เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
original fic (os/sf)
this house is sinking in my tears
  • /









    ฉันเป็นเด็กที่กลัวเสียงดังมาแต่ไหนแต่ไร


    ถึงแม้จะไม่ได้สะดุ้งโหยง แต่ก็มีความกลัวก่อเกิดในใจอยู่บ้าง


    ตอนนี้ฉันอายุสิบหกย่างสิบเจ็ด, ก็ยังไม่หายจากอาการกลัวเสียงดัง ก่อนหน้านี้ฉันเฝ้าขบคิดว่ามันเกิดจากอะไร?


    แต่แล้วคำตอบก็อยู่ตรงหน้าฉัน



    แม่






    เวลาที่แม่โมโห, ก็จะเริ่มใช้เสียงดัง แม้มันเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงใด หากวันนั้นแม่อารมณ์​ไม่ดีแต่แรก ฉันก็กลายเป็ยผ้าใบซีดขาวที่ขึงตึง, รองรับโทสะซึ่งกำลังจะละเลงบนใบหน้า


    ทุกครั้งที่แม่ทำอะไรปึงปังหรือพูดด้วยเสียงดัง ใจฉันวูบโหวงอย่างน่าสมเพช ช่าน่าละอายเหลือเกินที่มีความกลัวมากกว่าความกล้า 




    ตั้งแต่ฉันจำความได้, แม่ไม่เคยดุด่าฉันด้วยเสียงพูดปกติเลย เด็กตัวจ้อยคนนั้นคิดว่าเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องทำตัวให้ชินชา แต่เธอไม่เคยทำมันสำเร็จ


    ฉันพูดตะกุกตะกัก​ยามร้องไห้ พูดคำเดิมๆวนไปวนมา สายตาหลบเลี่ยงอีกฝ่าย จิกนิ้วเข้าหากันจนเป็นรอย, ฉันกลัวที่จะพูความรู้สึก กลัวว่าจะถูกดุด่ามากกว่าเดิม ดังนั้นฉันจึงไม่พูดจนกระทั่งตอนนี้ และเขาก็คิดว่าฉันยอมรับมันได้





    ㅡ หรือสิ่งเหล่านั้นคือความผิดของฉันที่ไม่เอ่ยทักท้วง
    มันเป็นความผิดของฉันหรือที่แอบมาร้องไห้เงียบๆแทน







    ฉันร้องไห้เสียงเบามากกว่าเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน, ญาติๆต่างเอ่ยชมกับความไม่ฟูมฟายตีโพยตีพาย​ของฉัน แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าเพราะเหตุใด,เสมอมา, ฉันไม่เคยร้องไห้เสียงดังสามบ้านแปดบ้าน ก้อนบ้างอย่างมักจะติดในลำคอ มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย กระทั่งเสียงสะอื้นเบาขนาดที่ว่าแม่ที่นอนอยู่ข้างๆยังไม่ได้ยิน




    นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ฉันโตมาคล้ายผู้ใหญ่ในร่างกายของเด็กสิบหก

    ห้ามร้องไห้เสียงดัง

    ห้ามเอ่ยขอถ้าไม่จำเป็น

    ห้ามออกนอกลู่นอกทาง

    ห้ามใช้ชีวิตไร้หัวคิดแบบวัยรุ่นคนอื่น





    แต่ถึงกระนั้น, ยามมีคนบอกว่าบ้านฉันบังคับลูกเกินไป ฉันมักจะพูดว่า 'ไม่จริงเท่าไหร่หรอก แม่พอให้อิสระฉันอยู่บ้าง'






    ทุกปีใหม่และวันเกิด ฉันขอพรให้ตัวเองเข้มแข็ง ไม่ร้องไห้กับคำว่ากล่าวเสียงดังของแม่, เพราะฉันมีน้ำตาอาบแก้มทุกทีที่ได้ยิน บางครั้ง, ฉันตั้งปณิธาน​ว่าจะเกลียดแม่ คิดเพียงว่าถ้าตัวเองเกลียด ตัวเองก็คงไม่ร้องไห้



    แต่ฉันไม่เคยทำมันสำเร็จ
    สักครั้งเดียว



    คุณอาจคิดว่ามันไร้สาระ, ทำไมต้องร้องไห้กับอีแค่การโดนขึ้นเสียง


    ฉันตอบไม่ได้เหมือนกัน รู้แค่ว่ามันเศร้ามากเหลือเกิน
    เศร้าขนาดที่ว่าตายไปให้พ้นๆจะสมใจแม่ใช่หรือไม่



    ทุกจุดในบ้านหลังนี้ ถูกฉันยึดครด้วยน้ำตาหมดแล้ว
    ห้องทำงานของแม่, ห้องน้ำทั้งสามชั้น, ระเบียงตากผ้า, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น, ใต้ฝักบัว, และที่บ่อยสุดคือบนเตียงนอนของฉันกับแม่



