เรื่องมันเกิดขึ้นเพียงเพราะเราอยากได้ซื้ออัลบั้มเกาหลีอัลบั้มนี้
ใช่... เราเป็นติ่งเกาหลี เเน่นอนว่าการซื้ออัลบั้มถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก ด้วยความที่เราอยากได้เร็วเเละถูกเลยวานให้เพื่อนช่วยกดสั่งให้ เเต่โชคกลับไม่เข้าข้างเพราะเพื่อนบอกว่าเราว่าอัลบั้มมัน SOLD OUT เเล้ว ด้วยความที่อยากได้มากก็เลยหาร้านทั้งในไอจี เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ก็ล้วนเเต่ต้องรอเป็นเวลานานเเละราคาสูงด้วย เเต่ด้วยความที่เราอยากได้มากจึงนึกถึงร้านที่เราเคยซื้อเมื่อนานมาเเล้ว
ร้านนั้นเป็นร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเลยนะสำหรับเรา มีลูกค้าประจำเยอะเเถมพ่อค้าก็กันเองมากๆ เราจึงทักอินบ็อคไปเพื่อที่จะสั่งซื้อ เขาก็ตอบมาเเต่เป็นเพียงเเค่เเอดมินสำรองบอกว่าให้รอเเอดมินหลักมาบอกราคา เราก็รอเพราะเรารู้อยู่เเล้วว่าร้านนี้จะมีเเอดมินที่ช่วยเจ้าของร้านขายอีกต่อหนึ่ง ผ่านไปอีก1วันแอดมินรองก็มาตอบมากบอกราคา ร้านนี้จะมีเเอดมินหลักรองน่ะค่ะ คือเเอดมินผู้ชายคือเจ้าของร้าน แอดมินผู้หญิงคงเป็นเพียงเเค่ลูกจ้างเท่านั้น เราก็เลยตอบไปว่าเรารับ1อันค่ะ จัดส่งเเบบEMS ราคารวมค่าส่งอยู่ที่ 640 บาท หลังจากนั้น2วัน เราก็ได้โอนเงินไปให้กับทางร้าน วันที่เราโอนคือวันที่ 13 ตุลาคม 2559 หลังจากนั้นเราก็รอเพราะการซื้อเเน่นอนมันคือการซื้อเเบบพรีออรเดอร์ค่ะ เพราะฉะนั้นลูกค้ามีหน้าที่รอสินค้ามาส่งเท่านั้น
หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เราก็เข้าไปส่องเพจบ้าง ก็เห็นเเอดมินหรือพ่อค้าไปเกาหลีเเละหิ้วอัลบั้มมากเยอะมาก เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรก็มาส่องเพราะอยากรู้ว่าแอดมินจะส่งของให้ตอนไหน เขาก็ไปเกาหลีรับพรีออเดอร์ของเกาหลีมากมาย เเละบอกว่าอัลบั้ม200กว่าอัลบั้มจะส่งกลับเเบบEMSกลับจากเกาหลีมา เเละอีก40อัลบั้มเขาจะหิ้วกลับมาเอง เราก็โห... คงหลายบาทเนอะ คิดไปไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเดี๋ยวกลับมาจากเกาหลีเขาคงส่งมาให้เราเองนั้นเเหละ
จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานพอสมควร(เกือบหนึ่งเดือน) เราก็ทักอินบ็อคร้านนั้นไปอีกรอบ เขาก็ตอบมาเเค่ว่าภายในอาทิตย์นี้ครับ คือเราก็รอเพราะโดยส่วนตัวเเล้วจะไม่ค่อยตามของนะ ขนาดโปสเตอร์ที่เคยซื้อลืมส่งมาเกือบครึ่งปีเรายังไม่ทวงเลย เพราะเราคิดว่าคนเราก็น่าจะมีสัจจะในคำพูดเขาคงไม่ผิดคำพูดเเน่ๆ เราก็เข้าไปส่องหา Tracking ทุกวันเพราะเราจะได้รู้ว่าเขาส่งจริงไหม ก็เกือบอาทิตย์ที่เราเข้าไปส่องก็ไม่เห็นมี เเถมบางวันก็ไม่ส่งของ เริ่มมีลูกค้ามาโวยวายบ้างด้วย เราก็เอะใจเเต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นคอมเมนต์ทวงขนาดนั้น เราก็รอจนเกินมาเป็น10กว่าวัน เราก็ยังใจเย็นอยู่เพราะว่าลูกค้าร้านเขาคงเยอะเเละคงยังไม่ถึงคิวเรา เราก็เเอบมีไปโวยวายในทวิตเตอร์บ้าง(หืม?) ก็นานนิ เราก็เริ่มเห็นมีคอมเมนต์ว่ารอมาหลายเดือนเเล้วนะทำไมไม่ยอมส่งให้ซักที เราก็เริ่มเอะใจมากขึ้นเพราะมันเริ่มมีคนมาคอมเมนต์เเบบนี้เยอะขึ้น เเต่คอมเมนต์เหล่านั้นก็จะโดนลบไปตลอด เราก็เข้าใจว่าถ้าเรามีลูกค้ามาคอมเมนต์เเบบนี้ เราเองก็คงลบราะมันจะอาจจะส่งผลให้ลูกค้าคนอื่นที่เขาสนใจจะสั่งของอาจจะมองภาพลักษณ์ของร้านไม่ดี จนเเอดมินออกมาโพสต์ว่า "มีปัญหาส่วนตัวขอปิดร้าน2สัปดาห์นะครับ เเล้ววันเสาร์จะเริ่มทำงานใหม่"
เเน่นอนค่ะว่าต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วยเเละไม่เห็นด้วย ร่วมถึงเราที่ยอมรับตรงๆเลยว่าไม่เห็นด้วย เพราะการที่คุณมาเปิดร้านแบบนี้ให้ลูกค้ารอ เเถมไม่ออกมาชี้เเจงตั้งเเต่เเรก ให้ลูกค้าที่เขาจ่ายเงินให้คุณมานั่งรอนอนรอว่าคุณจะส่งให้ตอนไหน เราก็แอบเข้าไปอ่านคอมเมนต์ก้มีคนเข้ามาทั้งให้กำลังใจเเละต่อว่าพอสมควร จนเวลาผ่านว่าถึงวันอาทิตย์ แอดมินก็ออกมาโพสต์ว่าขอปิดร้านถาวรเพราะมีปัญหาส่วนตัวเเละจัดส่งของให้ครบ คอมเมนต์ในโพสต์นั้นกระหื้มมาก เพราะของก็ยังไม่ได้เเถมเเอดมินยังมาโพสต์ปิดร้านอีก ก็เริ่มมีการโวยวายเเละขุดประวัติขึ้นมา แอดมินเป็นนักศึกษาเเพทย์ของมหาวิทยาลัยรัฐเเห่งหนึ่งทางภาคเหนือ เราก็เห้ยเป็นถึงหมอทำไมงี้อะ เราก็โมโหเหมือนกันเพราะเราก็รอนานพอสมควรเเถมยังผลัดวันประกันพรุ่งนี้อีกเราก็นอยด์บ้าง คอมเมนต์ก็ดุเดือนมากเเถมยังชวนกันสร้างกลุ่มไลน์เพื่อจะรวบรวมหลักฐานเเจ้งความแอดมินอีกด้วย พอสายๆของอีกวันแอดมินก็มาโพสต์อีกว่าอย่าเอาหน้าที่การงานมาเกี่ยวข้องด้วยเลย เเละจะโอนเงินคืนทั้งหมด เเละเขายังบอกด้วยว่าเขาเป็นโรคประจำตัวตือโรค Major depressive disorder เเบบอาการกำเริบจนทำงานไม่ได้ เราก็ไม่รู้ว่ามันคือโรคอะไรเลยไปเสิร์ชใน Google เรียกง่ายๆก็คือโรคซึมเศร้านั้นแหละ เราก็เออเเค่โรคซึมเศร้าทำไมอะ ทำไมต้องอ้างไม่ส่งของ เราก็โมโหไม่น้อยเลยนะเพราะเหมือนรอมาตั้งนานเพื่อมารออ่านว่าจะโอนเงินเเละไม่ได้ของเเบบนี้ เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าอาการที่มันพีคมากๆจะถึงระดับไหน ในสายตาของคนทั่วไปอย่างเราก็คิดว่าโรคซึมเศร้าคงเป็นอาการแบบนั่งร้องไห้บ่อยๆ คิดเล็กคิดน้อย เเบบว่าไม่ถึงขนาดไม่มีความสุขเลยไหม เพราะอย่างพวกเราก็ร้องไห้สักพักก็ยิ้มได้หัวเราะได้เหมือนเดิม
ในกลุ่มไลนตอนนี้ก็มีบุคคลปริศนาเพิ่มมามีบทบาทในกลุ่ม เขาออกตัวว่ารู้จักกับแอดมินเเละเราไม่เเน่ใจว่าเขาเป็นหมอด้วยหรือเปล่า(เเต่แอบกดดูโปรไฟล์เห็นภาพคัพเวอร์น่าจะ..) เขาก็บอกว่าแอดมินป่วยจริง มียากิน ป่วยจนไปเรียนไม่เรียนไม่ได้ เราก็เอออะไรอะ อะไรหนักหนา ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเเค่นี้ทำไมต้องเห็นใจ ทำไมต้องไม่ส่งของให้ เราก็ระเบิดใส่ไปว่าเออไม่อยากรอ รอของไม่ได้เเล้วยังต้องมานั่งรออีกรอว่าจะโอนเงินคืนให้ตอนไหนอีก เราพูดเลยว่าเราเบื่อในความคิดตอนนั้นเหมือนข้ออ้างเปล่าๆ เขาที่เข้ามาเพิ่มใหม่ เขาก็เริ่มเล่าว่าปัญหามันเกิดจากตรงไหน
