ตามตำนานลักษณะที่สังข์มีรูปร่างแบบนี้ก็เพราะ ถูกพระนารายณ์บีบ ก็เลยเป็นไปตามนั้น ส่วนร่อง เกิดจากรอยนิ้วมื้อที่พระนาราย์ล้วงแล้วลากพระเวทออกมาจากท้่องของหอย ก็เลยเป็นรอยติดอยู่
หอยสังข์ ซึ่งถือกันว่าเป็นของที่มงคล และมักนำมาใช้ในงานมงคลต่างๆ ซึ่งมีที่มาจากเรื่องเล่าต่อกันมาว่า เมื่อครั้งพระอิศวรสร้างเขาพระสุเมรุแล้ว พระองค์ก็มีประกาศิตให้พระพรหมธาดาขึ้นไปอยู่ในพรหมโลก ให้เป็นใหญ่กว่าพระพรหมทั้งหลาย ในครั้งนั้นพระพรหมที่มีจิตใจริษยาต่างก็ไม่พอใจ จึงจุติลงมาเป็นสังข์อสูรอยู่ใต้เขาพระสุเมรุ ครั้งนั้นพระพรหมธาดาได้นำเอาคัมภีร์มาถวายพระอิศวรเกิดอยากสรงน้ำ จึงได้วางคัมภีร์ไว้ริมฝั่งแล้วเสด็จลงน้ำ
ฝ่ายสังข์อสูรเมื่อเห็นเช่นนั้น จึงได้ให้ผีเสื้อน้ำไปลักเอาคัมภีร์นั้นมาแล้วก็กลืนเข้าไว้ในท้อง ฝ่ายองค์พรหมธาดาเมื่อขึ้นมาจากน้ำไม่เห็นคัมภีร์ จึงรีบไปเข้าเฝ้าพระอิศวรทูลเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทรงทราบ เมื่อพระศิวะเจ้าเข้าฌานก็ทราบถึงสาเหตุ จึงได้เชิญพระนารายณ์มา และให้เป็นธุระในการนำคัมภีร์กลับมา พระนารายณ์จึงได้แปลงกายเป็นปลากรายทอง นามว่า “มัจฉาวตาร” ไล่ล่าสังหารผีเสื้อน้ำ และเข้าโรมรันกับสังข์อสูร ในที่สุดก็เอาชนะสังข์อสูรได้ แล้วสำแดงองค์คืนร่างเป็นพระสี่กร ยื่นพระหัตถ์เข้าไปในปากสังข์อสูรเพื่อหยิบเอาพระคัมภีร์
ตอนที่พระนารายณ์ท่านเนรมิตรร่างกายให้ใหญ่โตแล้วล้วงมือลงไปบีบจับสังขอสูรที่หลบไปซ่อนตัวในหอยสังข์หอยเลยเป็นลอยนิ้วมือพระนาราณ์มาจนถึงทุกวันนี้ และเ้วยเดชคัมภีร์ของพระพรหมที่สังขอสูรนั้นลักโขมยมาจึงทำให้หอยสังข์เป็นของมงคลมีพลังศักสิทธิ์มาจนถึงทุกวันนี้
หรือบางตำนานก็ว่าทรงแหวกปากของสังข์อสูรออก จากนั้นสาปสังข์อสูรว่า สังข์อสูรเป็นพรหมมาจุติและกลืนคัมภีร์พระเวย์เข้าไป อีกทั้งยังมีรอยนิ้วพระหัตถ์แห่งพระองค์ปรากฏอยู่ด้วย นับว่าเป็นมงคล ดังนั้น ถ้าผู้ใดจะทำการมงคลในภายภาคหน้าก็จงเอาสังข์เข้าไปอยู่ในพิธีนั้น ผู้ใดรดน้ำในอุทร สังข์ก็ให้เป็นมงคลกันอุบาทว์เสนียดจัญไร ถ้าเป่าก็ให้เป็นมงคลไปจนสุดเสียงสังข์ ครั้งสาปแล้วพระนารายณ์ก็นำคัมภีร์ไปถวายพระอิศวร และเสด็จกลับเกษียรสมุทร ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพราหมณ์จึงถือว่าหอยสังข์ที่ปากมีริ้ว 2 – 4 ริ้ว อันเกิดจากนิ้วพระหัตถ์ของพระสี่กรปรากฏอยู่นั้น เป็นสังข์สำคัญ
เมื่อยักษ์สังข์อสูรนั้นอยู่ในมหาสมุทรเนิ่นนานเข้าจึงได้กลับกลายมาเป็น “หอยสังข์” และมีสภาพเหมือนกับที่พระนารายณ์สาปไว้ทุกประการ ตามบริเวณร่างกายของหอยสังข์นั้น ได้มีรอยนิ้วพระหัตถ์ของพระนารายณ์ผู้เป็นเจ้ายังปรากฏอยู่ ในขณะที่พระองค์ทรงบีบปากเพื่อค้นหาคัมภีร์พระเวย์เมื่อครั้งแรก และที่ปากของหอยสังข์มีรอยยาวออกมานั้น ก็เพราะพระนารายณ์ลากคัมภีร์พระเวย์ต่าง ๆ ออกมาทางปาก ครั้งเมื่อถึงเวลาจะทำพิธีมงคลต่าง ๆ จึงจะนำหอยสังข์นั้นมาเข้าร่วมอยู่ในพิธีมงคลต่าง ๆ อย่างพิธีแต่งงาน เพราะหอยสังข์เคยเป็นที่บรรจุพระเวย์ต่าง ๆ ไว้ในท้องของตนจนครบทุกประการ
ว่ากันว่า สังข์นี้เมื่อเป่าแล้วจะเกิดเสียงคล้ายคำว่า"โอม" และเมื่อขณะพระนารายณ์บรรทมอยู่เมื่อจะปลุกพระองค์พระอินทร์จะเป็นผู้เป่าสังข์เพื่อปลุกพระองค์จากการบรรทมขึ้นมาด้วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in