เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Log Book ที่รัก♡ployapha.j
Maldives Liveaboard Trip EP.2
  • 17 April 2018







    สวัสดี Log book ที่รัก♡



    ความเดิมตอนที่แล้วใน Maldives Liveaboard Trip EP.1 คือเรื่องราว 10 ไดฟ์ครึ่งแรกของทริป #LDTinMaldives2018 ที่สนุกสนาน เฮฮา โดนแมนต้าเอาครีบแปะหัว โดน Jet fin โบกใส่หน้า พบเจอเต่าน้อยใหญ่ ฉลามหลายหน่วย ฝูงกระเบนตลาดแตก และอื่นๆอีกมากมาย


    ในวันนี้เราจะมาเล่าให้อ่านเกี่ยวกับอีก 8 ไดฟ์ครึ่งหลังว่าเราทำอะไร ไปดำน้ำที่ไหน พบเจออะไรบ้าง จะตีฟินสู้กระแสน้ำหน้าสั่นขนาดไหน ตามไปอ่านกันได้เลยจ้าาาาาาา ;)

















    11 April 2018





    Dive  11 - Rangali Madivaru / Manta Point, S. Ari Atoll

    Depth: 30.3 m. | Time: 49 mins




    ตั้งแต่ก่อนมาทริปนี้ เราตื่นเต้นอยากมาดำตรงไดฟ์ไซต์นี้มากๆเพราะชื่อของมันคือ Manta Point ตอนนู้นคืออู้วหูววว ตื่นเต้น แมนต้าแถวนี้ต้องเยอะมากแน่ๆ แต่หลังจากที่ได้พบเจอแมนต้าแบบเต็มอิ่ม จุใจ ใกล้ชิดสนิทสนมจนครีบฟาดหัว ตลอดจนสองไดฟ์ที่แมนต้าว่ายวนฉวัดเฉวียนรอบตัวจนเลิกถ่ายรูป ไปถ่าย Flatworm แทนนั้น


    เช้าวันนี้เราเลยขี้เกียจจะลงไดฟ์นี้หน่อยๆ กะว่า อะ ตื่นมากินข้าวเช้า นั่งอืดๆจิบไมโล ดูท่าทีไปก่อนว่าตรงนี้มันเป็นยังไง มีความอะเมซิ่งจิงเกอเบลแค่ไหน













    พอฟังบรีฟไปก็โอ้โหไปตามคารมของชาร์มิลที่บอกว่าจุดนี้เราจะได้เจอกับ Oceanic Manta Ray นะจ๊ะ ซึ่งเป็นปลากระเบนราหนูตามมหาสมุทร มีขนาดบิ๊กบึ้มใหญ่กว่าปลากระเบนราหูตามแนวเขตปะการังที่เราพบเจอกันเมื่อวานนี้ โดยเจ้าพวกนี้จะย้ายถิ่นที่อยู่ไปเรื่อยๆตามฤดูกาลนะเออ





    ได้ฟังอย่างนี้ก็หูผึ่ง เหยดดดดด แมนต้าตัวใหญ่เว้ยเฮ้ยยยย


    เอาวะ!


      เราไม่ได้มาดำน้ำที่มัลดีฟส์ทุกวัน


    (โควทนี้มาอีกแล้ววววว) 



    ไป ไปเข้าชุด!









    และผลคือ... Manta Point ในวันนี้ ไม่มีน้องแม้นครีมาเซย์ฮายแต่อย่างใดจ้า ตีฟินไปเรื่อยๆอย่างเงียบเชียบ เอื่อยๆ เรื่อยๆ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายยามเช้า เหยียดยืดกล้ามเนื้อและวอร์มอัพประจำวัน สิ่งที่พบเห็นคืออนุบาลปลาฉลามหลายครัวเรือนที่น่ารักกุ๊กกิ๊ก และปลาสิงโตหนึ่งหน่วยเท่านั้น เป็นไดฟ์ถ่ายรูปเล่นชิคๆ



















    ไม่ได้ถ่ายเหล่าน้องหลาม ไกลไป ขอโทษค่ะหนูใช้แค่โกโปร ฮือ


















    Dive 12 - Maamighli Beyru, S. Ari Atoll

    Depth: 24.1 m. | Time: 52 mins






    และแล้วเราก็เข้ามาสู่โหมดซีเรียสจริงจังกับการตามหา ฉลามวาฬแห่งน่านน้ำทะเลมัลดีฟส์ กันบ้าง ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์ที่เราบรีฟกันอย่างจริงจังมากๆเพราะการตามหาน้องจุดนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย น้องจะมา หรือไม่มา มันก็เป็นเรื่องของน้อง มนุษย์อย่างเราไปคาดการณ์กะเกณฑ์อะไรไม่ได้ (ไม่เหมือนที่ฟิลิปปินส์ที่ให้อาหารแล้วน้องก็อยู่ยั่งยืนยงไม่ไปไหน) เพราะฉะนั้นเราก็ต้องคิดวางแผนกันก่อนนิดนึง











