ที่ฝ่ามือของคุณ
พิกุลร่วงหล่น
ผ่านร่องนิ้วลงไปฉิวเฉียด
กระทบสั่นไหวกับพื้นคลุกฝุ่นดิน
น้ำตาเมฆปริ่มจะไหลหลั่ง
ร่มของคุณขยายกิ่งก้านสาขา
ครอบคลุมไปทั้งอาณาบริเวณ
แผ่ร่มเงาให้ใจของใครต่อใครได้พักพิง
น้ำตาของคุณเองเจิ่งนอง
ดวงไฟที่คุณหมายปองส่องแสงริบหรี่อยู่ไกลแสนไกล
ร่มเงาใดก็มิอาจรุกล้ำไปถึง
คุณจึงจดจ้อง
เมี่ยงมองเมื่อมันค่อย ๆ มอดดับไปกับการชะล้างของสายฝน
ดั่งมีจิตรกรเอาน้ำสาดชำระและขูดเอาสีสันออกไปจากโลก
ดอกไม้เปียกปอน
น้ำนองพื้นดิน
บาปใดที่โลกแบกรับได้ถูกไถ่ถอน
ก่อนค่อยระเหิดหายไปสู่ดวงอาทิตย์
หากเครื่องจักรกำเนิดบาปไม่อาจถูกทำลายล้าง
ก้อนไฟที่ลอยเท้งเต้งอยู่กลางอวกาศ
หรือน้ำตาจากสรวงสวรรค์
ก็หามีพลานุภาพใด
ราวพระเจ้าได้สรรค์สร้างสิ่งซึ่งพระองค์ไม่อาจทำลายลง
ร่มที่คุณใช้โอบกอดโลกถูกหุบลง
ถูกทิ้ง ถูกลืม
รอเพียงเวลาเข้ามากร่อนเซาะการดำรงอยู่ให้ดับสูญ
พิกุลถูกกลบฝังไว้ใต้บาดาลโลก
ดวงไฟสูญหายไปตลอดกาล
ส่วนคุณ…
คุณไม่ใช่สิ่งใด ไม่แม้กระทั่งตัวคุณเอง
จึงมิอาจดำรงอยู่ต่อ หรือสูญหายตายจากไปได้
อีกครา
พระเจ้าบิดน้ำออกจากปุยเมฆ
จิตรกรชำระล้างภาพสีชั้นเลวของตน
คุณ พิกุล ร่ม และดวงไฟ
จึงไปนอนคอยการเหือดหายที่ไม่มีวันมาถึงอยู่ในท่อระบายน้ำ
บาดาลได้กลายมาเป็นผิวหนังที่ห่อหุ้มคุณ
บาดาลได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งภาพสีชั้นเลวของจิตรกร
(ภาพ: Rain or Enclosed Wheat Field in the Rain, Vincent Van Gogh)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in