Intro:
ร้านชำสำหรับคนอยากตาย ถือได้ว่าเป็นหนังสือแรร์ไอเท็มระดับตำนาน ที่เหล่านักอ่านตัวยงต่างก็อยากจะมีในครอบครองหรือหามาอ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต เราเองก็เป็นคนหนึ่งค่ะ ที่ได้ยินตำนานของหนังสือเล่มนี้มายาวนาน แต่นอกจากชื่อเสียงด้านเนื้อหาแล้ว ชื่อเสียงด้านความหายากก็ไม่แพ้กัน เพราะอย่าว่าแต่หาซื้อ (ถึงจะนานๆจะเจอคนปล่อยขาย แต่บางเจ้าราคาอัพไปถึงหลักพันกันเลยก็มี!) แค่หาอ่านยังไม่ยักเจอ ส่วนตัวเราเจอเล่มนี้ครั้งแรกที่หอสมุดเมืองกรุงเทพค่ะ แต่ด้วยความเป็นนักสะสมหนังสือ จึงหักห้ามใจตัวเอง และรอสำนักพิมพ์รีปรินท์ และแล้ววันนี้ก็มาถึง!! หลังจากที่เพื่อนแชร์โพสของสำนักพิมพ์ว่าได้รีปรินท์แล้ว และกำลังเปิดรับออร์เดอร์ เราก็ถึงกับรีบพุ่งตัวไป f หนังสือด้วยความเร็วแสง
ถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะตีพิมพ์มามากกว่า 10 ปีแล้ว หลายๆคนก็อาจจะเคยอ่านหรือเคยดูเวอร์ชันแอนิเมชันกันมาแล้ว แต่ไหนๆเนื่องในโอกาสหนังสือกลับมารีปรินท์ หลังจากห่างหายไปจากชั้นหนังสือนมนานหลายปี เราเลยอยากจะนำเรื่องราวมาปัดฝุ่นและหยิบออกจากชั้นหนังสือมาพูดคุยใหม่อีกครั้ง ผู้อ่านหน้าใหม่ที่ไม่เคยอ่านมาก่อนอาจจะได้รู้เนื้อหาคร่าวๆ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจซื้อ ส่วนผู้อ่านหน้าเก่าก็อาจจะรีบกลับไปค้นที่ชั้นหนังสือและเริ่มต้นเปิดอ่านใหม่อีกรอบ
_____________________________________________________________________________________________________
เนื้อเรื่อง: (ไม่สปอยล์เนื้อหา)
ตระกูลตูวาช เปิดธุรกิจร้านชำสำหรับคนอยากตายมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ร้านค้าเล็กๆนี้ตั้งอยู่ในเมืองเมืองหนึ่ง ที่ศาสนาและความเชื่อได้เลือนหายไป การฆ่าตัวตายไม่เป็นเรื่องผิดบาปต่อศีลธรรมแต่อย่างใด ภายในร้านประกอบไปด้วยอุปกรณ์สำหรับการฆ่าตัวตายให้เลือกละลานตา และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ อุปกรณ์ ระดับความทรมาน วิธีการ หรือราคา (แหม คนจนเองเวลานึกอยากตายขึ้นมา ถ้าในร้านมีแต่ของแพงๆก็ลำบากแย่สิ!) เหล่าผู้คนที่จิตใจหดหู่มืดมนและมองไม่เห็นแสงสว่างอีกแล้วในชีวิตจึงได้แวะเวียนมาที่ร้านชำนี้กันอย่างไม่ขาดสาย
ร้านชำนี้ดำเนินกิจการภายใต้การบริหารจัดการของตระกูลตูวาช อันประกอบด้วย มิชิมา คุณพ่อเจ้าของร้าน ลูแครซ ภรรยา วินเซนต์ พี่ชายคนโต มาริลีน พี่สาวคนกลาง และ อลัน น้องชายคนสุดท้อง นิสัยประตัวของทายาทประจำตระกูลตูวาชคือ จะต้องมองโลกในแง่ร้าย และรักเรื่องราวโศกนาฏกรรมเป็นชีวิตจิตใจ ชื่อของเหล่าลูกๆที่พ่อแม่ตั้งให้ก็ล้วนแต่เป็นชื่อของคนดังที่จบชีวิตลงด้วยการฆ่าตัวตายทั้งสิ้น (ถือเป็นเกียรติแก่ตระกูลอย่างยิ่ง ประหนึ่งชื่อของนักบุญหรือของวีรบุรุษวีรสตรีผู้กอบกู้ชาติอย่างไรอย่างนั้น) แต่เรื่องราวก็ได้เปลี่ยนไป เมื่อเด็กชาย อลัน ได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก
เหตุใดทารกน้อยอลัน ถึงได้แปลกแยกจากพี่น้องคนอื่นๆเขานะ ดูสิ เจ้าเด็กนั่นนอนหัวเราะร่าเริงอยู่ในรถเข็นล่ะ นี่มันผิด! ผิดทั้งหมด! อย่างนี้ถ้าลูกค้าเข้าร้านมาเห็นแล้วเกิดไม่มีใจคิดจะฆ่าตัวตายขึ้นมาจะทำยังไง? อีกอย่าง คนในตระกูลตูวาชไม่ยิ้มกันหรอกนะ! เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