    โดยแผนแรกคือการสน็อกเกิลจ้า ชาร์มิลชี้ให้เราดูว่ารอบๆเรานั้นมีเรือมาจอดรอมากมายหลายสิบ รวมไดฟ์เวอร์ที่มาชุมนุมประชุมใจรักสมัครสมานอยู่ในละแวกน่านน้ำแถวนี้ก็ประมาณ 200 คน และเจ้ามนุษย์ 200 คนนี้แหละ (รวมถึงข้าพเจ้าด้วย) มีเป้าหมายเดียวกันคือ





    ฉลามวาฬ




    เราจะนั่งเรือเล็กไปตระเวนตามหาน้องจุดกัน หากเจอแล้วเราก็จะสน็อกเกิลตามรูปด้านบน โดยพยายามว่ายจ๋อมแจ๋มกันอยู่ด้านนอก เพื่อกันให้น้องว่ายชิดเกาะไปเรื่อยๆ จะได้ไม่ว่ายหนีหายออกทะเลไป ซึ่ง...อีมนุษย์ทั้งหมด 200 กว่าคนนี้แหละ จะกระโดดตู้มลงน้ำไปโดยพร้อมเพรียงกัน



    "Poor, poor whale shark..." ชาร์มิลรำพึงรำพันก่อนที่จะอธิบายต่อว่าถ้าวิธีการนี้ไม่เวิร์ค เราไม่เจอน้องจุด ก็จะเปลี่ยนมาเป็นวิธีการที่สองคือสกูบ้า ดำบุ๋งๆเพื่อตามหา











    ซึ่งแผนนี้นั้นเราจะลงน้ำไปพร้อมกันหมด โดยมีไดฟ์หลีดว่ายอยู่ตรงที่ตื้น ตรงกลางๆ และลงไปลึกๆ พวกเราก็บุ๋งๆอยู่ตรงกลางไปเรื่อยๆ ไดฟ์หลีดจะคอยดูว่าเจอไหม ถ้าเจอก็ว่ายเข้าไป ระวังอย่าตัดหน้าน้อง ระวังหาง และอย่าแตะตัวน้องนะเออ เอาล่ะ ไปลงเรือได้ เฮ!












    ระหว่างที่เรานั่งเรือเพื่อออกไปตามหาน้องจุดนั้น ก็พบเห็นเรือข้างเคียงจำนวนมาก ทั้งเรือที่แล่นไปยังทิศทางเดียวกันกับเรือที่แล่นสวนกลับออกมา (แปลว่ายังไม่เจอ) เราก็แล่นไปเกือบชั่วโมงจนชาร์มิลบอกว่าให้เข้าชุดเลย เราจะลงไปดำตามหากันตามแผนที่สอง ข้ามสน็อกเกิลไปเลยจ้า




    พอลงไปใต้น้ำแล้ว สิ่งที่เรารู้สึกคือได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือแล่นผ่านไปผ่านมาตลอดเวลาและเสียงดังมากๆ ใจหนึ่งก็อยากเจอน้องจุดเป็นครั้งแรกในชีวิตนะ แต่พอเจอแบบนี้ก็รู้สึกว่าดีแล้วลูกเอ๊ยที่ไม่ได้โผล่มาแถวนี้ คิดดูว่าฉลามวาฬ 1:200 นี่มันเยอะมากเลยนะ สงสารอะ ยิ่งได้ยินเสียงเรือแบบนี้แล้วเรายังรู้สึกหนวกหูนิดๆเลย แล้วสัตว์ทะเลต่างๆนี่จะไม่รู้สึกรำคาญกันหรอว้า โดยเฉพาะสัตว์ที่สื่อสารผ่านคลื่นเสียงต่างๆอย่างวาฬกับโลมาจะไม่รู้สึกว่าถูกรบกวนเลยหรือ



    พอนึกถึงเรื่องนี้ก็หวนระลึกถึงบทความของ มูลนิธิโลกสีเขียว ที่เขียนเกี่ยวกับข่าว เมื่อสัตว์ในมหาสมุทรถูกคุกคามด้วยมลพิษทางเสียง และข่าว เสียงดังจากการเดินเรือทำแมวน้ำหูดัวชั่วคราวได้ จากเว็บไซต์ บีบีซี ไทย (ใช่ค่ะ ดิฉันผู้อ่านและอินในเรื่องราวเหล่านี้) แล้วก็สลดใจไม่น้อย


    ไดฟ์นี้เลยเป็นไดฟ์แห่งความคิดในหัวของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบของพฤติกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อระบบนิเวศต่างๆ จริงๆก็คิดอยู่ในทุกๆไดฟ์นั้นแหละ เพียงแต่ไดฟ์นี้คิดเยอะกว่าเดิมนิดนึงเพราะไม่มีอะไรให้ดู เตะขาตีฟินไปเรื่อยเจื้อย


