นี่เป็นสิ่งที่เรานั่งคิดมาตลอดการเล่นทวิตเตอร์ช่วงสองสามปีหลังๆมานี้เห็นคนที่เราฟอลอยู่เขียนบล็อกรีวิวหนัง เพลง ไปจนถึงเล่าชีวิตตัวเองให้คนอื่นฟัง
สองประเภทแรกเราพอเข้าใจ แต่การเล่าชีวิตตัวเองคือ ใครจะอ่านวะ ? 55555
มองอีกมุมนึงคือเหมือนการที่เรานั่งทวีตไปวันๆรึเปล่า เขียนบล็อกคือเอามารวมไว้ด้วยกันเป็นหน้าๆ งี้ เพราะทวิตเตอร์ให้พิมพ์ได้ทีละ 140 ตัวอักษร
เราไม่เคยถามพวกเขาอ่ะ ใครจะไปกล้าถาม ดูขี้เสือกมากๆ และเขาคงตอบว่า เขียนไว้อ่านเอง
จริงเหรอ ?
การเขียนอะไรลงโซเชียลคือการอยากให้คนอ่านป่ะ ไม่งั้นก็ไปเขียนไดอารี่อ่านเองมะ
อันนี้เราก็อยากให้คนอ่านนะ.....แต่ก็นั่นแหละ คำถามของเราคือ คนแบบไหนจะมานั่งอ่าน blog อ่ะ ?
โดยส่วนตัวเราไม่ใช่คนชอบนั่งอ่านอะไรยาวๆ ไม่ชอบอ่านของคนอื่นด้วยเราเลยไม่ค่อยเข้าใจ point ของการเขียนบล็อกเท่าไหร่ แต่ก่อนจะมาเขียนอันนี้คือไปส่องของคนอื่นมา พบว่าเนื้อเรื่องเค้าก็ดูมีสาระอ่ะต่อให้เป็นการเพ้อๆ ก็ดูจะมีสาระ ซึ่งเราทำไม่ได้ 555555
แล้วก็มานั่งคิดอีกว่าจะเขียนดีมั้ยวะ คำว่า " ใครจะอ่าน ? " ติดอยู่ในหัวเราอยู่นานมาก
ไปเสิร์ชในกูเกิ้ลเรื่องเขียนเว็บไหนดี ก็ไปเจอประโยคนึง
"ก้าวแรกของการมีบล็อค คือ ใจรักในที่สิ่งที่เขียน ชอบในสิ่งที่ทำ
เอาเวลาว่างมาใช้ระบายลงสูโลกออนไลน์อย่างเกิดประโยชน์"
แล้วก็ตัดสินใจเขียนจนได้...
ถือซะว่าอันนี้เป็นการแชร์ความคิดละกัน ว่าเราคิดอย่างงี้ ดูจะไพรเวทและปลอดภัยกว่าการเขียนลงทวิตเยอะเลยเพราะไม่น่าจะมีคนอ่าน
แต่แบบเขียนมาถึงตรงนี้แล้วพบว่ามันยากมากกกกก การที่มาเล่าเรื่องตัวเองแล้วต้องทำตัวเอียงตัวหนา ต้องมาจัดหน้าอะไรเนี่ย โว้ย 555555 รู้สึกมีสาระและไม่ใช่ตัวเองมากๆ
คิดว่าเป็นเรื่องราวใหม่ๆ ในชีวิตละกัน :-D
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in