"อย่าไปวางแผนอะไรเยอะเลย เกิดมายี่สิบกว่าปีก็ยังไม่เห็นอะไรเป็นไปตามแผนเลยซักอย่าง"
นี่อาจจะเป็นจะเป็นบทเรียนแรกของชีวิตหลังจากที่เราเรียนจบแล้วใช้ชีวิตวัยทำงานอย่างเต็มตัวและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นอีกนิด
ตลอดเวลาที่ผ่านมาของชีวิตเรา พอมองกลับไปเราก็แอบคิดเหมือนกันนะว่าชีวิตเรามันแฟนตาซีเหมือนกัน สิบปีที่แล้วเราไม่เคยจินตนาการถึงชีวิตที่เรามีอยู่ตอนนี้เลย ไม่มีแม้แต่จะอยู่ในแพลนว่าวันนหนึ่งต้องมาอยู่ในอุตสากรรมหนังและกำลังทำหนังผีอยู่เหมือนที่ทุกวันนี้ทำ แต่ก็นั่นแหล่ะ...
บทเรียนที่สำคัญ...ไม่มีอะไรอะไรเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ตั้งแต่แต่แรก
เพราะตัวเราเองนี่แหล่ะที่ทำให้แผนหรือภาพฝันอะไรก็ตามที่เคยคิดไว้มันเปลี่ยนไป...
ความชอบและความรู้สึกของเรามันเปลี่ยนไปเสมอ เราโตขึ้น รู้จักอะไรมากขึ้น โลกของเรากว้างมากขึ้นมันย้อมทำให้เป้าหมายในอนาคตของตัวเองเปลี่ยนไป สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็นตัวเรานี่แหล่ะที่ไม่โกหกตัวเองว่าเรายังเป็นคนแบบนั้น เราอาจจะต้องยอมรับในรสนิยมของตัวเองที่เปลี่ยนไป ความชอบอะไรที่ไม่เหมือนเดิม หรือแม้แต่นิสัยของเราที่เปลี่ยนไปและมันอาจจะเป็นนิสัยที่เมื่อก่อนเรามองว่ามันไม่ดี ไม่ชอบ และไม่อยากเป็น
แต่ถึงอย่างนั้นทั้งหมดมันก็เป็นตัวเราที่เติบโตขึ้นมาและเราก็ไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าอนาคตเราต้องการอะไรเพราะเราเองในอนาคตก็จะไม่ใช่เราในตอนนี้เหมือนกัน
หลายวันมานี้เราโดนถามบ่อยมากว่าทำงานเป็นยังไง โอเคมั้ย แรกก็ไม่รู้จะตอบยังไง อะไรคือคำว่าโอเคหรือไม่โอเค แต่พอมานั่งคิดดี ๆ แล้ว เราคิดว่ามันใช่นะ ณ ตอนนี้ บางครั้งเวลาทำงานหรือนั่งเฉย ๆ มันจะมีความคิดขึ้นมาในหัวว่า ดีจังเลยที่ก่อนหน้านี้ไม่ตอบรับหรือได้เข้าทำงานที่ไหนก่อนมาเจอที่นี้ ความรู้สึกแบบนี้มันก็น่าจะโอเคแล้วหล่ะมั้งในตอนนี้
เหมือนเราเจองานที่เราทำได้ สนุก แล้วไม่ได้บังคับตัวเองเกินไป ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เราชอบเขียนงาน คิดคอนเท้นนั่นนี้มาก แล้วก็คิดว่าสิ่งนี้จะเป็นงานที่ตัวเองชอบ แต่เอาเข้าจริงเราก็พึ่งมารู้ตัวว่าเราอยู่กับงานพวกนั้นไม่ได้ตลอดเวลา ถ้าจะต้องมานั่งบังคับตัวเองให้เขียนงานในที่ทำงานจริง ๆ เราคงทำได้ แล้วสุดท้ายก็คงเกลียดมันไป ทั้ง ๆ ที่คิดว่างานสายนี้เท่จัง ดูดีทุกอย่างเลย
แต่ก็นั่นแหล่ะ พอเอาเข้าจริงเราก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการหรือเราชอบจริง ๆ ไปลองทำนั่นทำนี่เพื่อหาว่าเราไม่ชอบอะไร เราทนกับอะไรไม่ได้ ยังจะง่ายกว่าหาสิ่งที่เราชอบหรืออยากทำจริง ๆ
ออกนอกประเด็นมาเยอะมากจริง ๆ ตอนนี้คือเกือบเที่ยงคืนที่ต้องตื่นไปคุยงานตอนเก้าโมงในวันหยุดวันแม่ ที่อยู่ ๆ ก็คิดเรื่องนี้ออกเลยอยากบันทึกไว้หน่อยว่าชีวิตตอนนี้คิดอะไรได้บ้าง และเป็นยังไง
ตัวเราในวัย 23 ปีที่เริ่มทำงานประจำมาได้ซักพัก ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าชีวิตต้องการอะไร แต่อย่างน้อยก็รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น...
ยอมรับและโอบกอดทุกด้านของตัวเองได้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านที่ดีหรือไม่ดีขนาดไหนก็ตาม
ไม่โกหกตัวเอง ไม่ดููถูกตัวเอง คิดเสมอว่าตัวเราทำอะไรได้ทำอะไรไม่ได้
พยายามจัดลำดับความสำคัญแล้วก็ลิสนั่นลิสนี่ที่ต้องทำเพื่อความสบายใจแล้วนอนหลับได้โดยไม่กังวลก่อนนอนแค่นั้น ไม่ได้คาดหวังว่าต้องเสร็จอะไร
คาดหวังกับอนาคตให้น้อยลงแล้วเอนจอยกับปัจจุบันให้มากที่สุด
คอนเซนเทรดกับปัจจุบันแล้วก็ปล่อยวางให้ได้เร็วที่สุด อันนี้ดีมาก ขอบคุณตัวเองที่ทำได้
แล้วสุดท้าย Be Humble กับทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าไปยึดติดกับสถานะหรือวัตถุที่คนนั้นคนนี้หยิบยื่นให้
คงประมาณนี้แหล่ะ อายุเท่านี้ ขอบคุณตัวเองจังที่รักตัวเองได้มากขนาดนี้
เพลงกับหนังก็กลัับไปฟังไปดูอะไรที่เคยชอบบ่อยขึ้น ส่วนหนังสืออ่านน้อยมากแบบรู้สึกว่าเราไม่ได้สนุกกับการอ่านหนังสืออีกต่อไปแล้ว
เพื่อนก็ยังคบเหมือนเดิม แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นเพราะหัวข้อที่คุยกันมันก็ดูจริงจังขึ้นตามอายุ แต่เรื่องเดิม ๆ มุกตลกเดิม ๆ ก็ยังตลก อย่างล่าสุดก็เรื่องตลกสระรุจิที่เล่ากี่ทีก็ตลกแล้วก็มีเยอะด้วย5555
อีก 10 ปีข้างหน้าก็คิดไม่ออก จริงๆปีหน้ายังไม่รู้เลยจะทำยังไงกับชีิวิต แต่ถึงตอนนั้นก็ขอให้ตัวเองรักตัวเองเหมือนเดิมและเก่งขึ้นแล้วกัน
08.12.2019, 00.12
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in