    และความสนุกสนานอยู่ที่ตอนจบไดฟ์ ในระหว่างที่เรากำลังแล่นเรือกลับไปที่เรือใหญ่ก็ป๊ะกับฝูงโลมาที่จ๋อมแจ๋มผ่านมา ไอ้พวกเราก็เฮ้ยๆๆๆๆ โลมาาาาาาาา ก็หยุดเรือสังเกตการณ์กันนิดหน่อย และครูแมทก็คว้ากล้องกระโดดตู้มและพยายายามว่ายน้ำตามไปพร้อมกับเสียงเชียร์ของคนบนเรือ สุดท้ายก็ตามไม่ทันเพราะน้องไปไวมาก แถมต้องวนเรือไปรับอี๊กกกกก ขำมากกกกกก (ชาร์มิลบอกว่ามันกำลังโล้สำเภากันอยู่เน้อ พวกเราก็ไปขัดขวางความสวีทวี๊ดวี๊วของมันซะง้านนน)


    พอขึ้นมาบนเรือก็คุยๆกันว่ามัลดีฟส์นี่บทจะเจอตัวใหญ่ก็เจอกันตู้มต้าม โครมคราม ถล่มทลายแบบเทกระจาดมาก บทจะเงียบก็เงียบกริ๊บ ไม่มีวี่แววสัญญาณชีพใดๆ ว่าแล้วก็กดเปิดเน็ต เข้าเฟสบุ๊คตามประสา ปรากฎว่า... โอ้โหหหห น้องจุดว่ายหนีจากเราไปยังน่านน้ำราชอาณาจักรไทยจ้า เจอกันที่ชุมพรจ้า ไฝแห้งเลยกู ข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำม๊ายยยยยยย ไม่เจ๊ออออออออออออออ


















    Dive 13 - Kuda Rah Thila, S. Ari Atoll

    Depth: 30.8 m. | Time: 37 mins












    ชาร์มิลบอกว่าไดฟ์ไซต์นี้เป็นไดฟ์ไซต์ที่ทุกคนชอบมาก คนมาดำน้ำบุ๋งๆกันแถวนี้เยอะแยะ โดยเฉพาะนักดำน้ำเอเชียน (จริงๆคือพี่จีน) เพราะมีปลาข้างเหลืองอาศัยอยู่เยอะแยะเป็นฝูง งดงาม ตอนบรีฟนี่ก็มีความภาคภูมิใจมากจนเราเคลิ้มไปด้วยว่า เออ ลงไปมันก็คงสวยจริงๆแหละ อะไรที่ชาร์มิลบอกว่าดี เราก็ว่าดี อะ ลงก็ลงงงงงงง








    ตัดภาพมาที่ข้าพเจ้าผู้เมื่อหนึ่งเอาฮุคเกี่ยวหิน อีกมือหนึ่งจับหินอีกก้อนไว้เพื่อไม่ให้ตัวปลิวสไวไปกับสายน้ำ สายตาว่างเปล่าจ้องมองไปยังฝูงปลาข้างเหลืองเบื้องหน้าที่หน้าตาก็เหมือนที่เจอในเมืองไทย พร้อมกับเสียงในหัวที่ดังขึ้นว่า...






    นี่กูมาทำเชี่ยอะไรตรงนี้!!!!!!!







    ตัดภาพกลับไปตั้งแต่โดดลงน้ำก็ปลิวไป ตีฟินฝ่ากระแสน้ำจนหน้าสั่นตามชาร์มิลต้อยๆไปถึงจุดที่มีปลาข้างเหลืองว่ายน้ำทวนกระแสอยู่เหมือนกัน เขาก็หยิบกล้องออกมาถ่ายอย่างไม่ทุกข์ร้อนในขณะที่เราฮุคตัวเองอยู่กับหิน นั่งหอบหายใจ นึกขอบคุณตัวเองที่ลุกขึ้นมาวิ่งสามวันต่อสัปดาห์ตลอดระยะเวลาสี่เดือนที่ผ่านมาและกู่ร้องอยู่ในใจว่าหนูเป็นมนุษย์ หนูไม่ใช่ปลาแซลมอนที่ต้องว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อไปวางไข่ ใจเย็นก่อนเด้ออออ หนูมาทำอะไรที่นี่หรืออออออออ



    แล้วชาร์มิลก็ขยับ หันมาส่งสัญญาณว่าให้ว่ายตามมา เรานี่หันไปมองหน้าปลาข้างเหลืองเหมือนจะขอความเห็นใจ พวกเจ้าว่ายเกาะกลุ่มทำตัวชิดแนวปะการังก็ยังปลิวเลย แล้วข้าล่ะ ข้าต้องออกจากจุดนี้ไปจริงๆนะหรืออออออ เหนื่อยยยยยยย /ถึงฮุคออกแล้วตีขาตามเขาไป








    ที่เมืองไทยไม่มีให้เจอเล๊ยยย ไม่เคยพบไม่เคยเห็นนนนนน
    ถึงต้องฝ่าฝันมาถ่ายรูปเนี่ยยยย



















    ถ่ายได้ตอนกำลังปลิว
















    จังหวะนี้คือหลุดโค้งจ้า ทุกคนว่ายเข้าไปตรงนั้น แต่ข้าพเจ้าลอยละล่องไปตามน้ำ
    โปรดสังเกตฟองอากาศ คือสู้น้ำจนจินตการว่าตัวเองเป็นแซลมอนที่จะไปวางไข่แล้วอะ
    กล้ามเนื้อขานี่ตึงเชียวแหละคุณเอ๊ยยยย














