รถเมล์กับสาวออฟฟิส(แบบเรา) เป็นของคุ่กัน เบื่อก็เบื่อนะเวลาต้องอยุ่ที่เดิมๆซ้ำๆแล้วรถติด
แต่บางครั้งก็มีเรื่องสนุกๆให้ดูได้ ลุ้นระทึกได้เหมือนกัน
และวันนี้ก็เช่นกัน
วันนึง ขากลับ จากออฟฟิสกลับบ้าน ประมาณ 5 โมงเย็น ด้วยความที่ออฟฟิสกับบ้านไม่ไกลกันมาก
ก็เลยถือโอกาศเดินเพื่อออกกำลังกาย ตามแผนก็คือ จากที่ทำงาน ผ่านห้างดังๆแถวๆเส้นเพลินจิต ชิดลม
เลี้ยวแวะเซนทรัลเวิล สี่แยกราชประสงค์ ก่อนจะลงมาหน้าลานห้างใหญ่ยัก ตรงมาที่ป้ายรถเมล์ ต่อรถกลับบ้าน
อย่างสบายใจ
พอเริ่ม 5 โมงนิดๆ ฝนตก ในใจเริ่มคิดแล้วว่าแม้ง แย่จัง เ ือก รู้ดีมาตรงตอน กู จะกลับบ้าน
เดินไปเรื่อยๆ ลัดเลาะตามห้าง ไม่ให้ตัวเปียกฝน พอถึงแยกราชประสงค์
เท่านั้นและ
นรกดีดีนี้เอง แยกหน้าห้างเซนทรัลเวิล แยกประตูน้ำ แยก... แยกนี้แม้งเป็นแยกที่รถติดเป็น
ตังเม ติดเป็นปลากระป๋อง ติดเป็นไม่ขยับ นึกว่าคนมากดหยุดภาพเอาไว้
ตายละ อิเควี้ย ไม่อยากจะอธิบาย......
เราก็เรื่อยเปลี่ยนมาเดินห้าง เดินแบบเรื่อยเปื่อย เข้าร้านนู้นร้านนี้ เอาเสื้อผ้าเค้ามาลองแล้วก็ไม่ซื้อ
ฆ่าเวลาเเล้ว ฆ่าเวลาอีก แล้วช่วงนี้ห้างเซลเวิล ก็กำลังรีโนเวล ร้านผิดกันระนาว เดินหลงไปหลงมา
อยู่พักใหญ่
พอเริ่ม 6 โมงนิดๆฝนเริ่มซา รถก็เริ่มขยับละมั้ง
เคลื่อนตัวเคลื่อนตูดออกจากห้างดีกว่า
ที่มาเดินเพื่อหลบฝนเท่านั้นเอง ตรงมาที่ป้ายรถเมล์
รถก็ยังติดอยู่แบบนั้นละ รอไปซัก 10 นาที ก็มีรถเมล์สายที่ต้องการกลับบ้านเลี้ยวมาจากทางฝั่งสยาม
"เอาละวะ ได้กลับบ้านเเล้วกู"
จังหวะที่รถเข้าจอด ก็เบียดตัวแข่งขันกันขึ้นบนรถกับเหล่า พีเพิ้ลที่รออยุ่ด้วยกัน
ชะตาต่างหวังจะแย่งที่นั้งที่ว่างบนรถเมล์
แต่แล้ว .....คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง
แล้วน้องก็เป็นหนึ่งในนั้น ฟัค!
รถเมล์ตอนเวลานี้ก็เบียดเสียดกันชิบ-าย แต่ยังสบายๆอยู่ในระดับนึง
มีที่ว่างให้แขนเล่นโทรศัพท์ได้ ถือว่ายังไม่เบียดมาก..
ต้องเข้าใจว่านี้คือเวลาพีคของเหล่า แม่บ้าน ชาวออฟฟิส และบุคลากรอื่นๆที่เค้าเลิกงาน
แถมมาเจอฝนตกอีก.. บรรลัยที่สุด
รถยังติดอยู่กน้าป้ายอยู่ซักพัก หลังจากนั้นก็เคลื่อนตัวออกไปช้าๆ
หยุดบ้าง เป็นครั้งคราว เพราะว่าโดนพี่ยามของห้างขอไว้ ให้รถไปข้างในไปหน่อยพี่...