    หมอนฉันมีคราบเหลืองเป็นดวงจากน้ำตา แม่ไม่เคยรู้ว่าฉันร้องไห้ ไม่เคยรู้




    คุณอาจคิดว่าเพราะฉันไม่เคยคุยเรื่องนี้กับแม่รึเปล่า ถ้าฉันลองคุยดู, แม่อาจจะปรับปรุงนิสัย

    คุณคิดผิดแล้ว



    วันนั้น, ฉันที่รวบรวมความกล้ามาสิบสองปี, เก็บความเจ็บช้ำนั้นแนบอก, พูดโพล่งออกไปในคืนก่อนสอบโอเน็ต


    "แม่เคยทำอะไรให้เธอเจ็บบ้างไหม" เธอถาม


    "... เคยบ้าง" ฉันตอบ


    "อะไรงั้น" 


    "บางที" 


    "แม่ก็ชอบเสียงดังใส่หนู"


    "เตือนกันดีๆก็ได้"


    "แม่ไปเสียงดังตอนไหน"


    ฉันยกตัวอย่างเหตุการณ์


    "ยังไม่ชินอีกหรอ" แม่เริ่มขมวดคิ้วและเสียงดัง


    "หนูไม่ชิน"


    "ตากับยายก็เลี้ยงแม่มาแบบนี้" หล่อนพูดเสียงเข้ม


    "ไปเป็นลูกคนอื่นเลยไหม สลับแม่กัน"


    "ไปหาหมอไหม"


    "ทำไมเด็กเดี๋ยวนี้อ่อนแอ"



    ทุกประโยคที่แม่เอ่ยออกมาวันนั้น ฉันไม่รู้ว่าตนแสดงสีหน้าออกไปยังไง แต่จำได้เพียงความเปียกชื้นที่กระจายไปทั่วทั้งแก้ม และตื่นมาพร้อมรอยเล็บแดงเถือกที่ท้องแขน


    ที่ฉันระบายทุกสิ่งอย่างซึ่งเก็บอยู่ในใจมาตั้งแต่จำความได้ถูกขยำทิ้งอย่างไม่ใยดี

    รู้อะไรไหมแม่

    ที่หนูพูดไปทั้งหมด

    นึกว่าจะได้ยินคำขอโทษ

    แม่ขอโทษ แม่จะไม่ทำแล้ว เสียใจมากเลยใช่ไหม



    แต่ฉันไม่เคยได้ยินสักครั้ง

    เมื่อฉันหวนนึกกลับมาทุกครั้งที่แม่เสียงดังใส่ ฉันเอาแต่ร้องไห้จนหูอื้อแสบตา



    บางครั้งฉันร้องไห้ราวกับว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีน้ำตาเหลือมากพอให้ร้อง ฉันมักจะจินตานาการว่ามีใครสักคนอยู่ข้างๆ และฉันก็กำลังพูดทุกสิ่งที่คั่งค้างในใจออกมา


    "เก่งแล้ว" 


    "ไม่ต้องร้องไห้แล้ว" 


    "เหนื่อยมากเลยใช่ไหม" 


    "วันนี้นอนก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยร้องใหม่" 



    เสียงแหบแห้งเอ่ยปลอบ

    นั่นคือเสียงฉันเอง

    พร้อมมือข้างซ้ายที่คอยลูบหัวป้อยๆ




    ทั้งน่าสมเพชและน่าเศร้า












    /




    แค่นี้ทำไมต้องร้องไห้


    ทำอะไรเป็นบ้างไหม


    โตเป็นควายแล้ว


    เป็นอะไรมากไหม




    และอื่นๆอีกมากมายที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำตาที่ไม่มีวันหมดของฉัน







    น้ำตาแห่งความโกรธ​เกรี้ยวและโศกเศร้าสามล้านหยด รอยแผลในใจที่ไม่มีวันหายหนึ่งพันรอย เศษดวงใจเล็กละเอียดห้าร้อยชิ้น ประกอบกันเป็นตัวฉันที่มักจะเสียงสั่นยามเล่าถึงการถูกแม่ตวาด










    จงจำไว้, ทุกคนที่มีหยาดน้ำตาเกิดจากพ่อแม่, พวกคุณมีคุณค่าไม่ใช่ตามที่เขากล่าวหา โลกนี้สมควรมีคุณอยู่ แม้บางวันจะร้องไห้,แต่ยังไงเสีย ความอ่อนแอไม่ใช่สิ่งที่ต้องผลักใส, การร้องไห้เป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์เช่นกัน 

    แต่จงระลึกไว้เสมอว่า, คุณไม่ได้โดดเดี่ยว
    คุณมีใครสักคนเคียงข้างเสมอ





    /

    ด้วยรักและขอให้ทุกคนหลุดพ้นจากบ้านที่ไม่ใช่บ้าน

    อุทิศแด่ตัวฉันที่ระบายความโกรธ​และโศกเศร้าลงบนร่างกายและหน้ากระดาษ







Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in