เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Legend of The Blue Sea ReCap by Catherine Moiraeเคท ฟู้ดเลิฟเวอร์
Legend of The Blue Sea Episode 15
  • ตำนานแห่งท้องทะเลสีคราม ตอนที่ ๑๕
    (บทความนี้เขียนเพื่อรีวิวละครในบางตอนเท่านั้น ไม่ได้มีรายได้จากการเขียนใด ๆ ทั้งสิ้น)



    คุณได้ยินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ คุณรู้มากน้อยแค่ไหน
    ฉันเป็นใคร ฉันมาจากไหน คุณรู้ทุกอย่างเลยเหรอ
    .
    ฉันจำได้ทุกอย่าง คนที่กางร่มให้เธอในวันที่ฝนตก 
    คนที่กุมมือเธอในวันที่เธอโดดเดี่ยว
    ไอ้บ้าที่ทำรามยอนให้เธอกิน
    ทุกคน...คือฉันเอง

    "คือคนที่เธอช่วยชีวิตตอนที่จมน้ำ
    และนางเงือกได้ลบความทรงจำของฉัน
    ฉันจำได้หมดทุกอย่าง"


               ฮอจุนแจยังคงรอคำตอบจากซิมชองว่าที่เธอพูดในใจนั้นมันจริงหรือไม่ ชองบอกกับเขาว่า ในเมื่อเขาบอกว่าเขาได้ยินความคิดของเธอทั้งหมดนี่ จะถามทำไมอีก ทั้งหมดมันเป็นความจริง ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ เธอขึ้นจากน้ำและเดินทางมาถึงที่นี่ ดังนั้นแล้ว หัวใจของเธอมันยังเต้นอยู่... มันเต้นเพื่อเขาคนเดียวเท่านั้น ชีวิตทั้งชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับเขา 



    "ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับคุณที่คุณต้องจากฉันไป

    ให้มองแต่สิ่งที่สวยงาม และอยู่อย่างมีความสุข

    อย่าพูดแบบนั้นเลย ฉันสัญญาไม่ได้หรอกนะ

    เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจากฉันไป 
    ฉันก็ตายตามไปเหมือนกัน"

             ฮอจุนแจนึกย้อนถึงคำพูดของหมอคยองยอนที่ว่า ไม่ใช่เพราะความรักของพวกเขาหรอกหรือ ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า นำมาซึ่งการเข็ญฆ่ากันและกัน และตอนนี้อาจเป็นเขาเองที่ฆ่าเธอ

    ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่มาแดยอง 
    ฉัน...อาจเป็นคนฆ่าเธอเองก็ได้

             ชองตกใจที่จุนแจคิดว่าเขาอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอตายได้ เขาจะเป็นคนฆ่าเธอเองกับมือ จากคนที่ปกป้อง อาจกลายเป็นฆาตกรตัวจริงขึ้นมาก็ได้ หญิงสาวเอื้อมมือไปหาเขา ทว่าเขากลับถอยห่าง และเธอคิดว่าเขากลัวเธอ


               ชองขึ้นมานอนร้องไห้ห้องชั้นบนตามลำพัง ภาพในอดีตไหลย้อนกลับเข้ามาหัว เธอกำลังคิดว่าเขาทราบเรื่องราวทั้งหมดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขารู้ความลับทั้งหมดของเธอได้อย่างไร ในเมื่อเธอลบความจำของเขาไปแล้ว
                
                ตอนที่เขาถามว่าความลับของเธอคืออะไรกันแน่ ตอนนั้นเขาช็อกมากหลังจากที่เธอพูดกับเขาในใจว่าเธอคือนางเงือก อีกทั้งเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เขาระแวดระวังภัยให้กับเธอ กลัวว่าคนอื่นจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้กลัวเธอ แบบนั้น... ใช่หรือเปล่า


               นัมดูฮยองเดินออกมาถามฮอจุนแจว่าครั้งนี้ทะเลาะกันแรงมากเลยหรือ เหตุใดชองถึงร้องไห้หนักมากถึงเพียงนี้ เธอไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย แต่เธอร้องเหมือนเจ็บปวด น้ำตาถูกเค้นออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ 
               
             ฮอจุนแจไม่คิดว่าเธอจะร้องไห้หนักมากถึงขนาดนี้ นัมดูแนะนำจุนแจว่า "ถ้านายไม่อยากรับผิดชอบเธอไปถึงวินาทีสุดท้าย ก็ปล่อยเธอไปเสียเถอะ" จุนแจเอ่ยว่าทำไมเขาจะต้องรับผิดชอบด้วยล่ะ ทำไมทุกคนถึงต้องบอกว่าเขาควรรับผิดชอบเธอ ในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรให้เธอสักหน่อย 

            ฮอจุนแจนึกถึงคำแนะนำของศาสตราจารย์ชินคยองยอนว่า เขาควรปล่อยเธอกลับไป อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้ เขาจึงตัดสินใจพูดกับนัมดูว่า 

    แม้ว่าตอนแรกอาจเป็นเพราะความโลภของชองที่นำพาให้เธอตามเขามาถึงที่นี่ แต่ตอนนี้... มันเป็นเพราะความละโมภโลบหลงในจิตใจของเขาเอง ที่ไม่ยอมปล่อยเธอกลับไป 

