22 พ.ค. 2566
เวลา 07.00-08.00
ผมเดินทางมาที่โรงเรียนบ้านครัว(ซิเมนต์ไทยสงเคราะห์) โดยคุณปู่และคุณย่าของผมได้ขับรถมาส่งให้ ผมได้เจอกับคุณครูพี่เลี้ยงคือ คุณครูธนชาติ และคุณครูปภินพิทย์ หรือคุณครูอ้อยซึ่งเป็นเพื่อนของคุณพ่อของผม และได้อธิบายเรื่องการทำงานในแต่ละวันจะมีอะไรบ้าง โดยคุณครูธนชาติได้พาดูห้องสมุดว่างานที่ผมจะได้ทำมีอะไรบ้าง และต้องทำอย่างไรเวลา 08.30-09.30 ผมเริ่มการทำงานแรก นั่นคือ การทำความสะอาดและการจัดระเบียบห้องสมุดแบบผิวเผินก่อน ด้วยสภาพห้องสมุดของโรงเรียนรัฐบาลในชนบทที่ค่อนข้างเล็กมากและเต็มไปด้วยฝุ่น และสภาพหนังสือให้ห้องที่กระจัดกระจายมากพอสมควร ผมเลยคิดว่าจะค่อยๆ ทำไปทีละส่วนในแต่ละวันแทน เพราะน่าจะง่ายกว่าและเหนื่อยน้อยกว่าการทำรวดเดียวทั้งหมด จนกระทั่งคุณครูธนชาติได้ให้งานผมในการสอนวิชาการอ่านในคาบถัดไปของเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้ผม ผมจึงเริ่มเตรียมตัวสำหรับการฝึกสอนนักเรียนในคาบถัดไป
เวลา 09.30-10.30
ผมได้เริ่มฝึกสอนในวิชาการอ่านให้กับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีมี่ 5 เรื่องที่นำมาสอนก็คือพื้นฐานของการอ่าน เช่น การอ่านตีความ การวิเคราะห์วิจารณ์ องค์ประกอบและจุดมุ่งหมาของการอ่าน ซึ่งการสอนของผมก็ยังไม่ค่อยดีสักเท่าไรนัก เนื่องจากงานการสอนมากระชั้นชิดเกินไปเล็กน้อย และเป็นวันแรกของการฝึกงานจึงไม่ได้เตรียมการเรื่องการสอนเด็กนักเรียนเอาไว้ เมื่อสอนเสร็จแล้ว ครูธนชาติแนะนำให้งานกับน้องๆ นักเรียนชั้นป.5 ผมจึงมอบงานให้น้องๆ เป็นการเล่นนิทานคู่ละ 2-3 นาที ให้กับคนทั้งห้องฟัง ซึ่งก็ราบรื่นไปได้ด้วยดี หลังหมดคาบเรียนแล้ว ครูธนชาติแนะนำว่าคาบหลังจากนี้ให้เตรียมแบบฝึกหัดมาให้กับพวกเขาด้วยก็ได้เพื่อช่วยในการสอน ซึ่งคาบวิชาการอ่านจะมี วันจันทร์คาบที่ 2 และวันศุกร์คาบที่ 2,6 ผมเลยคิดว่าหลังจากวันนี้จะได้เตรียมแบบฝึกให้กับน้องๆ เอาไว้ให้พร้อมจะดีกว่า
เวลา 10.30-11.30
ผมกลับมาอยู่ห้องสมุดอีกครั้ง ทำหน้าที่เฝ้าและดูแลความเรียบร้อยของห้องสมุดไปก่อนจะถึงช่วงพักกลางวัน ในห้องเงียบมากๆ แต่ห้องเรียนข้างๆ ยังมีน้องๆ นักเรียนอยู่จึงค่อนข้างสบายใจ ผมจึงหาอะไรทำไปก่อนที่จะได้รับงานต่อไปหลังจากนี้
เวลา 11.30-12.30
ช่วงพักกลางวัน ผมกับครูธนชาติไปนั่งทานอาหารร่วมกัน พูดคุยกันเล็กน้อยในเรื่องต่างๆ ก่อนที่ผมจะกลับมาที่ห้องสมุดอีกครั้งและนั่งเช็คของต่างๆ ภายในห้องและหาอะไรทำไปก่อนที่จะได้รับงานถัดไป
เวลา 12.30-15.30