    พอจบไดฟ์นี้แล้วก็ได้เวลาพักผ่อนหย่อนใจ เราตั้งใจว่าจะอาบน้ำ แต่งตัว แต่งหน้าสวยๆแล้วไปปาร์ตี้บาร์บีคิวงามๆบนเกาะแห่งหนึ่งที่เก็บค่าขึ้นเกาะ 5 ดอลล่าร์ แต่ด้วยความซุกซนที่อยากทำตัวเป็นนักผจญภัยไปสำรวจกันก่อน เรา พี่ส้ม พี่ออม พี่ปาล์ม พี่ยุ้ย พี่จง พี่ปุ๊ก และพี่ส้มโอ ก็รวมทีมเป็นกลุ่มผู้กล้าจัดแจงลงเรือ กะว่าจะไปอาบแดดนิดๆ ว่ายน้ำเล่นหน่อยๆ และถ่ายรูปเยอะๆ ฮาาาาา








    เหนื่อยจะตายแต่ก็ไม่วายซ่า
    เห็นน้ำสีฟ้าแล้วอยากลงไปว่ายอีก





























    ตัวเกาะก็เป็นเกาะเล็กๆ ไม่มีอะไรมาก มีโต๊ะเก้าอี้เตรียมพร้อมสำหรับปาร์ตี้ และมีเด็กเรือกำลังช่วยกันก่อทรายให้เป็นรูปฉลาม ดูทรงแล้วคิดว่าคืนนี้ต้องได้รูปสวยๆแน่นอน

























    น้องพลอยไงจะใครล่ะ









    ระหว่างที่เรากำลังถ่ายโฟโต้ชูตกันอยู่ด้วยความเฟียสนั้น ฝนก็เทลงมา เทลงมา เทลงมาเฉยเลยจ้า พวกเราคิดว่าจะกลับไปที่เรือใหญ่แต่ก็ติดต่อใครไม่ได้ เป็นทีมคนติดเกาะ โบกไม้โบกมือกระโดดหย็องแหยงด้วยความหวังว่าคนบนเรือจะเห็นเรา พยายามโทรไลน์หาคนบนเรือให้มารับหน่อยก็ไม่มีใครรับสาย จนสุดท้ายต้องวานให้คนที่กำลังก่อกองทรายอยู่นั้นติดต่อเรือใหญ่ให้หน่อย











    ทีมนักสำรวจติดเกาะ รอดแล้ว เย่!










    ท้ายที่สุดแล้ว ฝนก็ตกลงมาหนักมากจนขึ้นไปปาร์ตี้บนเกาะไม่ได้จ้า ฝนฟ้าคะนองกระจายเหลือเกิน ซึ่งในความโชคร้ายที่ไม่ได้ขึ้นเกาะก็เป็นความโชคดี เพราะคืนนี้เป็นคืนวันพุธและบุพเพสันนิวาสฉายเป็นตอนสุดท้ายพอดี๊ เลยตั้งเป็น #ทีมดูสดมัลดีฟส์ กัน เป็นแก๊งไดฟ์เวอร์ติดละครเด้อออออ























    ตั้งใจมาก โฟกัสมาก หวีดพี่โป๊ปมากกกกกกกกกกกก
















  • 12 April 2018





    Dive 14 - Dhigurah Beyru, S. Ari Atoll

    Depth: 29.7 m. | Time: 48 mins






    อรุณสวัสดิ์เช้าวันใหม่ด้วยการออกไปตามหาน้องจุดกันอีกครั้งก่อนที่เราจะบ๊ายบาย South Ari Atoll ไป ซึ่งก็ยังไม่เจอนะ ดวงมันยังไม่ถึง แต้มบุญมันยังไม่มี แต่ไดฟ์นี้ก็น่ารักดี เป็นการวอร์มร่างกายยามเช้าอีกแล้ว เฮ!





    เจอฉลาม 4 หน่วย Eagle Ray 2 หน่วย และคุณเต่า 1 หน่วยตามภาพจ้า
    เช้านี้ชิวๆ แฮปปี้ :)










    จบจากไดฟ์เราก็มุ่งหน้าแล่นเรือกลับไปยัง Vaavu Atoll ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจ้า





    แผนที่การเดินเรือก็ประมาณนี้จ้า















    Dive 15 - Kunaavashi Kandu, Vaavu Atoll

    Depth: 28.3 m. | Time: 45 mins







    หลังจากผ่านเสียงลมคำราม ฟ้าครามพลันมืดมัวกันมา 3 ชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึง Vaavu Atoll โดยสวัสดิภาพจ้ะ เย้เฮ












    ไดฟ์ไซต์นี้มีสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจคือปลานโปเลียนจำนวนมาก ที่... เราเจอหนึ่งตัวแบบไกลที่กล้องเราถ่ายไม่ได้ และกระแสน้ำแรงมาก สนุกสนานอีกแล้ว ได้ฝึกสกิลการฮุคตัวเองกับหินอีกแล้วเด้อค่ะ
























    ถ่ายปลานโปเลียนไม่ได้ เอาเจ้านี่ไปดูก่อนนะ ฮาาา














    น้องพลอยและพี่จง

    เรายังคงกลัวการฮุคอยู่ ไม่กล้าเติมลมใส่ BCD แล้วปล่อยตัวเองลอยไปมา
    กลัวว่าจะฮุคจะหลุดปลิวตลอดเวลาเลยต้องจับหินไว้ด้วยความหวาดระแวงใจ






