวกลับ ปล่อยให้พ่อหมอทำพิธีของเขาต่อไป จนเวลาล่วงเลยถึงช่วงเย็น ข่าวการพบโตโยลก็ถูกแพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านต่างก็พูดกันว่า ตอนนี้ที่บ้านของหมอผีกำลังจะเปิดให้ชาวบ้านผู้สนใจเข้ามาสักการะบูชาโตโยล ที่เพิ่งถูกพบตัวนี้กันในวันรุ่งขึ้น ซึ่งข่าวนี้ก็ได้ทำให้ชาวบ้านมากมายต่างเตรียมข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงเงินทองเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อจะได้นำไปบูชากราบไหว้ตุ๊กตาตัวนี้กันถ้วนหน้า
พอวันรุ่งขึ้นมาถึง ชาวบ้านต่างก็เดินทางไปที่บ้านของหมอผี เพื่อหวังจะได้เข้าชมบูชาโตโยล และหวังกันเล็ก ๆ ว่าพวกเขาอาจจะได้เห็นอะไร ที่สามารถนำมาคิดคำนวนออกมาเป็นเลขเด็ดเพื่อเปลี่ยนชีวิต แต่กลับกลายเป็นว่าหมอผีส่งลูกศิษย์ออกมาบอกกับทุกคน ว่าตอนนี้โตโยลไม่อยู่ที่นี่แล้ว เพราะเมื่อรุ่งสาง พ่อหมอเพิ่งจะนำมันใส่กลับเข้าไปไว้ในขวดโหล ทิ้งกลับไปยังที่ ๆ มันจากมาเหมือนเดิมไปแล้ว
ชาวบ้านได้ยินแบบนี้เข้าต่างก็ไม่พอใจ สอบถามลูกศิษย์ของหมอผีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับมานั้น ก็คือเหล่าลูกศิษย์ต่างก็เงียบกันหมด แล้วรีบเดินกลับขึ้นไปบนบ้านทันที ปล่อยให้พวกชาวบ้านยืนงงกันต่อไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะแยกย้ายกลับไปยังบ้านของตัวเอง
เรื่องราวของตุ๊กตาปีศาจโตโยลเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในตำนานสยองขวัญ เกี่ยวกับไสยศาสตร์มนต์ดำของประเทศมาเลเซีย ที่พูดถึงตุ๊กตาที่ทำจากซากของเด็กทารก ที่ดูไปแล้วรายละเอียดหลาย ๆ อย่างนั้น เหมือนกับลูกกรอกในบ้านเราเป็นอย่างมาก
โดยในความจริงแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับตุ๊กตาอาคมแนวนี้ มันเป็นที่แพร่หลายในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ซึ่งในละประเทศนั้น จะเรียกตุ๊กตาชนิดนี้ในชื่อต่าง ๆ อย่างทางจีนฮกเกี้ยนก็จะเรียกมันว่า "กุ่ยซือ" บ้านเราก็เรียกว่า "ลูกกรอก" ประเทศฟิลิปปินส์เองก็มีเรื่องของวิญญาณเด็กที่เรียกว่า "ติยานัค" ส่วนในกัมพูชาเขาก็จะเรียกมันว่า "โคเฮนเคราะห์" และในเกาหลีใต้ก็มีก็เรียกสิ่งนี้ว่า "โดโยล"
และด้วยตำนานไปจนถึงรายละเอียดส่วนใหญ่ ของเรื่องราวที่ถูกเล่าขานเกี่ยวกับโตโยลหรือลูกกรอกนี้ ถือว่ามันไม่ใช่เพียงเรื่องเล่าเล็ก ๆ ที่สืบทอดกันมา แต่มันสามารถเรียกได้ว่าเป็นตำนานแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เล่าสืบต่อกันมาอย่างยาวนานแบบนี้
แปลและเรียบเรียงโดย นิวัฒน์ อ่ำแสง
ที่มา : http://www.mitithee6.com/2017/03/Toyol.html
#ตุ๊ดกูรู : ToodGuRu
เรื่องบางเรื่องไม่ต้องพึ่ง “กูรู” แค่เป็น “กูรู้” ก็พอ
#สาระ #ความรู้ #ตุ๊ดกูรู
Twitter : https://twitter.com/ToodGuRu
Facebook : https://www.facebook.com/toodguru
Maggang : https://toodguru.maggang.com/
Minimore : http://minimore.com/b/RcoPh
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in