    อาจดูเหมือนว่าเขาเห็นแก่ตัวที่ไม่ยอมรับฟังเหตุผล
    หรือแม้แต่คำแนะนำของใครทั้งสิ้น ว่าควรส่งเธอกลับไป
    นั่นเป็นเพราะว่าความโลภในรักของเขาต่างหากล่ะ 

    เขารักเธอมากเกินกว่าจะยอมปล่อยมือเธอไป


             นัมดูบอกว่าเขาก็เหมือนจะมีอะไรติดค้างคากับชอง เพียงแต่ว่าเขาจดจำไม่ได้เท่านั้น เหมือนกับว่ามันติดอยู่ในใจ แต่พยายามนึกอย่างไงก็นึกไม่ออก จุนแจกลัวว่านัมดูจะนึกคิดมาได้ จึงชิงตบศีรษะให้หยุดคิดเสียก่อน และบอกว่าหากนึกไม่ออกก็ไม่ต้องพยายามให้เสียเวลา
     

               ชองเปิดประตูห้องชั้นบนพอดีกับที่จุนแจกำลังมองขึ้นไปหาเธอเช่นกัน หญิงสาวบอกกับเขาว่าเธอมีเรื่องที่จะเคลียร์กับเขา และได้เดินลงมาคุยด้วยข้างล่าง ชองเล่าเรื่องตอนที่นัมดูกลับบ้านมาก่อนเวลา และเห็นเธอกำลังว่ายน้ำอยู่ในสระ 

              เมื่อโจนัมดูเห็นร่างเงือกของเธอ เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขากลายเป็นคนน่ากลัว ความโลภในตัวของนัมดูเข้าครอบงำ เขาบอกว่าเขาจะพาเธอไปโชว์ตัวเพื่อแลกกับเงินมากมายมหาศาล เขาจะเอาตัวเธอไปแลกกับเงินตรา ไม่ต่างกับการขายเธอเลย

             
            ชองเอ่ยถามเขาว่า แล้วเขาล่ะกลัวหรือว่าเกลียดเธอหรือไม่ ฮอจุนแจเอ่ยถามกลับไปว่า ตอนนี้มันสำคัญมากสำหรับเธอเลยหรือไง ว่าเขาจะเกลียดหรือว่ากลัวเธอ ในเมื่อเธอน่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่เขาคงลืมไปว่าบางครั้งเธอก็เข้าใจยาก และไม่ได้ยินเสียงในหัวใจของเขา
           
            ซิมชองตอบว่าคำตอบของเขาสำคัญกับเธอมาก เธอกลั้นหายใจรอฟังคำตอบ และจุนแจบอกว่าเขาไม่ได้กลัวหรือว่าไม่ชอบเธอ แม้ว่าแรกเริ่มมันจะดูแปลก ๆ หน่อยที่ว่ามีนางเงือกอยู่บนโลกนี้จริง ๆ ทว่า เธอก็เป็นคนแปลกแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วนี่
              
             เธอบอกว่าตอนนี้เธอรู้สึกสบายใจมากขึ้นและมีความสุขที่ได้ฟังคำตอบนี้ เธอดีใจที่ถูกจับได้แล้วเขาเข้าใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอรู้สึกพะวงว่าเมื่อไหร่จะถูกจับได้ แล้วเขาจะเกลียดและทิ้งเธอไปไหม แต่ตอนนี้เหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก ความกังวลทั้งหมดเลือนหายไปจนหมดสิ้น
        
             ฝันร้ายที่สุดของฉันคือคุณเกลียดฉัน แล้วฝันร้ายของคุณล่ะ คืออะไรกันแน่
    .
    ฝันร้ายของฉันก็คือทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในฝัน...
    มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า


             ฮอจุนแจพาซิมชองมายังพิพิธภัณฑ์ของโบราณแห่งหยางยาง เพื่อมาตอบคำถามที่ว่า อะไรกันที่เขากลัวว่ามันจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชองเห็นภาพวาดของคิมทัมรยองก็รู้สึกตกใจ จุนแจบอกว่าเขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาบอกว่าเขาดูดีกว่าทัมรยอง ชองเอ่ยถามว่าคนในรูปเป็นใครกันหรือ 


    ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ตกหลุมรักนางเงือก
    นางเงือกช่วยชีวิตผู้ชายคนนี้เมื่อครั้งที่เขายังเป็นเด็ก 
    ทั้งคู่เติบโตขึ้นมาด้วยกัน และตกหลุมรักซึ่งกันและกัน
    .
    แต่เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น 
    ในวันแรกของการแต่งงาน เขาหนีออกจากห้องหอ มุ่งหน้าไปยังทะเล


    เขาเสี่ยงชีวิตของตนเองและลงทะเลไปเพื่อจะได้พบกับนางเงือกอีกครั้ง 
    เขารู้ว่านางเงือกจะต้องมาช่วย และนางก็มาจริง ๆ 
    นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาทั้งคู่ได้เห็นหน้ากัน 
    นางเงือกได้ลบความจำของชายหนุ่มเกี่ยวตัวตนของนางทั้งหมดไป
    .
    ทั้งสองมาเจอกันอีกครั้งตอนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว 
    ความสัมพันธ์ที่แตกหักร้างลากันไป ได้กลับมาใหม่และดีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