    ความพีคคือบรีฟกันไว้ว่า NDL มากสุดคือ 4 นาทีแล้วต้องไต่ระดับขึ้นมาตื้นตรงที่ขึ้น แล้วมันก็มีจังหวะหนึ่งที่ชาร์มิลหันไปถามพี่อ้อมหรือพี่ปาล์มก็ไม่แน่ใจว่าไดฟ์คอมเหลือเวลาเท่าไร พี่เขาก็บอกว่าเหลือ 5 นาที เขาก็โอเคๆ หันมาถามเราว่ายูเหลือเท่าไร ก็ชูนิ้วตอบไปว่า 4 แล้วจ้า นางก็บอกว่า 3 นาทีคอยมูฟ โอ้ย อย่างงี้ก็ได้หรอยู๊ววววววววว


    และตอนจบไดฟ์ที่กำลังทำ Safety Stop ก็เกิดเรื่องสนุกสนานเพราะพี่จงใช้อากาศเยอะ ถังเบาก็เลยลอย ชาร์มิลก็จับเชือกฮุคพี่จงไว้ ส่วนเราผู้กำลังทำตัวนิ่งๆหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ ก้มหน้าก้มตาดูไดฟ์คอมตัวเองอยู่ก็ลอยตุ๊บป่องไปป๊ะกัน ชาร์มิลเลยยื่นเชือกที่จับพี่จงไว้มาให้เขาเพราะจะแกะซอสเซจมายิงเพื่อบอกเรือว่าจะขึ้นกันแล้วนะจ๊ะ


    เราก็ฉิบหายกู๊แล้วอยู่ในใจ เพราะรู้ว่าถ้ารับนี่น่าจะลอยไปด้วยกันอย่างแน่แท้ แต่พอเขายืนเชือกมาให้ก็รับเพราะจุดนั้นให้ฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกไม่รับเชือกไปได้รึเปล่า พอชาร์มิลปล่อยเชือกเท่านั้นแหละ ภาพตอนนั้นก็ท่าเดียวกันกับ Mary Poppins อะ






    ในหัวคือภาพนี้ และเราก็ลอยหวือไป พี่จงก็พยายามเตะขาลงมา เราก็พยายามเอาต้วเองลงมา ชุลมุนมากกกก สุดท้ายได้พี่ส้มมาดึงปลายฟินเราไว้แล้วก็พากันบุ๋งๆลงมาที่ห้าเมตร เราก็ส่งพี่จงต่อให้พี่ส้มแล้วก็ว่ายหนีออกจากวงไป ฮา ขึ้นมาบนเรือก็ขำกันใหญ่แบบโอ้ยย ตลกกกกกก















    Dive 16 - Alimatha Jetty, Vaavu Atoll

    Depth: 15.9 m. | Time: 52 mins







    ไนท์ไดฟ์ที่สองของทริปนี้กับการมาเยี่ยมเยือนบ้านของ Nurse Shark หรือ ฉลามกบ กันจ้า ชาร์มิลบอกว่าชาวมัลดีฟส์นั้นคุ้นเคยกับฉลามชนิดนี้เป็นอย่างดี สนิทกันเหลือเกินจนเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงเลยก็ว่าได้ เขาว่ามันเหมือนลูกหมาน่ารักเชื่องๆ เอ้อ! อย่างนี้ก็ได้หรอ


    ชาร์มิลอธิบายเพิ่มเติมว่าไดฟ์ไซต์นี้มันดัง เพราะคนแห่แหนมาดูฉลามกบกันมากมาย เพราะฉะนั้นจะดำลงไปพร้อมกันเป็นหมู่คณะ และมีจุดลงน้ำ-ขึ้นจากน้ำชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ชนกับเรือได้จ้ะ และตอนลงไปอย่าเพิ่งแตกตื่นถ่ายรูป ขอให้ลงไปถึงจุดที่กำหนดก่อนแล้วค่อยหยิบกล้องมาถ่ายกันได้อย่างสบายใจ และขอความกรุณาว่าอย่าไปว่ายไล่กับฉลาม อย่าจับ เพราะถ้าเราอยู่เฉยๆอย่างเป็นมิตร ฉลามทั้งหลายก็จะเข้ามาเล่นกับเราเองจ้ะ








    เมื่อตะวันใกล้ลับขอบฟ้า เราก็เข้าชุดโดดลงน้ำแล้วก็บุ๋งๆลงไปพบกับ....






