บล็อคนี้จะพาออกมาไปเที่ยวกันไกลจากตัวเมืองโตเกียวสักหน่อยนั้นคือร้าน Cafe La Boheme mini Garden Terrace ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมทะเลสาป kawaguchiko เป็นร้านที่เจอโดยบังเอิญระหว่างไปพักที่ Lakeside inn weekend shuffle ที่พักสุดน่ารักที่เคยเป็นที่กล่าวถึงใน pantip ไหน ๆ ก็ไปพักที่นี่แล้วเลยขอเล่าความประทับใจที่นี่สักหน่อยด้วย Lakeside inn weekend shuffle เนื่องจากผมเห็นกระทู้นี่นานแล้ว พยายามจองที่พักหลายครั้งมากแต่ไม่เคยจองได้สักครั้ง พอมีโอกาศจองได้แม้จะแค่คืนเดียวก็ไป ยอมจ่ายค่าบ้าน airbnb โฮสที่รู้จักทิ้งที่โตเกียวไว้ 1 คืนเพื่อไปนอนที่นี่การไปพักที่นี่ก็เดินทางง่ายมาก เมื่อเรามาถึงจากสถานี kawaguchiko ให้นั่งรถบัสเส้นสีแดงมาลงที่ป้าย 17 หรือ 18 ก็ได้เนื่องจากในกระทู้ยังเป็นป้ายแบบเก่า แต่ป้ายใหม่ต้องลงที่ป้าย 17หรือ 18 เท่าน้ันแล้วเดินอีกนิดหน่อยก็จะถึงweekend shuffle จะอยู่ฝั่งตรงข้ามป้ายหาง่ายครับ

เจ้าของที่ Lakeside inn weekend shuffle คุณเทปเป้ เป็นคนญี่ปุ่นที่เคยไปเรียนและทำงานที่แคนาดามาก่อน แต่ไม่ถามสาเหตุว่าทำไมถึงกลับมาญี่ปุ่นนะครับ พอดีผมไม่ได้เป็นคนถามแต่เป็น Guests สองท่านที่เป็นชาวสิงค์โปร์ กับ มาเลเซียเป็นคนถามตอนคุณเทปเป้ขับรถยนต์มาส่งที่สถานีวันกลับ (ปกติทางที่พักไม่มีบริการนี้นะครับ เนื่องจากคุณเทปเป้จะเข้ามาทำธุระที่ในเมืองพอดีเลยอาสาขับมาส่ง)

แต่หากคุณพักกันบริเวณโซนฝั่งสถานีสามารถที่จะเดินทางมาที่ร้าน Cafe La Boheme mini Garden Terrace โดยนั่งรถสายสีแดงมาลงป้ายที่ 18 แล้วเดินอ้อมไปด้านหลัง Konohana art museum ก็จะเห็นป้ายของร้านครับ บริเวณนี้จะมีร้านนั่งทานน่ารัก ๆ ร้านอาหารน่าทานค่อนข้างเยอะสามารถเลือกทานได้หลากหลายครับ แต่หากใครที่มาร้านผมแนะนำว่าให้เข้าร้านทางด้านริมทะเลสาปจะดีกว่าเพราะพนักงานส่วนใหญ่จะยุ่งเลยไม่ค่อยไปเปิดประตูด้านหลังกัน

โดยช่วงที่อากาศดี ๆ ฟ้าโปร่งเราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากไปช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ภูเขาไฟฟูจิยังมีหิมะคลุมสวนยอกอยู่มุมทางร้านจะถ่ายรูปออกสวยมากครับ เรื่องอาหารราคาอาจจะสูงนิดหน่อยแต่เรื่องบรรยากาศราวกับเป็นผู้ดีอังกฤษจิบชา tea party ในสวนยังไงยังนั้น

ตอนผมไปเป็นช่วงบ่ายนิด ๆ หลังจากไปถีบเรือเป็ดเล่นในทะเลสาปมาก่อนเลยแวะมากินกาแฟ แต่เห็นอาหาร set มื้อกลางวัน(ที่กินตอนบ่าย)เลยสั่งอาหารมาเป็นชุดแทน โดยผมเลือกสลัดผัก สปาเกตตี้ ชาสมุนไพร Fruit Parfait ราคาประมาณ 2500 เยน

โดยผักและผลไม้ถูกปลูกจากไร่รอบ ๆ ทะเลสาปทำให้มีความสด กรอบ และหวานตามธรรมชาติ ขนาดคนที่เกลียดการกินผักยังตกหลุมรักสลัดจานนี้เลยที่เดียว

ต่อด้วยสปาเกตตี้ ความเปรี้ยวนิด ๆ ของมะเขือเทศตัดกับรสเค็มนิด ๆ ของแฮมรสชาติดีถือว่าดีทีเดียวครับ ถ้าไม่อายคนในร้านอยากจะยกจานขึ้นมาเลียซอสมะเขือเทศที่เลอะขอบจานเลย

ตอนเลือกระหว่างชากับกาแฟ ใจจริงผมอยากลองชิมกาแฟนะครับ แต่เนื่องจากวางแผนมาเพื่อตื่นให้ทันถ่ายรูปภูเขาไฟภูจิตอนเช้าเลยอยากเข้านอนไวเลยเลือกไม่กินกาแฟ (ช่วงที่ไปญี่ปุ่นสว่างไวมาก ตี 4 ฟ้าสว่างยังกับ 7โมงเช้า แต่เป็นเวลาที่ไทยคือตี2 ครับ ถ้ากินกาแฟผมคิดว่าน่าจะผิดแผนแน่ ๆ ตื่นสายแน่ ๆ) ก็เลยชิมชาสมุนไพรแทน ชาหอมมากครับ จิบสบาย ๆ คู่กับ Fruit Parfait

นอกจากนี้ที่ร้านเองก็มีอาหารอื่น ๆ สามารถสั่งแยกได้ครับ แต่อยากให้ทุกคนที่มาที่นี้ถ้าคิดอะไรไม่ถูกให้ลองสั่ง Fruit Parfait มากิน ฟิน

ส่งท้ายก่อน check out วันรุ่งขึ้นเนื่องจากผมไม่รู้ว่าตัวเองจองที่พักแบบมีอาหารเช้าด้วยเลยขอรีวิวอาหารเช้าของที่ weekend shuffle สักนิดหนึ่ง อาหารเช้าก็เป็นแบบง่าย ๆ ครับ ขนมปัง แฮมไข่ดาว ซุปเห็ดหอม กาแฟสด รสชาติก็ ok ไม่เลวร้ายครับ

ครั้งนี้ก็ลาไปง่าย ๆ แบบนี้แล้วกันเนอะ เออ ก่อนจากฝากรูปวิวที่ weekend shuffle ให้สำหรับคนที่อยากไปพักที่คาวาคุจิโกะได้ลองตัดสินใจดูนะครับ 

ผมพึ่งทราบว่าคุณเทปเป้เขามีหน้าเว็บภาษาไทยด้วย https://www.weekendshuffle.com/th-th/rooms
เข้าไปดูรูปที่สวยกว่าผมถ่ายได้ที่เว็บเลยครับ