ผมยังคงนั่งอยู่ที่ห้องสมุดเช่นเดิม เนื่องจากวันแรกยังไม่มีงานอะไรให้ทำมากนัก ครูธนชาติเลยให้ผมนั่งอยู่ที่ห้องสมุดและจัดระเบียบและทำความสะอาดไปพรางๆ ก่อน หลังจากนั้นจะทำงานหรืออะไรก็ได้ตามสบายเลย ผมที่เช็คระเบียบกับความสะอาดแบบคร่าวๆ ไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร ผมจึงมานั่งเขียนไดอารี่ของวันนี้และหาอะไรทำในไอแพตของผมไปเรื่อยเปื่อย พอเบื่อๆ ก็ลุกขึ้นไปเช็ครอบๆ ห้องสมุดอีกครั้ง ผลัดไปผลัดมาอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเวลา 15.30 น. เป็นเวลาปล่อยนักเรียน ผมจึงกลับบ้านช่วงเวลาเดียวกัน
23 พ.ค. 2566
เวลา 07.00-08.30
วันนี้ผมเดินทางมาถึงที่โรงเรียนช้ากว่าเมื่อวาน เด็กนักเรียนเตรียมเข้าแถวเป็นที่เรียบร้อย ครูธนชาติบอกกับผมไว้ก่อนผมจะกลับเมื่อวานนี้ว่าถ้ามาถึงแล้วให้เข้ามาที่ห้องสมุดเลย ผมจึงเดินมาที่ห้องสมุด ทำการจัดระเบียบหนังสือไปพรางๆ และกวาดพื้นทำความสะอาดรอบๆ ห้องสมุดจนกระทั่งจะเริ่มคาบเรียนแรกของเด็กนักเรียน ครูธนชาติมาถึงที่ห้องและกำลังมอบหมายงานให้ผมทำการเปลี่ยนเอากระดาษบอร์ดอันเก่าออก เพื่อจะได้จัดบอร์ดให้ดูใหม่ขึ้น
เวลา 08.30-11.30
ผมได้รับงาน คือ ทำการเอากระดาษบอร์ดอันเก่าออก เพื่อจะเปลี่ยนใหม่ภายหลัง ครูธนชาติได้นำม้วนกระดาษหลายสีหลายแบบมาให้กับผมและบอกว่าออกแบบได้ตามสบาย ผมที่ในหัวก็ไม่ได้มีไอเดียอะไรเก๋ก็เลยตัดตามที่แบบเก่าเคยทำเอาไว้ไปเรื่อยๆ ทำไปสักพักก็ถึงช่วงพักกลางวัน
เวลา 11.30-13.30
ผมพักกลางวันอยู่ที่ห้องสมุด ทานข้าวที่ใส่กล่องเตรียมมาจากที่บ้าน ทันใดนั้นครูธนชาติได้มาชวนผมให้ไปพบกับคุณครูอ้อยว่าให้ไปหาแกบ้าง และจะได้ออกไปยืดเส้นยืดสายด้วย หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็เดินตามไป ผมเจอและพูดคุยกับครูอ้อยเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้มีอะไรมากมายก่อนจะแยกกัน ผมกลับมาที่ห้องและทำการจัดบอร์ดต่อจนเสร็จช่วงแรก แต่ครูธนชาติบอกว่าทำแค่นี้ไปก่อน และให้ผมทำอะไรอย่างอื่นรอต่อไป
เวลา 13.30-15.30
ผมนั่งอยู่ที่ห้องสมุดเช่นเดิม เดินจัดระเบียบและทำความสะอาดคร่าวๆ เป็นช่วงๆ แต่ว่าช่วงหนึ่งก็ได้มีกลุ่มน้องๆ ชุดพละที่เรียนอยู่ที่ห้องข้างๆ ห้องสมุดได้เดินเข้ามา พวกเขาขอยืมหนังสือพจนานุกรมภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้ในการเรียน ซึ่งสำหรับผมก็เป็นอะไรที่ปกติและแปลกดี เพราะตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาฝึกงานนั้นแทบไม่มีเด็กนักเรียนเข้ามาที่ห้องสมุดนอกจากกลุ่มเด็กนักเรียนที่ช่วยงานครูธนชาติที่จะเข้ามาช่วง 15.00 เพื่อมาช่วยผมปิดห้องสมุด
เวลา 15.30-15.40