    น้องฉลามกบบบบบบบบบ จำนวนมหาศาลลลลลลลลลล
    ขออภัยภาพไม่ชัด คือเราถ่ายคลิปมาแล้วมันมืดมากกกกกกกก
    ต้องปรับนี่นั่นนู่นโน่นเยอะแยะ













    ความว่ายผ่านหน้า ผ่านหัว ผ่านตัว นัวเนียไปมารอบๆ โอ้ย ดี๊
















    น้องมาอ้อยอิ่งนอนอยู่ข้างๆ น้องเหมือนลูกหมาโกลเด้นเลย รักกกกกก
    อย่างที่ชาร์มิลบอก อยู่เฉยๆน้องก็เข้ามานอนข้างๆเอง

    หากอยากดูภาพสวยๆ สามารถไปดูได้ในเพจ LET's dive Thailand นะจ๊ะ








    ถ้าเงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนจะเห็นเป็นฝูงฉลามว่ายวนไปวนมาตลอดเวลา มี Stringrays วนเวียนอยู่จำนวนหนึ่งด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงชีวิตที่รู้สึกแฮปปี้ เกิดมามองโลกคุ้มค่าแล้ว มีฉลามมานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างๆเนี่ย สุดย๊อดดดดดดดดดดดดดด




    ตอนที่ทำ safety stop ก็มีเรื่องฮาๆเกิดขึ้น คือนับตั้งแต่ไดฟ์ที่โดนฟินโบกเข้าหน้าไป ชาร์มิลเดอะไดฟ์หลีดจะมีความเป็นห่วงเป็นใยในชีวิตของข้าพเจ้ามาก หันมาเช็คตลอดว่าโดนใครสอยร่วงไปรึเปล่า ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราก็บุ๋งๆตามเขามาเรื่อยเจื้อยจนถึงเนินทรายที่มีหินนิดหน่อย เป็นจุดที่เราจะทำ safety stop กัน


    ชาร์มิลก็ว่ายป้าบๆไปที่หินใหญ่ๆก้อนหนึ่งแล้วส่งสัญญาณว่าให้อยู่กันตรงนี้นะ แล้วก็เรียกให้ไปเกาะหินอันนั้น ซึ่งหลีดว่าอะไร อิฉันก็ว่าตาม กำลังจะพุ่งตัวไปเกาะตรงนั้น ปรากฎว่าพี่ออมดึงฟินจ้า แล้วส่องไฟไปตรงจุดที่ข้าพเจ้าจะบุ๋งไป ปรากฎว่ามีเงาอะไรวูบไหวอยู่ลิบๆ โป๊ะเช๊ะ นั่นคือปลาสิงโต โอ้ เกือบไปแล้วววววววววววว






















  • 13 April 2018





    Dive 17 - Miyaru Kandu, Vaavu Atoll

    Depth: 28.6 m. | Time: 46 mins





    วันนี้เป็นวันสงกรานต์ ไดฟ์เวอร์ชาวบ้านเบิกบานจิตใจจริงเอยยยยยย เช้านี้ชาร์มิลดีดเป็นพิเศษ พูดว่า Happy Songkran วนไปวนมาประมาณแปดรอบด้วยความร่าเริงเถลิงศกใหม่ (อาจจะดีใจว่านี่คือวันสุดท้ายกับคนพวกนี้แล้วก็เป็นได้) เช้านี้เรายังอยูกันที่ Vaavu Atoll กับไดฟ์ไซต์ที่มีชื่อว่า Miyaru Kandu ซึ่ง Miyaru แปลว่า ฉลาม นั่นเองจ้ะ












    สารภาพจากใจจริงว่าพอถึงวันสุดท้ายมันก็ชักจะเริ่มเนือยๆ อยากกินไมโลอุ่นๆ มองแสงพระอาทิตย์ยามเช้า พักผ่อนหย่อนใจกับเขาบ้าง แต่  เราไม่ได้มาดำน้ำที่มัลดีฟส์ทุกวัน เออ ไป ลงเว้ย!




    ซึ่ง...พอได้ใช้โควทนี้ทีไร ไดฟ์นั้นต้องโดนน้ำพัดจนตัวปลิวทู้กกกกกกกกทีเลยให้ตายเถ๊อะ เราได้พบเห็นฉลามอะไรก็ไม่รู้สองหน่วยแบบระยะไกล เต่าหนึ่งหน่วยแบบระยะไกล ใช้เวลาทั้งหมดทั้งมวลล่องลอยไปตามน้ำ ถือว่าได้มาทำกายบริหารยามเช้าก่อนกินข้าว






    เราบ๊ายบายเกาะนี้แล้วแล่นเรือมุ่งหน้ากลับไปยัง South Male ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจ้า ระหว่างทางก็เจอกับพายุจ้า เรือโคลงมาก ต้องจับจานชามช้อนส้อมไว้แน่นๆระหว่างกินข้าว







    เหมือนอยู่ในหนังเลย สนุกมากกกกก (ควรจะกลัวป่ะวะ)
    เป็นความรู้สึกอันคุ้นชินเวลาเครื่องบินเจอกับสภาพอากาศแปรปรวน ชอบบบบ
    แต่ก็นึกไว้เสมอว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา จะต้องวิ่งไปเอาอุปกรณ์ชูชีพตรงไหนบ้าง








    ระหว่างที่เรือโคลงไป เคลงมา สายฝนพัดกระหน่ำจนมองไม่เห็นอะไรเลยอยู่ด้านนอก เราก็นั่งๆนอนๆดูทีวี นั่งดู LOTR ไปหลับไป กินไปเรื่อยๆ จนมาถึง South Male เพื่อมาดำไดฟ์สุดท้าย ปิดจ๊อบบบบบ