             เมื่อชองเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ เกิดอะไรขึ้นกับเรื่องราวของพวกเขาทั้งสองคน ภาพเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในอดีตฉายย้อนกลับมาอีกครั้ง น้ำตาของเขาเอ่อคลอเบ้า เขายิ้มให้กับคนที่ยังรอคำตอบ และในที่สุดเขาก็เล่าให้เธอฟัง


    พวกเขาทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
     มีลูกกันมากมาย เลี้ยงดูลูก ๆ ให้เติบใหญ่เป็นอย่างดี
    แก่เฒ่าไปด้วยกัน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปตราบนานเท่านาน
    .
    ชองถามว่าเรื่องราวเป็นแบบนี้จริง ๆ หรือ 
    หากเป็นแบบนี้แล้วก็น่าจะเป็นฝันดีไม่ใช่หรือ 
    "แต่ทำไมจู่ ๆ น้ำตาของฉันถึงไหลออกมานะ "


    ฉันไม่คิดว่าจะมีแค่ชองคนเดียวที่น้ำตาไหลหรอกนะ 
    นัยน์ตาของจุนแจก็ไม่ต่างกัน เพียงแค่หยดนั้นมันไหลลงอยู่ข้างในหัวใจของเขา
     
               ฮอจุนแจพาชองไปดูแจกันที่คิมทัมรยองได้วาดรูปของพวกเขาลงไป เขาบอกกับชองว่าทัมรยองก็เห็นพวกเขาจากในฝันเช่นเดียวกัน และได้วาดรูปนี้ขึ้นมา ชองจึงถามจุนแจว่า หากเป็นเช่นนั้นจะเรียกว่าฝันร้ายได้อย่างไร เขาบอกว่าเขากลัว ในฝันมีอะไรที่เขากลัวหรือ 

             จุนแจพยายามหาเหตุผลมาปิดบังความจริง เขานิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ และตัดสินใจบอกกับเธอว่า 'ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ฉัน' 
    ระหว่างฮอจุนแจและซิมชอง แตกต่างกับ คิมทัมรยองและเซฮวา
    ต่างกันตรงที่ เขาไม่สามารถคาดเดาหรือมั่นใจในหัวใจของเขาได้เลย
    .
    ในเมื่อเธอเป็นคนบอกเขาเองว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับหัวใจของเขา
    ดังนั้นแล้ว... ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หัวใจของเขาจะเปลี่ยนไป
    .
    เพราะว่าสิ่งที่ง่ายที่สุดในการเปลี่ยนโลกทั้งใบได้ ก็คือหัวใจของคนเรา
    คู่รักที่รักกันมาก ๆ ก็มักจะเลิกรากันได้ง่าย
    เหมือนกับการแต่งงาน ที่เหมือนจะเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตนิรันดร
    สุดท้ายก็ต้องเลิกรากันไป
    .


              ชองหรี่ตาลงมองเขาเล็กน้อย เธอเอ่ยว่าเขาได้ยินเสียงความคิดของเธอ แต่ทำไมเธอถึงไม่ได้ยินความคิดของเขาบ้าง ไม่ยุติธรรมกับเธอเอาเสียเลย ฮอจุนแจบอกว่าเธอจะอยากได้ยินไปทำไม ในเมื่อเขาเป็นคนที่พูดความจริงเสมอ 

              ฉันคิดว่าชองรู้ดีแก่ใจว่าเรื่องที่ฮอจุนแจบอกกับเธอไม่เป็นความจริงทั้งหมด แต่เธอก็ไม่ได้ซักอะไรต่อ เพราะฮอจุนแจเดินหนีเธอไปเสียก่อน ในขณะที่แม่ของฮอจุนแจพยายามโทร.ติดต่อภรรยาของหัวหน้านัม ลุงผู้จัดการของพ่อฮอจุนแจ

                 
               ผ่านมาอีกหนึ่งวัน ชองได้บอกกับจุนแจว่าเธอคิดไอเดียดี ๆ ออกแล้วล่ะ เธอจะขอลบความทรงจำของเขาเมื่อวานออกไป เขาจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดที่ฮอจุนแจได้รู้ว่าเธอจะตายหากไม่มีเขา ชองพยายามจะจับเขาจุมพิต และขอให้เขาหลับตาลง เพราะขณะที่เธอลบความทรงจำนั้น มันอาจจะทำให้เขาเจ็บสักเล็กน้อย

                เธอบอกกับเขาว่าตอนนี้พลังของเธอกลับมาอีกครั้ง โปรดเชื่อใจเธอ ปรกติแล้วนางเงือกจะมีพลังในการทำทุกสิ่งก็ต่อเมื่ออยู่ในน้ำเท่านั้นตามสัญชาตญาณของพวกเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะลบตอนขึ้นบกมาก็ตาม มันต่างกับตอนที่ลบความจำของโจนัมดู เพราะตอนนั้นเธอทะเลาะและหมางเมินกับเขา พลังอาจหืดหายไปบ้าง แต่ตอนนี้เธอกลับมาแข็งแรงแล้ว

