01 l Discover your senses
ผมลืมตามาเพื่อมองคุณคนเดียว
คนในฝันของผมมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว
ไม่มีบทสนทนาระหว่างเรามีเพียงแต่รอยยิ้ม
ผมไม่ได้ขยับถอย ทำได้แค่เพียงกระพริบตาแล้วริมฝีปากเราก็สัมผัสกัน
มันอุ่นและหอมหวานผมรู้สึกถึงลมหายใจที่ติดขัด
จนที่สุดแล้วดอกไม้แสนสวยได้ผลิบานออก
ก่อนจะร่วงโรยไป
...........
บรรยากาศนอกหน้าต่างบานใหญ่มืดครื้มไปด้วยเมฆฝนเป็นผลมาจากพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 18 ที่ซัดเข้าทางตอนใต้ของประเทศถึงจะห่างไกลจากเมืองหลวงแต่ก็ได้รับผลกระทบ
เสียงฝนสาดเหมือนวงออเคสตร้าวงใหญ่กำลังบรรเลงเหมือนเพลงประกอบจังหวะที่แผ่นหลังเนียนชื้นเหงื่อแนบถูไถไปกับบานกระจกกว้าง เสียงครางรัญจวนเปล่งขับสอดประสานไปกับท่าทีล่วงล้ำ
สองแขนเกาะอยู่กับบ่ากว้างจิกแน่นยามส่วนล่างถูกตอกเข้าด้วยความคับแน่นเข้าประทะจนหลุดหวีดเสียงสะอื้นลั่นดึงใบหน้าที่ก้มลงละเลงลิ้นกับลำคอระหงส์ให้เงยขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บเหรอ” โดยองมองคนยืนพิงกระจกตาเชื่อม สะบัดหน้าปฏิเสธเสียจนเส้นผมสีดำขลับชุ่มเหงื่อปลิวไปตามแรง น่าเอ็นดูจนแทบจะอดใจไม่ไหว
เส้นผมชื้นเหงื่อที่เริ่มจับตัวเป็นก้อนถูกเสยขึ้นให้พ้นสายตา ริมฝีปากอิ่มมอบสัมผัสอุ่นจัดเข้าที่ข้างแก้มแดงปลั่งด้วยเลือดสูบฉีดคล้ายปลอบประโลม ปล่อยให้ฝนบรรเลงดรตรีประกอบโดยปราศจากคนให้จังหวะเพราะเขากลัวเหลือเกินว่าจะทำให้ร่างกายในอ้อมกอดนี้ต้องเจ็บปวด
มือร้อนเลื่อนประคองขาเรียวให้ยกขึ้นมาเกี่ยวกระหวัดอยู่ที่รอบเอวสอบ แขนเรียวตวัดกอดรอบคอแน่นเหมือนกลัวจะหล่นแขนแกร่งโอบประคองเหมือนอุ้มเด็กน้อยอนุบาลต่างกันที่มีบางส่วนของร่างกายเขาโดนอีกฝ่ายกลืนกินอยู่ ในจังหวะก้าวขาเดินทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจกลับลึกล้ำเข้าไปจนได้ยิ่งเสียงครางคล้ายจะขาดใจอยู่ทุกก้าว
“ อ๊ะ!”
กลีบปากแดงเม้มแน่นกลั้นความรู้สึกวาบเสียววาบเมื่อตัวเองค่อยๆ ถูกประคองลงจนแผ่นหลังติดกับพื้นเตียงร่างบางพลิกตัวลงหนุนศีรษะบนหมอนนุ่มจนเห็นแสงบนเพดานสาดใส่จนต้องหลี่ตาและโดยองเป็นเงามืดที่เคลื่อนตัวขึ้นมาบดบังความสว่างน่าแสบตานั้นไว้
“แบบนี้ดีกว่าใช่ไหม” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าก็จริงแต่สีหน้าโดยองกลับดูพอใจซะมากกว่า สายตาของเขาจับจ้องไปทุกสัดส่วน แสงไฟสว่างจ้าบนเพดานทำให้เห็นอะไรไปถึงไหนต่อไหน รอยรักจำนวนมากตัดกับผิวสีขาวจัดของเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายมองมาสบตาอย่างรอคอย
เรียวแขนกลมกลึงยกขึ้นพาดบ่ากว้าง รั้งท้ายทอยคนด้านบนลงมาเพื่อรับสัมผัสจากริมฝีปากอีกครั้งแทนคำตอบว่าดีมาก สะโพกนิ่มขยับเบาๆ กระตุ้นเตือนร้องขอการกระทำใบหน้าหล่อส่งยิ้มแบบที่ไม่อาจรู้ความหมายเมื่อคนใต้ร่างยั่วยวนอย่างน่ารัก
ใช่แล้วเขารู้สึกรัก ทั้งที่พรุ่งนี้คนใต้ร่างจะหายไปอีก โดยองไม่แน่ใจว่าเจ้าของรอยยิ้มสวยนี้เป็นอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นคนหรือปีศาจ
พรุ่ง...นี้ ฉันจะลืมนายอีกไหม” เขาไม่เคยจำชื่อหรือแม้แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายได้ยามที่เค้าตื่นจากฝัน โดยองถามพลางไล่ข้อนิ้วไปตามโครงหน้าราวกับต้องการจดจำเอาไว้ให้นานที่สุด “ไม่หายไปได้รึเปล่า” คนด้านล่างคว้ามือเรียวเอาไว้
“อยากอยู่กับโดยอง” ลิ้นร้อนลากขึ้นลงตามแนวยาวของนิ้วก่อนจะถูกกลีบปากแดงดูดเม้มจนเกิดเป็นเสียงดูลามก เขาหลับตาลงไม่อยากจะเห็นภาพที่ชวนให้สติแตกกระเจิง เขากำลังโดนยั่ว ราคะที่ยังค้างคาไม่ถูกสานต่อด้วยเพราะความรู้สึกขมเกิดขึ้นในใจ
“อยู่สิ..อยู่ตลอดไป”
เสียงฝนเงียบหายเหมือนเช่นคำถามที่โดยองตั้งไม่ได้รับคำตอบ เราทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกตอนไหน หรือเมื่อไหร่ ความรักของเราเป็นสิ่งพยากรไม่ได้ มันอาจเป็นเรื่องที่ฟ้ากำหนด พระเจ้าที่กำหนดเรื่องของเราคงจะเกลียดเขาเหลือเกิน
เพราะตลอดไปสำหรับเราไม่เคยเกิดขึ้นจริง
เขาได้แต่เฝ้าภาวนา
“โดยองงี่ขี้แยชะมัด” เป็นคนตัวเล็กในอ้อมแขนปลายนิ้วเลื่อนขึ้นเกลี่ยแก้มนิ่มมือของคนรัก ขยับวงหน้าเข้าไปคลอเคลียใกล้จูบซับน้ำตา “ถ้ากลัวว่าจะหายไปโดยองก็กอดเอาไว้ให้แน่น”
“แล้วถ้ากลัวว่าจะลืมชื่อกัน....คืนนี้ก็เรียกชื่อฉันทั้งคืนสิ”
“เตนล์”
..........
ผ้าห่มผืนหนาโอบคลุมร่างคู่รักที่นอนซุกซบพากันหลับไหล ฝนที่หยุดไปกลับตกลงมาอีกครั้งเสียงดังจนโดยองคิดว่าเขาลืมเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ แถมกลิ่นชื้นของมันซึมทราบเข้ามาให้ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก แต่หมดแรงเกินกว่าจะลุกขึ้นไปสำรวจความเรียบร้อย
อีกอย่างนีชั้น 27 โจรที่ไหนจะบุกขึ้นมา
ในตอนนี้เขาจึงเพียงแค่กระชับแขนโอบคนในอ้อมกอดแน่นเพื่อคลายหนาว จิตนึกสวดภาวนาอธิฐานขอพรให้พรุ่งนี้เตนล์ยังอยู่กับเขา ให้เตนล์อยู่กับเขาตลอดไป เสียงลมหายใจที่สูดเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ นิ่งสงบแผ่วเบาคลอเสียงของสายฝนที่เทลงมากลายเป็นท่วงทำนองที่ช่วยขับกล่อมให้นอนหลับฝันดี
โดยไม่รับรู้ถึงบางสื่งที่ซ่อนกายอยู่ในความมืด
เขียนเกือบไม่ได้
#เอี่ยวไถ่โดเตนล์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in