ด้วยความที่เป็นคนชอบดูหนังมากกกก เลยมีความแบบไหนๆก็มาอยู่เกาหลีตั้งปีนึงต้องได้เข้าโรงหนังบ้างละ บวกกับก่อนมาอยากดู Midsommar ของ Ari Aster มากเพราะติดใจ Hereditary ติดใจในความแปลกใหม่ในการทำหนังสยองขวัญของเขา เรื่องนี้พลาดตั้งแต่ที่ไทยเพราะบินก่อนวันฉาย1วัน ส่วนที่เกาหลีบินมาถึงไม่มีรอบฉายแล้ว แต่! โชคดีมากจ้า เมื่อศุกร์ที่ผ่านมาแบบ director's cut เข้าโรงที่นี่ คือดีใจมากกกเลยจัดการหาโรงหนังเช็ควันเช็ครอบจนวันนี้ในที่สุดก็ได้ดู ถ้าถามว่าเอ๊ะ ละรู้ได้ไงว่าหนังเข้าคือเราไปนู่นนี่ละเห็นผ่านตาบ่อยๆว่าที่นี่มีโรงหนังสองเจ้า(เท่าที่เห็นนะ ย้ำๆ)คือ CGV และ Mega Box เลยลองเสิร์ชในกูเกิ้ลตามด้วยคำว่า daejeon ซึ่งก็คือเมืองที่นี่อยู่ นี่ดูไปดูมาก็เจอเว็บไซต์ของ CGV (http://www.cgv.co.kr/reserve/show-times/eng/) มีข้อมูลภาษาอังกฤษพร้อมและมีหนังหลากหลายพอสมควร เช็คไปเช็คมาเจอ Midsommar พอดีเลยเอาละคราวนี้จะไม่พลาดอีกแล้ว จะต้องได้ดู ก็เลือกว่าไปจันทร์ละกันหลังมิดเทอมแก้เครียด รอบบ่ายสามกว่าๆเพราะอีกรอบดึกไป

 พอถึงวันนี้สอบอะไรเรียบร้อยก็เดินจากมอไปสถานีรถไฟใต้ดินนั่งไปประมาณสามสถานีก็เดินไปห้าง Say two ซึ่งมีส่วนของโรงหนังในชั้น 6และ7 พอถึงชั้นโรงหนังก็เดินงงๆหาที่ซื้อตั๋วอยู่แปปนึงจนเจอเคาเตอร์ขายตั๋วเราผู้ซึ่งภาษาเกาหลีอ่อนแอก็โชว์รูปที่แคปจากในเว็บให้เค้าดูเลยว่าจะดูเรื่องนี้รอบนี้นะ ราคาตั๋วหนังคือ 10,000 วอน ประมาณ เกือบๆสามร้อยบาทไทย(ลืมบอกหนังเป็นเสียงอังกฤษซับเกาหลีนะ) 

ซื้อเสร็จเรียบร้อยก็เดินเตร็ดเตร่ดูนู่นนี่จนถึงเวลาก็เข้าโรงหนัง ตัวโรงหนังเล็กมากแต่ที่นั่งสบายส่วนตัวคิดว่าอาจจะเพราะเป็นความ arthouse ด้วยละคนดูก็ไม่เยอะอะไรมากมายอย่างเช่นรอบนี้ก็มีประมาณ 6 คนถ้วนเลยโรงไม่ได้อลังการอะไร แต่โดยรวมประทับใจทุกอย่าง โดยเฉพาะพนักงาน น้องผู้หญิงพนักงานขายตั๋วคือใจดีมากพยายามบอกทุกอย่างเพราะกลัวเราจะงงว่าโรงที่จะดูอยู่ตรงไหนอะไรยังไง ส่วนคุณลุงคนตรวจตั๋วคือสุดยอดพูดภาษาอังกฤษเก่งมาก แบบลุงคะะะะ เท่ไปเลยค่ะลุง! ส่วนตัวหนังก็ประทับใจฉาก เครื่องแต่งกาย มู้ดโทน ถึงแม้เรื่องจะเดาได้แต่ก็มีtwistให้พอได้ตกใจ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่รู้สึกอุ่นใจแปลกๆแบบลืมไปเลยว่านั่งดูหนังในโรงหนังเกาหลีความรู้สึกเหมือนนั่งดูโรงที่ไทย หวังว่าคงได้ไปดูหนังอีกบ่อยๆ ได้สถานที่โปรดในใจอีกที่ละ 

?

?????