               ฉันมีความสงสัยอยู่อย่างว่าทำไมซิมชองถึงไม่ลบโดยการจับมือเขาแทน ในเมื่อตอนนี้เธอตรึงแขนทั้งสองข้างของฮอจุนแจให้ติดกับผนังห้อง เธอพยายามจะจูบ นั่นอาจเป็นไปได้ว่า ถ้าจะลบความจำของคนรักจะต้องลบด้วยการจูบเท่านั้นหรือ แต่จุนแจก็ไม่ยอมให้เธอลบง่าย ๆ เขาวิ่งหนีเธอออกไปยังห้องรับแขกข้างนอกที่มีฮยองและแทโอนั่งอยู่


                แทโอผ่อนลมหายใจออกที่ได้เห็นภาพของชองนูน่าและจุนแจฮยองวิ่งเล่นไล่จับ กอดรัดฟันเหวี่ยงกันอย่างสนุกสนาน นัมดูเอ่ยบ่นขึ้นมาว่า เมื่อวานยังทะเลาะกันจะเป็นจะตายแทบแตกหัก แต่มาวันนี้หัวเราะกิ๊กกันสนุกสนานไปใหญ่ เมื่อไหร่จุนแจคนเดิมของพวกเขาจะกลับมา แทโอปลีกตัวเดินออกไปจากห้องนั้นทันที


              ชองถามจุนแจว่าไม่ให้เธอลบความจริง ๆ หรือ เขาบอกว่าไม่มีทาง เดี๋ยวเขาเปลี่ยนใจไม่รักเลยนี่ ชองตอบกลับมาว่า 'คุณคิดว่าฉันดูคนผิดหรือไง ฉันข้ามน้ำข้ามทะเลตามคุณมาถึงที่นี่ คิดว่าฉันชอบผู้ชายใจโลเลหรือยังไง'

               จุนแจบอกว่าเขาได้ยินที่เธอนินทาเขาในใจทั้งหมดนั่นแหละ เธอพูดว่าเขาเป็นคนยังไงบ้าง เธอบอกว่าเธอไร้เดียงสา คิดว่าฮอจุนแจดีที่สุดในโลกแล้ว แต่สงสัยเธอจะคิดผิด ชองเลยเสนอความคิดว่างั้นลบตอนนี้ด้วยแล้วกัน หรือว่าทั้งอาทิตย์เลยยิ่งดี ได้ยินคนอื่นนินทาก็คงไม่สบายใจ แต่จุนแจตะบบผ้าห่มคลุมทั้งตัว ไม่ยอมให้เธอแตะต้องตัวได้ง่าย ๆ 

             ชองต่อรองโดยการบอกว่าขอนอนจับมือเขาอย่างเดียวได้ไหม เธอไม่ทำอะไรเขาหรอกนะ แต่จุนแจมีหรือจะเชื่อ เขาได้ยินความคิดเธอ รู้ทุกอย่างที่เธอคิด แล้วยังบอกอีกว่าให้ไปหาอ่านตำนานของนางเงือกบ้าง จะได้รู้ว่าไม่มีนางเงือกตนไหนร้ายกาจเท่าเธอมาก่อนเลย แต่ก่อนที่ชองจะกลับขึ้นไปนอนห้องบน จุนแจก็ใช้มือตบที่นอนข้าง ๆ ตัวเบา ๆ แล้วบอกให้เธอมานอนลงตรงนั้น

     สัญญานะว่าจะไม่ทำอะไร


    เขาคว้าตัวเธอเข้ามากอดแล้ว 
    แก้มของเขาถูไถเบา ๆ ที่หน้าผากเขาเธอเหมือนเช่นทุกครั้ง
    .
    "ฉันแค่อยากจะเช็คว่าหัวใจของเธอยังเต้นดีอยู่เท่านั้นแหละ"

    วงแขนอบอุ่นวาดโอบตัวเธอกระชับขึ้นกว่าเดิม "หัวใจของฉันยังเต้นดี เพราะฉันอยู่กับคุณ"


                สายสืบของคังจียอนรายงานข่าวว่ายูรันทำงานอยู่ที่บ้านของอาจินจู เธอจึงเดินทางมาให้เห็นกับตาว่าชีวิตของเพื่อนสมัยมัธยมตกต่ำมากขนาดไหน จินจูได้บอกกับจียอนว่าแม่บ้านคนนี้เก่งมาก แต่น่าเสียดายที่เธอจะลาออก พร้อมกับเรียกให้นำกาแฟมาเสิร์ฟ 

               เมื่อทั้งสองคนได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง จียอนเอ่ยถามปากให้ยูรันไปทำงานที่บ้านเธอ ยูรันตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัวหรือว่าเกรงใจใด ๆ อีกแล้ว ความอดทนของเธอมันหมดลงไปตั้งแต่ได้รู้ว่าลูกชายสุดที่รักได้ออกจากบ้านไป แล้วคนเป็นพ่อไม่คิดจะออกตามหาเลยด้วยซ้ำ

    "มอบห้องนอนให้ไม่ได้ แต่จะมอบห้องครัวกับเรือนซักล้างให้งั้นสินะ
    เหตุผลที่ฉันหายตัวไปอย่างคนที่ตายจาก
    เป็นเพราะฉันกลัวจุนแจของฉันจะเป็นอันตราย"


               คังจียอนเอ่ยปากขอเวลาคุยกับแม่บ้านสองคน แต่ก่อนที่อาจินจูจะเดินจากไป ยูรันพูดขึ้นมาก่อนว่า ตอนนั้นอาจินจูบอกกับเธอว่าคนที่สามารถแย่งสามี แย่งตำแหน่ง แย่งทุกอย่างจากเพื่อนไปได้ ก็เป็นเพียงผู้หญิงสารเลวแพศยาเท่านั้นแหละ