หลังจากที่ผมกับน้องๆ ที่เข้ามาช่วยผมปิดห้องสมุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินลงมาที่บริเวณหน้าห้องธุรการ ผู้อำนวยการเรียกตัวผมให้ไปพูดคุยด้วยที่ห้องบริหาร ท่านผู้อำนวยการสอบถามว่างานทั้งสองวันที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ผมจึงบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร ท่านกล่าวต่อว่าห้องสมุดที่โรงเรียนนี้เด็กๆ แทบจะไม่เข้าห้องสมุดเป็นปกติอยู่แล้ว อาจจะไม่มีอะไรให้ทำมากนัก แต่ครูธนชาติก็จะมีงานให้ทำอยู่ตลอดก็สามารถทำได้ ผมตอบตกลงและไม่มีปัญหาอะไรใดๆ แล้วพวกเขาก็พูดคุยกันในเรื่องต่างๆ จนกระทั่งแยกย้าย ผมก็เดินทางกลับบ้าน
24 พ.ค. 2566
เวลา 07.00-08.30
วันนี้ผมเดินทางมาถึงที่โรงเรียนได้ทันเวลาก่อนเข้าแถว ผมไหว้ครูธนชาติที่มาทำหน้าที่ครูที่ยืนประจำหน้าประตูทางเข้าในวันนี้ ก่อนจะพูดคุยเล็กน้อยและผมก็เดินตรงมาที่ห้องสมุด ระหว่างที่เข้ามาที่ห้องสมุดแล้วนั้นผมก็จัดระเบียบต่างๆ บางส่วนของห้องสมุดใหม่เล็กน้อย เพราะหนังสือบางเล่มและอุปกรณ์บางอย่างนั้นถูกวางไว้ที่ตำแหน่งแปลกๆ ผมก็เลยเปลี่ยนตำแหน่งที่วางใหม่ ก่อนจะทำความสะอาดต่อไป จนกระทั่งเด็กนักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จเรียบร้อยก่อนเข้าเรียนในคาบแรกต่อไป
เวลา 08.30-11.30
ผมนั่งที่ห้องสมุด คอยหันเช็คดูรอบๆ ห้องสมุดแล้วลองเดินดูรอบๆ ไปด้วยอีกทีเพื่อความแน่ใจว่าจะมีฝุ่นหรืออะไรที่เข้ามาอีกหรือเปล่า เสร็จแล้วก็กลับมานั่งที่เดิมและหาอะไรทำไปพรางๆ แก้เบื่อ ไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงพักกลางวัน
เวลา 11.30-12.30
ช่วงพักกลางวัน ผมนั่งทานข้าวจากข้าวกล่องที่เตรียมมาด้วยอยู่ในห้องสมุดเหมือนกับเมื่อวาน สักพักครูธนชาติก็เดินมาสอบถามเรื่อยเปื่อย ก่อนจะมอบหมายงานให้ผมทำสมุดเซ็นสำหรับยืม/คืนหนังสือไว้สำหรับเป็นหลักฐาน ผมก็ตอบตกลงและเตรียมที่จะออกแบบหลังจากนั้น
เวลา 12.30-15.30
ผมกำลังทำสมุดยืมคืนหนังสือให้กับห้องสมุด ซึ่งก็ใช้เวลาไม่มากก่อนจะทำเสร็จ และผมก็หาอะไรทำต่อไป ทั้งระเบียบห้องและทำความสะอาดจุดต่าง หรือหาอะไรทำในไอแพตของผมอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งถึงคาบสุดท้าย ผมก็ทำการปิดห้องสมุดให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจะเตรียมกลับบ้าน ผมเดินไปสอบถามกับครูธนชาติว่าตัวสมุดยืมคืนจะให้ผมปริ๊นมาให้ก่อนเลยหรือเปล่า เจ้าตัวบอกว่าได้เลย เดี๋ยวเอาตัวเล่มที่ผมทำเสร็จไปถ่ายเอกสารเพิ่มเติมได้
25 พ.ค. 2566
เวลา 07.00-08.30
วันนี้ผมมาถึงเวลาเดียวกับเมื่อวาน ก็ยังคงทำรูทีนเดิมจากที่เป็นมาเมื่อวันก่อนๆ และก็ได้เตรียมตัวสมุดบันทึกการยืมคืนหนังสือในห้องสมุดมาเรียบร้อยแล้ว ผมจึงวางมันไว้ข้างๆ ตัวผมบนโต๊ะประจำห้องสมุด และก็นั่งรองานที่จะได้ในวันนี่ต่อไปที่ห้องสมุดเช่นเดิม
เวลา 08.30-11.30
