จริงๆ มันก็เพียงเท่านี้
มิสเตอร์บาดีขับรถวนไปทั่วเพื่อหาใครซักคนมาช่วยฝังศพของตัวเขา ด้วยเพราะเขามีความปรารถนาจะลาโลก บาดีอยากตาย แต่เขาไม่อาจกำหนดร่างกายให้ตายลงไป ณ ตอนนั้นเลยได้ เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่อาจตายได้อย่างถูกต้องตามขนบ... ก็คงไม่แปลกที่อย่างน้อยเขาจะอยากให้ศพตัวเองได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง
บาดีบอกว่ารสชาติของชีวิตเขานั้นเหือดหายไปหมดสิ้น
หรือว่าจริงๆ แล้วบาดีไม่รู้มาก่อนว่ารสเชอร์รี่นั้นไม่มีจริงตั้งแต่แรก?
หนังของเคียรอสตามีเรื่องนี้ขึ้นต้นด้วยการเอ่ยพระนามพระเจ้า คำกล่าวสามัญธรรมดาที่ผู้ศรัทธาทั้งหลายใช้กันจนชินปาก กลับเป็นเสมือนประกาศิตอันแสนเศร้าถึงสิ่งที่พระเจ้าโยนเข้ามาให้บ่าวของพระองค์ต้องแบกรับ โลกที่พระองค์สร้าง และความทุกข์ทนที่พระองค์ทรงอนุญาต บาดีกล่าวกับผู้ศรัทธาคนหนึ่งว่าบาปหนายิ่งกว่าการฆ่าตัวตายอาจเป็นชีวิตเดียวดายไร้สุข หากการฆ่าตัวตายเป็นการกระทำที่มนุษย์ทำได้บนโลก นั่นอาจแปลว่ามันคือการกระทำที่พระผู้เป็นเจ้าอนุมัติมายังบ่าวของพระองค์แล้วก็เป็นได้
เราไม่รู้ว่าชะตาของบาดีเป็นอย่างไรต่อ เมื่อเคียรอสตามีจบหนังของตัวเองด้วยภาพเบื้องหลังกองถ่าย ราวกับชี้ว่าความทุกข์ทนของบาดีนั้นท้ายที่สุดก็เป็นเพียงเรื่องปั้นแต่ง ที่มีเขากับทีมงานเป็นผู้ชักใย ถ่ายภาพ และละเลียดกำกับอยู่หลังกล้อง
แต่ความทุกข์ทน ความโศกเศร้าที่คนเราต้องแบกรับในโลกจริงๆ นี้ล่ะ จะมีใครมาสะกิดที่บ่าแล้วชี้ให้เห็นว่าเราเป็นแค่เพียงนักแสดงในกองถ่ายหนังเศร้าๆ เรื่องหนึ่ง? ใครจะมาปลุกเราให้ตื่นจากการหลับใหล? บาดแผลของปุถุชนจะต่างจากรสเชอร์รี่อย่างไร เมื่อมันอาจถูกกุขึ้นมาเพียงเพื่อหลอกล่อให้เราอินไปกับบทบาทที่ได้รับมาเท่านั้น
จริงๆ มันก็อาจจะเพียงเท่านี้ นักแสดงสวมบทบาทอย่างเต็มที่เพื่อให้หนังของเธอหรือเขามีพลังงดงาม แต่ในตอนจบของหนัง เขาหรือเธอถอดหน้ากากและบอกลาบทบาทนั้นไป รู้เต็มอกว่ารสชาติขมขื่นหรือหอมหวานใดๆ ที่ตัวละครของพวกเขาสัมผัส ไม่เคยเกิดขึ้นจริงกับโสตประสาทของพวกเขาเลย แต่ตัวละครเหล่านั้นเล่า ต้องมืดบอดในเรื่องแต่งที่พวกเขาหาใช่ผู้กำหนดไปชั่วกัปชั่วกัลป์กระนั้นหรือ?
จากความทรงจำอันเลือนรางและบิดเบือนที่มีต่อ Taste of Cherry (1997, Abbas Kiarostami, Iran-France)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in