    Dive 18 - Kandooma Thila, S. Male Atoll
    Depth: 30.5 m. | Time: 37 mins





    ไดฟ์นี้เป็นไดฟ์ที่คิดว่าลงดี ไม่ลงดีว้าาา เพราะพรุ่งนี้ต้องนั่งเครื่องกลับตอน 11 โมง แล้วเวลาพักน้ำมันไม่ถึง 24 ชั่วโมง (จริงๆมันปริ่มๆ 18 ชั่วโมงแหละ แต่อยากเอาแบบเซฟๆ) แต่ก็ตัดสินใจว่าเอาวะ ไดฟ์สุดท้ายแล้วอะ ทิ้งทวนหน่อยโว้ยยยย แถมชาร์มิลก็บอกว่าตรงนี้ปะการังอ่อนน่ารักงดงาม ไป มันต้องดำให้ครบ 18 ไดฟ์สิวะ ไปสู้!


    เราก็ไปคุยๆกับครูแมทเพื่อความชัวร์ว่าเราลงได้ใช่ไหมหนา ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้อยู่ลึกไม่เกิน 25 เมตร ตื้นๆกว่าคนอื่นหน่อย เราก็ไปบอกชาร์มิลว่าวันนี้ไออยู่สูงหน่อยนะ เพราะมีไฟล์ทบินเร็วกว่าคนอื่นเขา แล้วก็คุยกับพี่ยุ้ย บัดดี้ของเราว่าวันนี้หนูอยู่ที่ประมาณนี้นะคะพี่






    พี่ยุ้ยผู้น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่ทุกอย่างเข้าชุดเป็นสีมิ้นต์ไปหมด :)










    พอก่อนลงน้ำก็ได้รับข้อมูลมาว่าน้ำแรงมากเลยนะจ๊ะ โอ้โห ทิ้งท้ายกันแบบนี้เลยหรือนี่ เหนื่อยชัวร์​ แถมต้องลงแบบ Negative Entry ไปอี๊กกกกกกกก ซึ่งช่วงแรกๆก็โอเค กระแสมาหน่อยๆ ตีฟินไปซักพักก็เริ่มเอ๊ะ ทำไมกระแสเชี่ยวกราดขนาดนี้ แถมเป็นกระแสน้ำที่กดเราลงให้จมด้วยจ้า ต้องหมั่นเติมลมเข้า BCD


    ถ้ากดดูไดฟ์คอมจะพบกับความพังพินาศมากๆ เช่น อยู่กันที่ 20 เมตรสวยๆ นาทีต่อมาคือวูบบบบบลงไป 27 เมตรแบบไม่รู้ตัวจนไปแตะที่ 30.5 เมตร (ไหนใครบอกว่าจะอยู่ข้างบนๆ สวยๆ โอ้โหหหห ไหลไปตามน้ำสุด) ต้องตีฟินสู้น้ำตลอดเวลา หน้าสั่นนนนนนนนนนนนนเลยทีเดียว


    มีช่วงพักเบรกให้หายใจหายคออยู่บ้างก็ตอนที่เราขึ้นไปอยู่บนกองหิน คือมันเป็นเพลตหินเรียบๆ และก็มีปะการังน้อยใหญ่อยู่เต็มไปหมด ตอนนั้นคือลอยตามน้ำที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นชะโงกทัวร์แบบ hop on hop off bus แต่นี่ลงไปเยี่ยมชมอะไรไม่ได้เลย ไหลได้อย่างเดียว อ่าาาา อีเกิ้ลเรย์ที่สามนาฬิกา (ทุกคนหันไปมองตามที่ชาร์มิลชี้ แล้วก็ฟิวววววผ่านไป) นั่นเต่ากำลังเล็มฟองน้ำ (ฟิววววววผ่านไปไม่ได้ถ่ายรูป) นั่นฉลามอยู่ตรงโน้นนนนน (ฟิววววววววลอยละล่องผ่านไปด้วยความไว)



    บอกเลยว่าทั้งหมดทั้งมวลที่ดำมาทั้งหมด 18 ไดฟ์ เนี่ยยยย รอบเนี๊ยยยยย เหนื่อยที่สุดแล้ว ใช้อากาศเยอะมากจนท้ายไดฟ์เหลืออากาศอยู่ 60 บาร์ ไม่เคยเหลือน้อยขนาดนี้มาก๊อนนนน






    เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องถ่ายรูปเด้อ สังเกตว่าเกาะมือกันไว้อย่างเหนียวแน่น


















    งานเซลฟี่ต้องมี



















    จบแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาา
    18 ไดฟ์ในมัลดีฟส์ วู้ววววววววววว!!
