จนมาถึงแยกประตูน้ำรถเลี้ยวขวา ขับตรงไปผ่านห้างชอปเสื้อผ้า แพตตินั่ม มีคนเริ่มขยับของลง
ป้ายหน้าที่เป็นป้ายแพตตินัม พอรถเทียบป้าย เราเองก้าวลงจากรถ เพราะต้องการให้คนข้างในลงก่อน
แต่แล้วกูก็ถูกแทรกด้วยมนุษย์นักท่องเที่ยวที่ถือถุงพลาสติกใหญ่ๆเหมือนแม้งซื้อเสื้อผ้ามาทั้งร้าน
แม้งมาเป็นทีม ขึ้นไปที 4 คน แล้วถุงอวบมากจ๊ะ ซ้อนสองถุงด้วย
มีคุณพี่มายืนต่อด้านหลังเรา ตามวินัยปกติ
รอจนทีมถุงอวบขึ้นหมดเเล้ว เลยขึ้นตาม
ปรากฎที่ยืนได้ดังรูป (โดยสังเขป)
จากนั้นรถก็ดำเนินไปเรื่อยๆ แวะรับอีกป้ายนึงแต่เค้าไปขึ้นข้างหน้า เลยไม่มีใครมาแย่งโพชิชั่นน้องได้
รถเคลื่อนตัวไปแบไม่ช้ามา จนอีกประมาณ ไม่ถึง 100 เมตร จะถึง ป้าย เพชรบุรี ประตูรถเริ่มเปิดออกเพราะว่า
อีกนิดเดียวจะถึงป้ายเเล้ว ประจวบกับตอนนี้รถติดพอดี แต่แล้วเหมือนรถก็ยังดำเนินออกไปอีกเนิบ
โดยเปิดประตูรถยังเปิดค้างไว้อยู่ ความร้อนอ้าวหลังฝนตก เข้ามาในรถและ
เราก็สถบบนใจเลย "อิ-อก ร้อน ิบหาย"
แต่แล้วรถก็ต้องเบรกดังเอี๊ยยดดดดดดดด...........
--- เอี๊ยดจริงๆ แบบ หน้าคว่ำ แบบจึก เหมือนคนขับเหยียบเบรกแบบเต็มตีนมาก ----
ทุกคนบนรถกระเด็นกันหมด รวมถึงตัวเราด้วย เซไปด้านหน้ารถ พี่ที่มีเครื่องหมาย บวก บนรูป
กระเด็น แบบเหวียงตัวแรงมาก เพราะพี่เค้ากำลังจะลง เหวียงแบบจากอีกด้านนึงมาอีกด้านนึง
เกือบจะถึงบันได ด้วยความที่สามัญสำนึก(ที่มีน้อยนิด) ของเรามันมา พอเห็นพี่เค้าลอยอยุ่ในความเคว้งคว้างนั้น
ก็เอามืออีกข้างที่ใกล้เค้าที่สุดของตัวเองคว้าจับพี่เค้าอย่างเร็ว เอาจริงๆตอนนั้นก็เซโรงังเหมือนกันแต่ดีเหมือน
มีเสารกั้นอยู่เลยไม่กระเด็นไกล
ตอนนั้นคนส่งเสียงดังเหมือนแมลงหึ่งไปทั่ว บ้างคนมาเป็นคำด่า บ้างคนร้องว้าย! เสียงดังมาก
ทีมถุงอวบก็เซไปจนเกือบล้มคนนึง เสียงถุงเลื่อนที่เร็วๆ เสียงคนขอโทษ ดังขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
คือเอาจริงๆ ทำไมถึงต้องเบรกขนาดนี้ด้วยวะ คิดในใจ...
หลังจากเหตุการณ์นั้นสงบลง พี่ที่เราช่วยก็หันมาขอบคุณ
แล้วก็มีหนุ่มด้านหลัง เดินมาถามพี่เค้าว่า
"กระเป๋าผมไปโดนขอโทษด้วยนะครับ"
พี่เค้ายิ้มๆตอบ
"ไม่เป็นไรค่ะ"
หลังจากนั้นพี่สาวคนนี้ก็เดินลงป้ายนี้ไป.............
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลยจนถึงป้ายหน้าบ้าน
สรุป
ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคนขับ เค้าเบรกกระทันหันแบบนั้นทำไม เพราะว่าไม่ได้แวะถาม
จบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in