เขาเล่าว่า เเอดมินเป็นโรคนี้มาได้น่าจะปีกว่า ถ้าเราจำรายละเอียอดไม่ผิดนะ เพราะเราอ่านข้ามๆ ขี้เกียจอ่านข้อเเก้ตัว รำคาญมากในตอนนั้น เเล้วเขาชอบKPOPมาก เเบบว่าเรื่องนี้คงจะเป็นความสุขของเขาอะไรประมาณนี้ เขาเริ่มจากการหิ้วอัลบั้มจากญี่ปุ่นจากสเกลเล็กๆ จนร้านมันเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ คนที่เขาเล่าก็บอกว่าเขาก็คอยห้ามตลอดว่าจะไหวเหรอ เดี๋ยวเครียดเอา เเต่ตัวเเอดมินเขาก็ย้ำว่ายังไหว จนร้านมันถึงขั้นสเกลใหญ่ถึงขั้นนี้ เราก็จำไม่ได้เเล้วว่ามันรายละเอียดเป็นอย่างไร เพราะอย่างที่บอกว่าอ่านเเบบไม่ตั้งใจสุดๆ ทำให้เเอดมินมีอาการกำเริบเเละทำงานไม่ได้ เราก็ไปเร่งแอดมินรองในเพจว่าให้โอนเงินคืนได้เเล้ว จนได้คืนมา เราใช้เวลาอยู่ในกลุ่มนั้นอีกสักพัก เขาไปอ่านบ้าง ก็เห็นว่ามีคนระเบิดอยู่ พี่ที่เขาเล่านั้นก็บอกว่าแอดมินซื้อของมาจริง(ส่งรูปมา)เเละไม่โกงเเน่นอน เราก็เออเห็นมีวอร์เล็กๆในนั้นก็เลยออกมาจนถึงวันนี้
พอผ่านไปสามชั่วโมงกว่าเราก็เริ่มทบทวนตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะมันเร็วมาก ตอนเช้ายังหาว่าเขาโกง ตอนเย็นเขาก็โอนเงินคืนเเล้วไง เเต่ใจเรามันหน่วงมาก ก็เลยไปถามรุ่นพี่ที่รู้จักที่เรียนจิตวิทยา ก็เชิงเเอบหลอกถามว่าถ้าเราไปเหวี่ยงใส่คนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะเป็นไรบ้าง อาการพีคสุดเลยถึงขั้นไหน พี่เราก็บอกให้ไปขอโทษเขาเเละคุยกับเขาเหมือนว่าเขายังมีเราที่เข้าใจเขาอยู่ เราก็ถามอีกว่าเเเล้วเขาขี้เกียจเหรอ ทำไมไม่ทำงาน ไม่ไปเรียนอะ พี่เราก็บอกว่าเขาไม่ได้ขี้เกียจเเต่เป็นเอฟเฟ็คของโรคเพราะพี่เขาก็มีเพื่อนที่เป็นเหมือนกัน อาการคือเเทบไม่อยากตื่นเลยด้วยซ้ำ อยากนอนตลอด เราก็รู้สึกหน่วงขึ้นมาอีกเลยนะตอนนั้น คือเราคิดตลอดว่าเขาเเก้ตัว เเถไปแบบนั้น เราไม่ยอมฟังอะไรเลย ทั้งที่เขาป่วยเราน่าจะเห็นใจ เราก็คิดไปถึงว่าเขาจะทำอะไรอยู่ ขออย่าคิดสั้นเลย ขออย่าให้เครียดเลย เเต่เราทำอะไรไม่ได้
ที่เรามาเล่านี้อยากให้มองกว้างๆใจกว้างๆ ถึงตอนนี้เรายังหยุดคิดไม่ได้เลยว่าเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ภาวนาให้เขาหายไวๆ หลังจากนี้ไปเราเองก็คงจะไม่ใจเเคบแบบนี้ เงินเเค่ 640 บาท เทียบกับความรู้สึกกับที่เเอดได้รับจากการกดดันจากเรา เเละอีกหลายๆอย่าง มันไม่คุ้มเลย ถ้าตอนนี้แอดทำอะไรอยู่ก็ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ เราเข้าใจทุกอย่าง เรียนหมอให้จบอย่างที่ตั้งใจ เเละมารักษาคนอื่นต่อไปนะคะ เราจะเก็บประสบการณ์นี้ไว้เตือนใจเราทุกวันค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
------------------------------------------------------- yuiiyz-------------------------------------------------------------
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in