ผมเพิ่งถูกงูกัดมา
มันเป็นงูห่าเหวอะไรก็มิทราบได้ รู้แต่แมร่งเป็นงู ถ้าคุณเห็นเวลาที่ผมเขียนบล็อกโพสต์นี้ คุณจะรู้ว่ามันดึกจนเกินค่อนเช้าไปแล้ว แสงไฟทึมๆ ติดๆ ดับๆ ข้างถนนนั่นก็ไม่ได้ช่วยให้มองเห็นได้ดีขึ้น
สรุปว่าผมไม่อาจเห็นตัวมันได้ รู้สึกตัวแน่ๆ ว่าเลือดไหลอยู่ ยามเยอมนอนหลับกันหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์จะปลุกเรียก
สุดท้ายก็ยังหอบสังขารกับแบกถุงจากเซเว่นขึ้นลิฟท์มาได้สิบกว่าชั้น ไขกุญแจเข้าห้อง เปิดไฟ เข้าห้องน้ำ ถลกขากางเกง เปิดฝักบัว ชะโลมน้ำผ่านแผลสดๆ เลือดแดงๆ ยังตกอยู่ซิบๆ จากสองรูที่โดนกัด
อย่างกระท่อนกระแท่น สมองโทรมๆ เห็นภาพห้องเรียนเก่าๆ น่าจะสมัยมัธยมต้น ใช่สิ มีแต่พวกผู้ชายล้วน ไอ้ยุทธก็อยู่ในนั้น ไอ้ต่าย buddy ที่เล่นปิงปองกับผมเป็นประจำก็อยู่ในนั้น ครูปกครองจอมโหด (ที่เสือกชื่อวินัยอีก) ก็อยู่ในภาพนั้น อืม มันจะเป็นวิชาอะไรก็ไม่รู้ ผมให้ความเท่าเทียมกันเสมอเมื่อพูดถึงเรื่องความไม่ตั้งใจเรียน แถมยังนานมาแล้วด้วย
มันจะวิชาอะไรก็ช่างเถิด แต่ที่จำได้จนอายุปูนนี้คือ "แผลสองรูเท่ากับงูมีพิษ"
สมองแล่นไปถึงนิยายกำลังภายในของกิมย้ง พระเอกถูกพิษล้มตัวลง ไม่มีเรี่ยวแรงกระดุกกระเดี้ยว นางเอกชาญฉลาดแต่เสือกโง่และสิ้นหวังในรัก ก้มลงไปดูดพิษให้อย่างไม่คิดชีวิต
เฮ้ย ไอ้น้อต นี่มันกอทอมอปีสองห้าหกศูนย์ แล้วมึงก็ไม่ใช่พระเอกด้วย มึงน่ะเป็นผู้ร้ายที่ไปแพร่พิษให้นางเอกของมึงด้วยซ้ำ
คุณอาจจะคิดว่า ไอ้บ้า นี่มันพอศอสองห้าหกศูนย์นะเว้ย แค่งูกัด โรงพยาบาลไหนมันก็ช่วยได้ สถิติคนตายเพราะงูกัดในกรุงเทพฯ ครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปกี่ปี? ปีที่แล้วชาวบ้านเจองูที่ซ่อนในโถส้วมกัดยังไม่เห็นตายเลย
ครับ ถูกทุกอย่างครับ ตั้งแต่ข่าวหนุ่มเคราะห์ร้ายโดนงูเหลือมกัดกระเจี๊ยวขาด นั่นก็ไม่ตาย ไอ้เรื่องโรงพยาบาลนั่นก็น่าจะจริง ส่วนข่าวงูกัดคนตายในกรุงเทพฯ คุณคงต้องกูเกิ้ลหาเอง ผมคงไม่เหลือเวลามากขนาดนั้น
ส่วนที่คุณว่าผมเป็นไอ้บ้า นั่นก็คงจะจริงเหมือนกัน (ฮา..... เดี๋ยว ขอหาวแป๊บนึงด้วย)
ผมคงมีเชื้อบ้าบางอย่างอยู่ มันอาจจะคอยแผ่รังสีอะไรบางอย่างที่ทำให้ใครไม่ค่อยชอบเข้าใกล้ ก็เหมือนกับหมาที่ต้องพิษสุนัขบ้าในหน้าร้อนกระมัง ทำตาดุๆ ทำท่าจะแว้งกัดทุกคนที่เข้าใกล้ เดินเฉๆ คล้ายๆ คนเมา