    "ภรรยาหลวงที่ถูกเพื่อนแย่งสามีไปหน้าด้าน ๆ ก็คือฉันเอง
    ส่วนผู้หญิงที่แพศยาร้ายกาจก็คือเมียน้อยคนนี้ยังไงล่ะ"

    .
               อาจินจูได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจมาก เธอรีบวิ่งกลับเข้าห้องนอนของเธอไป ไม่รอช้าโทรศัพท์ไปเล่า Juicy Gossip ให้กับแก๊งของเธอฟังทันที


                มีมี่กับผู้ช่วยของเขาเดินทางมาพบกับจุนแจที่บ้านพัก นัมดูได้พูดถึงข้อมูลที่ทางมีมี่ขอให้สืบสวนให้ ประวัติของคังจียอนเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและน่าขนลุกไปพร้อม ๆ กัน 

               เธอเคยแต่งงานมาแล้วถึงสองครั้ง สามีเก่าของเธอทั้งสองคนตาบอดและตายด้วยกันทั้งคู่ และเธอได้รับเงินประกันเต็มเม็ดเต็มหน่วย พื้นเพของเธอมาจากเจชอน เธอเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกครอบครัวหนึ่งอุปการะเลี้ยงดู 
     
               แต่ที่น่าแปลกใจก็คือทุกคนในครอบครัวหายสาบสูญ และที่สำคัญคือเรียนจบจาก โรงเรียนสตรีดันอิน ฮงยองชิก ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกันกับมารดาของฮอจุนแจ ซึ่งฮอจุนแจเหมือนกับคิดอะไรบ้างอย่างได้ขึ้นมา

             ฝ่ายคังจียอนได้ไปรับประธานฮออิลจุงออกจากโรงพยาบาล และมาแดยองมารับหน้าที่เป็นผู้ช่วยแทนผู้จัดการนัมชั่วคราว

             ประวัติของคังจียอนทำให้ฉันนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Orphan ที่เด็กกำพร้าคนหนึ่งฆ่าเกือบทุกคนในบ้านที่อุปการะเธอมา และเปลี่ยนครอบครัวใหม่ไปเรื่อย ๆ 
              

              ยูรันบอกกับจินจูว่าหลังจากเตรียมอาหารมื้อค่ำเสร็จแล้ว เธอจะขอลาออกจริง ๆ แล้ว แต่จินจูเปลี่ยนจากที่เรียกเธอว่า 'อาจุมม่า' มาเป็น 'ออนนี่' แทน เพราะนับจากอายุแล้วยูรันเป็นพี่เธอ เธอเอ่ยปากบอกให้ยูรันอยู่ที่นี่ต่อ เพราะว่าไม่มีที่ไปอยู่แล้วนี่ 

                เธอพูดด้วยความสนุกสนานว่าเหมือนกับว่าเธอกำลังละครซากึกอยู่ เรื่อง 'จางอ๊กจอง' ที่ออนนี่ของเธอเล่นเป็น 'พระมเหสีอินฮยอน' ส่วนคังซอฮีเล่นเป็น 'พระสนมเอกจางฮีบิน' ที่สุดท้ายแล้วพระมเหสีอินฮยอนที่เคยถูกเนรเทศ ได้กลับไปยังพระราชวังคืนสู่ตำแหน่ง ส่วนจางฮีบินมีจุดจบด้วยการตาย ซึ่งเธอบอกว่า "ฉัน...อาจินจู จะช่วยพี่เองค่ะ ไม่ต้องรีบออกไปอยู่ที่ไหนทั้งนั้น" 


            จินจูเข้ามาคุยกับซาจีอาในห้องนอน เธอถามว่าเพราะจีอารู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าแม่บ้านเป็นภรรยาเก่าของฮออิลจุงถึงได้ประจบประแจง จีอาปฏิเสธ ยิ่งได้รับรู้พื้นเพบ้านของฮอจุนแจ จีอายิ่งรู้สึกกังวลและปวดหัวไปใหญ่ เธอจึงตัดสินใจออกไปเที่ยวผับ อีกทั้งโทร.ไปชวนแทโอออกมาดื่มด้วย 

             ตอนที่โทร. ไป แทโอกำลังเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออยู่ เขาจึงเผลอกดรับอย่างรวดเร็ว จีอาคิดว่าเด็กน้อยของเธอกำลังเฝ้ารอคอยให้เธอโทร. ไป  จึงรีบกดรับเร็วกว่าเสียงโทรศัพท์ดังเสียอีก แม้ว่าแทโอพยายามจะทำความเข้าใจว่าเธอเข้าใจผิด 'ผมกำลังเล่นเกมอยู่ครับนูน่า'
            
             ในขณะที่แทโอกำลังออกไปพบกับซาจีอา นัมดูถามว่าน้ำ(แอลกอฮอล์)ที่ผับดีไหม รสชาติเยี่ยมหรือไม่ ส่วนชองถามว่าน้ำ(เธอหมายถึงน้ำที่สามารถลงว่ายได้) สดชื่นมากหรือเปล่า ทั้งคู่จึงขอตามแทโอมาที่ผับ 


