" ความ Perfect ของคนอื่น ทำให้เรารู้สึกไม่สมบูรณ์แบบ "
ตอน 10 ขวบ ฉันเข้าเรียนชั้นประถมในโรงเรียนหนึ่ง แถวย่านสายไหม กรุงเทพเมืองศิวิไล ผู้คนเดินกันขวักไขว่แทบเอาไหล่มาชนกัน ฉันแบกกระเป๋าเป้สีฟ้าเป็นเต่าหลังตุงต้วมเตี้ยมเข้าตึกคูหาหลังที่ 4 ของหมู่บ้านอรุณนิเวศน์ บ้านป้ากับลุงที่เรียกว่า ตึก 4 ชั้น กั้นกรงเล็กๆเหมือนตาข่ายกับร้านขายของชำข้างๆ ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาเป็นโรงงานเย็บผ้า
เสีียงจักทอทุกๆตี 2 ทำให้ฉันสะดุ้งกึ่งหลับกึ่งตื่นจนถึง ตี 5:40
เวลานั้นต้องลุกไปอาบน้ำเพื่อกินซีเรียลกับนม ซึ่งฉันเรียกมันว่า "อาหารหมา"
10ปี ผ่านมาแล้ว ฉันหันหลังกลับไปมอง ร่างของเด็กหญิงบ้านนอกในเมืองศรีสะเกษ
กลับกลายเป็นเอเลี่ยนที่ถูกตกแต่งด้วยกรรไกรจนได้ทรงผมจินตหราให้เหมือนกับลูกคุณหนูในชั้นเรียน สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมตราจระเข้อ้าปาก และกวดวิชากับอาจารย์ดีกรี ป.โท จุฬา
หลังเลิกเรียนจนถึง 20.00 ทุกวัน
" กูมาทำเหี้ยอะไรที่นี่เนี้ย?" คำถามที่ยังปักใจ แทนที่จะได้โดดยางและเกือกขี้โคลนตอนฝนตกหน้าบ้านย่าที่ศรีสะเกษ กลับตลปัตรไปหมด ย่ากับพ่อบอกแค่ว่า อนาคตที่กรุงเทพสดใสกว่าศรีสะเกษ
ใช่ สดใสของจริง! ฉันกวดวิชาจนสอบได้ที่ 2 ของห้อง เกรดต่ำเตี้ยเลี่ยดินกว่า "ชวนา"
หัวหน้าห้องสุดแสนเพอร์เฟ็คแค่ 0.01 หน่วยกิต ฉันอิจฉาชวนาเสมอ เพราะ ไม่เคยรู้สึกเย็นชากับเลข 4.00 บนสมุดปพ. ฉันอยากหุ่นดีเหมือนกับนักร้องวง Seven Days เลยคิดว่าถ้าไปห้างฟิวเจอร์ปาร์คบ่อยๆ หรือยืนทำหน้าเป็นนางเอกแถวป้ายรถเมล์ คงมีพี่เอ ศุภชัยมาเรียกเข้าสังกัด
ฉันกลายเป็นเอเลี่ยนสุดแสนเพอร์เฟ็กในสายตาป้า ผู้ปั่นแต่งและเจือปนความทันสมัยให้ จนภาษาอีสานเริ่มจางหายไปจากจิตใต้สำนึก หลงเหลือเพียงลุคเด็กเนิร์ด และหมอบกราบใต้อำนาจปิตาธิปไตย
ไม่มีใครรู้หรอกว่า เปลือกข้างนอกแสนดูดีในแบบที่สังคมยอมรับ มันเกิดจากสงครามอันเต็มไปด้วยบาดแผลที่หล่อเลี้ยงความริษยาอยู่ภายใน ยิ่งมองคนที่อยู่สูงกว่าเราเท่าไหร่ ก็ยิ่งมองเห็นความบกพร่องของตัวเองชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
ฉันจึงเริ่มเป็นคนสุดโต่ง ถ้าจะชนะก็ชนะให้สุด ถ้าแพ้ก็แพ้ให้สุดไปเลย
พออายุ 16 เริ่มมองเห็นข้อดีของตัวเอง และรู้สึกว่าข้อเสียก็ไม่ได้หายไปไหน
พุงย้วยๆของฉันก็พอกด้วยไขมันหนาๆเหมือนเดิม สูง 155 เท่าเดิม
สิวเคอะบางจุดบนใบหน้า มีรอยแตกที่ข้างเอว เวลาไปโรงเรียน
สอบได้คะแนนเต็มแค่เฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ ส่วนสังคมศึกษาก็สอบตกอยู่นั่นแหละ
ภาพเด็กเนิร์ดอะไรนั่นก็หายไปหมด เหลือแต่ภาพนักเรียนเฉิ่มๆกินไก่ป๊อบหลังรั้วโรงเรียนก็เท่านั้น
เพราะงี้ไง กาลเวลาเปลี่ยนไป คนที่เจอก็เปลี่ยนไป ความสมบูรณ์แบบที่เราต้องการก็จะเปลี่ยนไปด้วย
ไม่มีอะไรมากันรันตีว่า ความสมบูรณ์แบบที่เรามีตอนนี้ มันจะอยู่กับเราไปจนแก่
ให้ช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายชีวิต บอกกับเราเถอะว่า
ณ เวลานั้นๆเราต้องการ Perfect กี่ % ในแบบที่หัวใจเราต้องการก็พอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in