ฉะนั้นก็อย่าแปลกใจ ที่ีบล็อกโพสต์นี้อาจจบไปเฉยๆ ถ้าผมรู้สึกว่าเวลามาถึง ผมจะรีบเซฟและกด publish ก่อนที่จะหลับไปตลอดกาล คนบ้า มันคิดมันเขียนไม่เหมือนคนดีๆ อย่างคุณหรอก
ไม่ครับ ผมไม่อยากไปหาหมอ จะไปทำไมกัน? หนึ่งแพง สองถ้ามันหาย ซึ่งก็น่าจะหายจริง ก็ต้องทนอยู่ในโลกนี้ต่อไป โลกที่สดใส โลกที่น่าอยู่ โลกอันน่าพิศวงที่ยังคงมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย โลกที่ในค่ำคืนอันมืดมิดก็ยังมีดวงดาวเปล่งแสงระยิบระยับ และในบางคืนพระจันทร์สวยๆ ดวงนั้นก็จะส่งยิ้มมา อากาศเย็นสบายแม้บางคืนต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศบ้าง
โลกที่ีมีคุณอยู่
โลกที่ีไม่ต้องมีผมก็ไม่เป็นไร
(ขอหาวอีกที)
ไม่หรอก ใครจะมองสิ่งเดียวกันแล้วเห็นเหมือนกัน ตาของคุณไม่ใช่ตาของผมนี่หว่า ยายคุณก็ไม่ใช่ยายของผม อย่ามาเหมารวมแล้วพูดให้กำลังใจสั่วๆ แบบนั้น กลางคืนของผมไม่เหมือนของผม มันเต็มไปด้วยเงาบางอย่าง อาจจะเป็นจินตนาการมืดดำของผมเอง อาจจะเป็นวิญญานชั่วร้าย หรืออาจจะเป็นเงาของอดีตบางอย่าง ครั้งหนึ่งมันอาจเคยสว่างสดใส แต่การเหนี่ยวรั้งมันไว้กับเรานานๆ ก็ทำให้มันค่อยๆ หม่นลง จนถึงทุกวันนี้ที่มันกลายเป็นสีเทาดำทึมๆ
กลางคืนของคุณอาจหมายถึงการนอนหลับ ซุกตัวในผ้าห่มอุ่นบนเตียงหนานุ่ม คนไหนโชคดีก็อาจมีใครนอนข้างๆ ที่คุณเอื้อมไปแบ่งปันความอบอุ่นได้ ไม่ใช่กลางคืนของผม ผมเฝ้าคอยข้อความบางอย่างมานานแสนนาน โทรศัพท์ทุกวันนี้เป็นไปรษณีย์ที่ไม่ยอมทำงาน มันคงไม่เสียหรอกเพราะผมคอยเปิดดูแทบจะทุกสี่ห้านาทีว่ามีข้อความอะไรมาไหม เป็นมาหลายเดือนแล้ว บางทีก็เล่นเกมสั้นๆ ฆ่าเวลา พอจบเกมหนึ่งก็พลิกดูว่ามีใครติดต่อมาไหม สุดท้ายยากที่จะง่วง ถ้าหลับไปไม่นานฝันร้ายมันก็คอยปลุกให้ผมตื่นขึ้นมา เชี่ย เพิ่งนอนไปได้ชั่วโมงสองชั่วโมงก็ตื่นแล้ว แถมยังตื่นมาหิวอีก จนต้องเดินไปหาซื้ออะไรมากินจากเซเว่น เดินไปก็เปิดหาดูข้อความอีก แสงสว่างจ้าส่องตาจนสิ่งแวดล้อมรอบตัวดูพร่ามัว
เลยไปเดินเตะไอ้งูห่าตัวนั้นเข้าไง
หาวอีกแล้ว
ไม่หรอก ผมไม่อยากไปหาหมอ ผมอยากนอน ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากตื่นด้วย ใครจะว่าขี้เกียจก็ช่างเถอะ โลกมันจะหมุนรอบตัวเองพร้อมกับหมุนรอบอาทิตย์ก็ตามแต่มันจะสะดวกเถอะ ผมขอลงตรงนี้ละ
ขอบคุณงูตัวนั้น คืนนี้ผมคงได้หลับซะที นี่ก็ง่วงมากแล้ว
คิดว่าจะเขียนไม่จบ แต่
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in