              เมื่อจีอาเห็นคนที่แทโอพามาด้วยแล้วก็ไม่พอใจ เพราะเธอบอกให้หนุ่มน้อยมาเพียงคนเดียว ชองเห็นจีอาดื่มเหล้า เธอบอกว่าไม่ให้จีอาดื่ม เพราะตอนที่จุนแจของเธอเมานั้นน่ารักมากแค่ไหน เธอจึงไม่อยากเห็นจีอาน่ารักเหมือนจุนแจ
      
              นัมดูออกไปแดนซ์บนฟลอร์ ในขณะจุนแจโทร. เข้ามาถามว่าพวกเขาไปไหนกันหมด กลับมาบ้านเงียบเชียว ฮยองบอกว่าพามาที่ผับ จุนแจบอกว่าไม่ควรพาชองของเขาไป เพราะเธอไม่ชอบที่แบบนั้น แต่ฮยองเถียงกลับโดยพลัน 'ไม่ชอบอะไรกันวะ เต้นยับขนาดนั้น'


    ควีนชองอี VS เลดี้จีอา

    ในขณะที่ชองกับจีอาพยายามจะเต้นข่มกันในผับ พร้อมกับเสียงร้องเชียร์ดังลั่น 
    ฮอจุนแจก็รีบฝ่าวงล้อมเข้ามา

             ฮอจุนแจอึ้งกับภาพที่เห็นไม่น้อย จีอาเห็นเขาจึงชวนเขาเต้นด้วยกัน แต่เขาปฏิเสธเพราะว่าเขามีอย่างอื่นต้องจัดการ เขาไม่พอใจที่แฟนสาวมาเที่ยวกลางคืนท่ามกลางอันตราย อีกทั้งอาจมีคนเข้ามาลวนลามเธอเอาได้ ฮอจุนจอรีบเข้าไปคว้าตัวของชองกลับบ้าน แต่เธอไม่ยอมง่าย ๆ 

               
                  แต่เขาก็สามารถลากตัวชองออกไปได้ในที่สุด ท่ามกลางสายตาไม่พอใจของจีอา และความอึ้งของฮยองกับแทโอ

                   ข้างนอกผับฝนตกหนัก ชองบอกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถทำร่วมกันกับเขาได้ เขาน่าจะรู้ดีเพราะอะไร การเดินท่ามกลางสายฝนไม่ใช่สิ่งที่นางเงือกอย่างเธอจะสามารถทำแบบมนุษย์ได้หรอกนะ 


    จุนแจจึงแก้ปัญหาไปนำร่มและรองเท้าบู้ทส์กันฝนมาให้ชองใส่ 
    แล้วเดินคล้องแขนกันไปท่ามกลางสายฝนที่ยังตกไม่ขาดสาย 


               วันถัดมาซิมชองได้ไปเจอกับเพื่อน ๆ ของเธอที่ร้านสะดวกซื้อที่มักไปประจำ เธอบอกว่ายูนาและหญิงเร่รอนแฟชั่นนิสตาว่า เธอรู้สึกสบายใจที่จุนแจได้รู้ความลับของเธอแล้ว 

               เธอบอกกับยูนาว่าเธอรู้สึกดีและมีความสุขที่จุนแจได้ยินความคิดของเธอ และไม่ต้องโกหกอะไรอีก ไม่ต้องมีความลับใด ๆ ต่อกัน เธอจะได้เริ่มใช้ชีวิตปรกติเหมือนกันคนอื่น ๆ เสียที 

               ยูนาที่ได้ยินเช่นนั้นก็เอื้อมมือมาแตะที่ไหล่ของชองแล้วพูดกับชองประโยคหนึ่งที่เธอก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาว่า "เรื่องที่ยากที่สุด คือการที่เราพยายามเป็นเหมือนคนอื่น"

     
              ขณะที่พูดคุยกันอยู่นั้น ข้างนอกฝนเริ่มตกปรอย ๆ แฟชั่นนิสตาสาวชี้นิ้วไปยังคนข้างนอกที่รีบวิ่งหลบฝนกันจ้าระหวั่น บางคนหยิบกระเป๋าถือของตนเองขึ้นมาบังฝนแทนร่วม บางคนนำกระเป๋าซุกไว้ในโค้ชเพราะเกรงว่ากระเป๋าราคาแพงจะเปียก

    กระเป๋าของแท้หรือว่าของปลอมนั้น เจ้าของรู้ดีที่สุด
    ดังนั้นการปฏิบัติต่อกระเป๋าย่อมต่างกัน
    .
    คนที่นำมาบังฝน เพราะเขาคิดว่ากระเป๋ามันราคาถูก 
    ไม่จำเป็นจะต้องรักษาอะไรมากมาย
    .
    แต่สำหรับกระเป๋าของแท้นั้น เจ้าของกลับรักษามันเป็นอย่างดี
    .
    สำหรับชองนั้น 
    .
    "ไม่ว่ากระเป๋าจะถูกหรือแพง จะเป็นของแท้หรือไม่ก็ตาม 
    ไม่ใช่สาระสำคัญ
    มันสำคัญอยู่ที่ว่าเจ้าของรักมันมากแค่ไหน
    แม้ว่าจะเป็นของปลอมราคาถูก แต่ถ้าเจ้าของรักษามันอย่างดี 
    ก็สามารถใช้ไปได้นานไม่ใช่หรือ"
    .
    "สำหรับฉันก็ยังเป็นปลอมสำหรับที่นี่"
    .
            ชองได้ชวนเพื่อน ๆ ของเธอไปงานเลี้ยงวันเกิดที่บ้านของเธอ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดวันที่เท่าไหร่ ไม่เคยจัดงานเลี้ยงเลยสักครั้ง เธอจึงเลือกวันขึ้นมาหนึ่งวันเพราะอยากจัดปาร์ตี้สนุกสนาน และตอนนี้เธอเพิ่งรู้สึกว่ามีชีวิตใหม่จริง ๆ กับคนที่เธอรัก เธอจึงเลือกวันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเธอ


               ฮอจีฮยอนแอบเข้ามาหาผู้จัดการนัมที่รักษาตัวอยู่ เขาบอกว่าเขาเห็นลุงนัมคุยกับฮอจุนแจ แม่ของเขาวางใจมากเกินว่าลุงพูดไม่ได้ การพูดได้หรือไม่ได้ไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่สำคัญจนสร้างปัญหาให้พวกเขานั้นคือชีวิตของลุงต่างหาก ฮอจีฮยอนได้ดึงสายอะไรบางอย่างเพื่อปลิดชีวิตของลุงนัม แต่จู่ ๆ เขาก็รู้สึกวิตกกังวลและทำอะไรไม่ถูก เขาหันซ้ายแลขวาคล้ายกับว่าอยากจะช่วยชีวิตของลุงนัมมากกว่ากลัวความผิด  แต่มาแดยองมาคว้าตัวของเขาออกจากห้องก่อนที่ทีมแพทย์จะเข้ามา


                    ทีมแพทย์เริ่มวิ่งเข้ามาช่วยเหลือกันจ้าระหวั่น และแม่ของจุนแจก็ได้รับการติดต่อจากภรรยาของผู้จัดการนัม โดยยูรันได้ขอเบอร์ติดต่อลูกชาย ซึ่งภรรยาของผู้จัดการบอกว่าจะขึ้นไปเอาให้ที่ห้องพักผู้ป่วยของสามีของเธอ

                   ภาพในช่วงสมัยโชซอนฉายกลับมาอีกครั้ง เพื่อนของคิมทัมรยองได้เข้าไปในเรือนพักของใครสักคนหนึ่ง

               เขาเข้ามาเพื่อหาอะไรบางอย่าง ฉันไม่แน่ใจว่าเป็นเหตุการณ์ก่อนหรือหลังคิมทัมรยองเสียชีวิต ฉันเดาว่าคงเป็นเหตุการณ์หลังเกิดเหตุแล้ว และน่าจะเข้ามาเอาอะไรบางอย่างที่เพื่อนฝากฝังไว้ ในขณะนั้นเองได้มีใครบางคนเข้ามาในห้องเช่นเดียวกัน เขารีบหลบไป คนคนนั้นได้สวมแหวนที่เป็นปริศนา บุคคลลึกลับที่ได้คร่าชีวิตของทัมรยองจากเซฮวาไป


                จีฮยอนเริ่มกังวลทันทีที่จำหน้ามาแดยองได้ว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่ทางการต้องการตัว เขาถามว่ามาขับรถของพ่อเขาได้อย่างไร มาแดยองเป็นตัวอันตรายมิใช่หรือ ทำไมต้องมาใกล้ชิดเขากับแม่ด้วย

                มาแดยองสั่งให้จีฮยอนหุบปากแล้วบอกว่าให้อยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ และรอรับผลประโยชน์จากคนอื่นที่คอยทำให้จะดีกว่า ฉันคิดว่าแม่ของจีฮยอนร้ายจนสามารถฆ่าสามีเก่าทุกคน แต่ไม่สามารถฆ่ามาแดยองได้ เพราะมาแดยองร้ายกว่า และหวังว่าจีฮยอนคงไม่ได้ร้ายที่สุดหรอกกระมัง


                 ชองโทรศัพท์ไปหาแม่ของจุนแจเพื่อชวนให้มางานเลี้ยงวันเกิดของเธอ ตอนแรกยูรันปฎิเสธที่จะมาเพราะอยากตามเรื่องของฮอจุนแจมากกว่า แต่พอได้ยินชองพูดว่าเธอเพิ่งเคยมีงานวันเกิดครั้งแรกในชีวิต จึงอยากชวนมาร่วมงานพิเศษแห่งความทรงจำนี้ และเธอไม่มีครอบครัวเหลืออยู่แล้ว ยูรันจึงตอบตกลงว่าจะมาร่วมงาน

              
               ขณะที่ฮอจุนแจออกไปข้างนอก โจนัมดูและแทโอจึงช่วยกันจัดงานปาร์ตี้รอ นัมดูได้แต่บ่นว่าชองคงดูละครมากเกินไป อะไร ๆ ก็เหมือนในละครไปเสียหมด สักพักหนึ่งหญิงเร่รอนเพื่อนของชองก็มาถึงพร้อมกับของขวัญของโปรดของชอง
                
              เนื้อตัวที่มอมแมมทำให้นัมดูรีบปรี่เข้าไปเอาหมอนให้รองนั่ง กลัวว่าโซฟาจะเลอะเทอะ แฟชั่นนิสตาสาวยกเท้าของตนเองขึ้นมาเกาและใช้มือเดียวกันหยิบอาหารในจานเข้าปาก นัมดูมองอย่างรังเกียจสักเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรมาก หรือว่าคนนี้จะเป็นเนื้อคู่ของฮยอง


