เริ่มกันด้วยเรื่องเบสิกอย่างคุ้ยขยะ ขอแค่เป็นถังขยะไม่ว่าจะแบบเปิดฝา ปิดฝา เอาของหนักวางทับฝาอีกที หรือผูกปากถุง ก็มักไม่รอดน้ำมือของเจ้าตูบ เปิดประตูเข้าบ้านทีไรเป็นต้องเจอกับขยะกระจุยทั่วบ้าน (นี่ถ้าวันไหนทิ้งข้าวแกงไว้นะ...ไม่อยากจะคิด)

ตอนเด็กเห็นกัดๆ แทะๆ ก็เข้าใจว่าอยู่ในช่วงคันเหงือกนะ แต่พอโตขึ้นมาแล้วทุกสิ่งในบ้านตั้งแต่ของกระจุ๊กกระจิ๊ก ยันขอบตู้ ขาเตียง ก็ยังแทะอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนชาตินี้ไม่เคยกินของอร่อยมายังงั้นแหละ

หากพูดถึงของเล่นชิ้นโปรด อาจไม่ใช่ตุ๊กตา หรือ ลูกบอลอีกต่อไป (ซื้อของเล่นแพงแค่ไหนก็ไม่แยแส) หากได้ลองเล่นถุงเท้ารองเท้า ที่อุตส่าเก็บแอบไว้มิดชิดในตู้ ยังไงก็ไม่พ้นสายตาตูบยอดนักสืบไปได้เลย (กลิ่นรองเท้ามันแรงสินะ!)


เมื่อเจ้าตูบที่วันๆ เอาแต่นอน ชวนเล่นยังไงก็ไม่ลุก แต่พอได้ย่างเท้าออกจากบ้านเท่านั้นล่ะ ก็แปลงร่างบ้าพลังเหมือนชีวิตนี้ไม่เคยวิ่งมาก่อน จากจูงไปเดินเล่นชิลๆ ไหงกลายเป็นถูกลากไปได้ล่ะเนี่ย
หมากับธรรมชาติสีเขียวเวลาอยู่ด้วยกันแล้วดูมีชีวิตชีวาสดใสสุดๆ แต่บางครั้งก็ไม่จริงเสมอไปโดยเฉพาะกับต้นไม้ดอกไม้ในสวนข้างบ้าน...


นอกจากพฤติกรรมแสบๆ ที่ลงกับสิ่งของรอบตัวแล้ว หมาบางตัวก็ทำแสบมาลงกับคนเหมือนกัน
นี่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้านายใครกันแน่ (สบายเชียวนะ)

ยังมีอีกหลายพฤติกรรมชวนกุมขมับของเหล่าหมาสี่ขาใน ‘The Devil Wears Collar โลกบังคับให้หมาร้าย’ เล่าผ่านลายเส้นสุดน่ารักและคุ้นตากันเป็นอย่างดีโดย ‘หมาจ๋า’ ที่จะมาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเคล้าน้ำตาให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วยเจ้าตูบเวอร์ชั่นแสบกว่า ซนกว่าที่ผ่านมาแต่ยังคงน่ารักเหมือนเดิม เพิ่มเติมก็ตรงน่าหยิกที่จี๊ดถึงใจคนรักหมาอย่างแน่นอน