อลัน เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กชายสดใสร่าเริง และมองโลกในแง่ดีท่ามกลางเมืองที่สุดแสนจะหม่นหมองและครอบครัวที่ล้วนแต่เบื่อหน่ายกับชีวิตครอบครัวนี้ (แต่ถึงแม้พวกเขาจะอยากตายขนาดไหนก็ตายไม่ได้อยู่ดี ไม่อย่างนั้นใครจะสืบทอดกิจการกันล่ะ) คนในครอบครัวล้วนแต่เอือมระอากับพฤติกรรมของอลันเต็มทีที่สอนอย่างไรก็ไม่รู้จักจำ โลกนี้น่ะมันโหดร้ายมากนะ ไม่มีใครเขามีความสุขหรอก พี่ของลูกสองคนเขาก็ออกจะหม่นหมองสมกับเป็นคนตระกูลตูวาช อย่างพี่วินเซ็นต์ก็ปวดหัวอยู่ตลอดเวลาเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง ทดลองอุปกรณ์ฆ่าตัวตายชิ้นใหม่ๆตลอด ช่วยเหลือธุรกิจเราได้เยอะเลย ส่วนพี่มารีลินก็หน้าตาน่าเกลียดขี้ริ้วขี้เหร่จะตายไป ทำไมลูกวาดรูปพี่สาวของตัวเองออกมาสวยขนาดนั้นล่ะ ลูกทำให้พี่สาวลูกรู้สึกแย่นะ แล้วก็นะ อลัน หยุดฮัมเพลงได้แล้ว ถ้าว่างมากก็หัดไปเปิดข่าวดูเสียบ้าง ว่ามีใครตายเพิ่มบ้างไหม หรือไม่ก็ออกไปเดินข้างนอกที่มีแต่ควันพิษกับฝุ่นละอองดูเสียบ้าง อลัน! แม่บอกแล้วไงว่...
เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นเป็นปกติทุกวันจนเหมือนเป็นพิธีกรรมที่ต้องประกอบทุกวันเช้า กลางวัน เย็น แต่อลัน ก็ยังคงเป็นเด็กชายที่มองเห็นแต่ความสวยงามของชีวิต และมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเสมอมา แต่แล้ว เรื่องราวก็ได้เปลี่ยนไป หลังจากที่มิชิมา ตัดสินใจส่งอลัน เจ้าลูกไม่รักดีคนนี้ไปดัดนิสัยกับหน่วยคอมมานโดฆ่าตัวตายที่โมนาโก เพื่อหวังว่ากลับมาแล้วจะซึมซับความเลวร้ายของชีวิตมาบ้าง แต่นั่นกลับทำให้ร้านที่ไม่มีอลันแห่งนี้ ดูแปลกไปจากทุกที น่าแปลก ที่ทุกคนเอาแต่นึกถึงเสียงหัวเราะ และความสดใสที่อลันเคยมอบให้ตน และนำไปสู่มุมมองชีวิตแบบใหม่ ที่คนในตระกูลนี้อาจจะไม่เคยนึกฝันมาก่อน...
_____________________________________________________________________________________________________
Talk:
ถึงแม้หนังสือเล่มนี้จะดูเหมือนเป็นเรื่องของความตาย และการฆ่าตัวตาย แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปว่า เนื้อหาจะซีเรียส กลับกัน หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านง่ายเล่มหนึ่ง เนื้อหาไม่หนักเท่าที่คิด จำนวนหน้าก็ไม่เยอะ ใช้เวลาอ่านไม่นาน อีกทั้งยังแฝงแง่คิด และได้ทิ้งคำถามไว้ให้ผู้อ่านมากมายหลังอ่านจบ หนังสือดำเนินเรื่องราวผ่านชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นภายในร้าน และเรื่องราวของลูกค้าแต่ละคนที่แวะเวียนกันเข้ามาใช้บริการ หลากหลายปัญหาชีวิต หลากหลายความต้องการแตกต่างกันไป ส่วนตัวที่เราชอบมากที่สุดของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นฉากจบ เพราะหักมุมกันแบบหน้าทิ่มหน้าตำกันเพียงย่อหน้าสุดท้ายเท่านั้น (ตอนที่เราอ่านจบ เราร้องเ-ี้ย! ออกมาดังมาก555) แสดงให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือและชั้นเชิงของผู้แต่งได้ดีมาก แต่คงต้องขอสปอยล์กันเพียงเท่านี้ หากใครอยากรู้ว่าตอนจบเป็นยังไง ก็คงต้องไปตามอ่านในหนังสือกันเอง
_____________________________________________________________________________________________________
ps:
หากใครสนใจซื้อก็สามารถ inbox ไปที่เพจของบรรณาธิการสำนักพิมพ์ที่ใช้ชื่อว่า 'ปราย พันแสง ใน facebook ได้เลยค่ะเพราะฉบับตีพิมพ์ใหม่นี้จะขายเฉพาะในออนไลน์เท่านั้น ไม่มีจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไปน้าา
_____________________________________________________________________________________________________
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in