    งดงามมมม




















  • เที่ยวมัลดีฟส์แบบฉบับคนเมาบก



    ไหนๆก็มาแล้ว ครั้นจะอยู่แต่ในน้ำก็ไม่ได้ ของฝากต้องมี ที่ติดตู้เย็นก็ต้องซื้อหา เย็นวันนี้เราก็เลยเดินต๊อกแต๊กขึ้นบกมาเดินเล่นในเมือง Male กันจ้ะ (ที่ชาร์มิลบอกว่าอยู่ในทะเลยังอันตรายน้อยกว่าอยู่บนบกอีกนะพวกยูววววว)





    มาลงเรือเล็กและไปที่ท่าน้ำกันจ้ะ
    ฟ้าครึ้มเมฆต่ำมาก ทุกอย่างที่ตากไว้ไม่น่าจะแห้ง 5555















    ตรงท่าเรือก็มีเรือเล็กๆจอดอยู่เยอะมาก







    ตรงจุดนี้เรานึกว่าตัวเองเป็นก้อนหนมปังตกลงไปอยู่ในดงปลาสวายหลังวัดที่มีป้ายเขียนว่าเขตอภัยทาน เพราะตั้งแต่ลงจากเรือมาปุ๊บก็มีกลุ่มคนท้องถิ่นเข้ามาชาร์จ ยืนนามบัตรร้านขายของฝาก นามบัตรรถนำเที่ยวอะไรก็ไม่รู้เต็มมมมมมไปหมด  จากที่เมาบกอยู่แล้วเพราะคุ้นชินกับชีวิตบนเรือ พอมาเจอเหล่าพี่ๆลุงๆที่ตามตื้อไม่หยุดนี่มันยิ่งมึนเข้าไปใหญ่ ทำได้แค่สบตานักท่องเที่ยวท่าทางเด๋อๆกลุ่มอื่นๆที่เดินวนไปมา ทุกคนตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับหมดและต่างพยายามหลีกหนีไปให้ไกลจากจุดนั้น









    เออ ขอเตือนสาวๆนิดนึงว่ามัลดีฟส์เป็นประเทศมุสลิมนะจ๊ะ
    ถ้ามีเหตุต้องขึ้นบกเข้าเมือง ไม่ได้อยู่ในรีสอร์ท
    โปรดแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยด้วยเน้อ

    อย่าพลาดแบบเราที่เป็นผู้สาวขาเลาะ ใส่กางเกงขาสั้นด้วยความเคยชิน
    เลยต้องเสียเงินซื้อกางเกงเปลี่ยนเพราะรู้สึกว่าคนมอง แฮ่















    ใครจักขับรถ ขับ! ใครจักข้ามถนน ข้าม!
    (และเหล่าพี่ๆลุงๆนั้นก็ตามติดไปทุกที่ประหนึ่งอยู่ในหนัง Insidious)















    เดินมาจนสุดท่าเรือจะเจอกับตลาดสดจ้ะ

















    อร่ามมาก อยากซื้อกลับบ้าน













    จากนั้นเราก็เข้าออกร้านขายของฝาก ของที่ระลึกหลากหลายเพื่อค้นหาร้านที่ราคาดีที่สุด (โดยไม่สนใจเหล่าลุงๆพี่ๆแขกที่ยังคงตามติดอย่างต่อเนื่อง) ก็ได้ที่ติดตู้เย็นกับกางเกงเลขายาวมาเปลี่ยนเพื่อความสุภาพเรียบร้อย และก็กูเกิลหาร้านกาแฟนั่งชิว ก็ไปพบกับร้านนี้จ้ะ









    ตัวร้านเป็นคาเฟ่ outdoor บรรยากาศร่มรื่นเพราะมีแมกไม้นานาพันธุ์ ข้อเดียวที่ไม่ดีคือแคชเชียร์เหวี่ยงมากเหลือเกิน กลัวแล้วจ้าาาาาา











    รสชาติก็โอเคดี กุ๊กกิ๊ก เหมาะแก่การหลบจากความวุ่นวายภายนอก














































  • จบแล้วจ้ะ

    กับทริป #LDTinMaldives2018 ที่ลัดฟ้ามาดำน้ำกันที่มัลดีฟส์
    กับเรือ MV Ocean Sapphire ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานตลอด 8 วัน 7 คืน






    สุดท้ายนี้

    ขอขอบคุณ



    ครูแมท พี่โจ พี่เอ็ม แนค
    พี่ส้ม พี่ปาล์ม พี่ออม พี่ยุ้ย พี่จง
    พี่แคช พี่เฟรน พี่กบ พี่นก พี่ไวน์ พี่หวานเดอะรูมเมท พี่ผึ้ง
    พี่ณเอก พี่ฝน พี่ปุ๊ก พี่นิช พี่ออ พี่หนิง พี่ส้มโอ


    สำหรับเสียงหัวเราะและความทรงจำที่แสนสนุก
    ตลอดจนยาแก้แพ้ ครีมแก้คัน น้ำพริก น้ำปลา ส้มตำ
    ชาเย็น และ บ๊วยคืนชีพ




    ไว้พบกันใหม่ทริปหน้านะค้าาาาาาาา





    ด้วยรักและอยากไป Deep South แล้วเด้อออออ








    ตามไปอ่านบันทึกการเดินทางอื่นๆได้ที่..
    .www.facebook.com/withlovefromthedesert
    IG: Ployapha.j
    #ด้วยรักจากทะเลทราย
    #withlovefromthedesert





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Som Phimphahu (@fb1021461201935)
โอ้ยร้ากกกก คิดถึงมาก เจอกัน Deep South นะคะน้องพลอย