                  ซิมชองได้เดินมารับแม่ของฮอจุนแจที่ป้ายรถเมล์ตามที่นัดกันไว้ เธออาสาถือถุงที่ยูรันหิ้วมาด้วย ยูรันบอกว่าเธอได้ทำอาหารที่เคยทำให้ลูกชายในวันเกิดเธอ ทั้งสองคนเดินคุยกันมาตามทาง ส่วนฮอจุนแจที่เพิ่งเดินออกจากร้านดอกไม้ที่ซื้อมาให้กับแฟนสาวของตนเอง
                  
                 เขาเดินอยู่คนละฝั่งริมถนนกับชอง จุนแจหันมาเจอ 'มองชองงี่' ของเขา (멍청이แปลว่า ยัยบื้อ ยัยบ๊อง ใช้เรียกแฟนสาวแบบน่ารัก ๆ มุ้งมิ้ง) กำลังคุยไปยิ้มไปกับเพื่อนรุ่นป้าอีกฟากฝั่ง เขาพยายามโบกมือเรียกเธอ ทว่าชองกลับมองไม่เห็นเขา จนเดินเลยมาถึงสี่แยกไฟแดง 


                 ชองหันมาเจอกับจุนแจพอดี เธอจึงโบกมือให้เขาพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อเขาดังลั่น จุนแจได้แต่อมยิ้มให้กับเธอ แม้ปากจะบอกว่าทำไม มองชองงี่ของเขามาตะโกนเรียกชื่อจริงของเขาในที่สาธารณะแบบนี้ก็ตามที

                ยูรันได้ยินชื่อที่ชองเรียกแฟนหนุ่มของเธอ ก็อึ้งไปเล็กน้อย ตอนแรกนึกว่าจะเพียงแค่ชื่อซ้ำกันเสียอีก แต่พอชองพูดถึงเหตุการณ์ที่หอตะเกียงเฮราคลิส  (Heracles) จึงได้รู้ว่าแฟนหนุ่มของชองคือจุนแจของเธอ ชองได้แต่พูดผ่านความคิดให้เขาที่อยู่อีกฟากฝั่งได้ยินว่าเธอดีใจมากแค่ไหนที่เขาจะได้เจอแม่แล้ว

     
     ตำนานแห่งหอตะเกียงเฮราคลิสเป็นจริงแล้วนะ
    คนที่พรัดพรากได้กลับมาเจอกันและรักกันอีกครั้ง
    ยินดีด้วยนะฮอจุนแจ ตอนนี้คุณได้เจอแม่ของคุณแล้วล่ะ


               มือที่กุมดอกไม้สั่นไหว สายตานิ่งอึ้งที่ได้เห็นหน้าผู้หญิงสูงวัยที่เขาโหยหาความอบอุ่นมานานแสนนานยืนอยู่ข้าง ๆ แฟนสาว ไฟแดงหยุดรถ แต่ไฟเขียวเปิดให้เดิน เขาก้าวเดินอย่างช้า ๆ เพื่อข้ามถนนไปหาคนทั้งสอง เพื่อจะได้พบกันจริง ๆ เสียที


                เป็นตอนที่ฉันเดาไม่ออกเลยว่าต่อไปเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไรต่อ ฉันรู้สึกชอบและสบายใจที่ชองได้รู้เสียทีว่าจุนแจรู้ความลับของเธอ และเขาก็รับเรื่องราวและตัวตนของเธอได้ ส่วนเรื่องที่ว่านัมดูจะร้ายหรือไม่ คงต้องรอดูต่อไปเรื่อย ๆ เพราะความโลภของเขาสามารถทำให้เขาเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้เช่นกัน
     
                ฉันเดาว่า คงไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นบนท้องถนน และได้กลับมาฉลองปาร์ตี้ที่บ้านอย่างสนุกสนาน แม่ของจุนแจจะเป็นคนที่เปิดเผยความลับของคังจียอนทั้งหมดเท่าที่เธอทราบ รอดูกันต่อไปว่ามีเรื่องอะไรให้ขนลุกกว่านี้อีกไหม
              
               เจ้าของแหวนผู้เป็นปริศนา เหตุใดถึงไม่ยอมเปิดเผยหน้า หากเป็นฮอจีฮยอนจริง ฉันก็เบาใจ แต่ก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นอยู่แล้วนี่ ในเมื่อได้เห็นมุมด้านมืดของเขาในชาติปัจจุบันแล้ว มีเหตุผลอันใดถึงไม่ยอมเปิดเผยใบหน้า เว้นเสียแต่ว่าหลอกให้คนดูเข้าใจผิด แล้วคนผู้นั้นอาจเป็นใครสักคนที่เราคาดไม่ถึงก็ได้


    การเขียนบทความนี้ไม่ได้ลอกหรือแปลมาจากบทความภาษาอื่นของผู้อื่น 
    ผู้เขียนเขียนและเรียบเรียงทั้งหมดขึ้นมาเองจากการดูละครในเว็บไซต์
    เป็นการคาดเดาในความคิดและการวิเคราะห์จากตัวผู้เขียนเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
    ขอบคุณมากค่ะ
































เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in