ผมได้รับงานจากครูธนชาติให้ทำปกสำหรับสมุดเซ็นยืมคืนหนังสือประจำห้องสมุดเอาไว้ และเดี๋ยวค่อยนำไปถ่ายเอกสารในภายหลัง ผมได้นั่งทำมันอยู่ไม่นานนักก็เสร็จเรียบร้อย ก่อนที่จะนั่งหาอะไรทำตามรูทีนเดิมต่อไป
เวลา 11.30-12.30
ผมทานข้าวอยู่ที่ห้องสมุดเช่นเดิม ครูธนชาติเดินมาสอบถามว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้างและงานปกทำได้ประมาณไหนแล้ว ผมบอกไปว่าวันนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร และงานปกก็เสร็จแล้วแต่จะของเช็คเพิ่มอีกหน่อย ครูธนชาติแจ้งเพิ่มอีกว่าจะให้ทำงานบอร์ดอันใหม่เป็นธีมพระราชินีแทน ผมตอบตกลงว่าทำได้ และเขาแจ้งมห้เพิ่มเติมอีกว่าวันจันทร์เขามีประชุม ไม่ต้องเข้ามาที่โรงเรียนก็ได้ ผมรับทราบก่อนที่จะแยกย้ายกัน ผมก็ยังคงอยู่ที่ห้องสมุดเช่นเดิม
เวลา 12.30-15.30
ผมใช้เวลาทั้งหมดไปกับการแก้ปกสมุดไปพอสมควร จริงๆ ต้องบอกว่าใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5 นาทีไปกับการแก้ปกสมุด และเวลาที่เหลือก็ใช้ไปกับการทำรูทีนเดิม จัดระเบียบหนังสือบ้าง ทำความสะอาดบ้าง ให้อะไรทำแก้เบื่อบ้าง ไปเรื่อยๆ จนหมดกระทั่งหมดคาบเรียนสุดท้ายก่อนจะกลับบ้าน
26 พ.ค. 2566
เวลา 07.00-08.30
วันนี้ผมมาถึงที่โรงเรียนเวลาเดิม ผมได้พูดคุยกับคุณครูคนหนึ่งที่ประจำหน้าประตูโรงเรียนในวันนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียนที่มหาวิทยาลัยของผมเป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องการฝึกงานที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะแยกแยะกัน ผมเดินตรงมาที่ห้องสมุดเช่นเดิม แล้วก็ทำงานตามรูทีนเดิมๆ ตามวันที่ผ่านๆ มา แล้วก็ส่งตัวงานสมุดยืมคืนหนังสือห้องสมุดให้ครูธนชาติตรวจ เขาบอกว่าแค่นี้ก็ได้แล้วไม่ต้องทำอะไรมากมาย และเดี๋ยวเขาจะนำไปเย็บเล่มอีกทีหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเดินลงไปประจำการที่หน้าเสาธง ผมก็ยังอยู่ที่ห้องสมุดดั่งเดิม
เวลา 08.30-12.30
ผมยังนั่งอยู่ที่ห้องสมุด ยังไม่การมอบหมายงานอะไรเพิ่มเติม ผมนั่งเช็คไดอารี่ของทั้งสัปดาห์นี้ไปพร้อมๆ กับนั่งดูสารคดีใน Apple TV+ ไปด้วย ก่อนที่ครูธนชาติจะเดินมาแจ้งข่าวจากครูอ้อยว่าจริงๆ แล้วผมควรจะไปยืนที่หน้าเสาธงในช่วงที่เด็กนักเรียนกำลังเข้าแถวเคารพธงชาติด้วย เพราะทางโรงเรียนก็ต้องเก็บภาพของผมเอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่สัปดาห์นี้ยังไม่เป็นไร ให้เริ่มในสัปดาห์หน้าได้ ผมรับทราบก่อนที่จะแยกย้ายกันเช่นเดิม ผมก็ยังคงนั่งเช็คไดอารี่นี้ต่อไป
เวลา 12.30-15.30
หลังจากพักกลางวันไปแล้ว ผมจัดระเบียบต่างๆ และทำความสะอาดรอบๆ ห้องสมุด จนกระทั่งช่วงคาบที่ 5 มีคุณครูพาเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มาที่ห้องสมุดเพื่อใช้สำหรับเป็นคาบที่ปล่อยให้เด็กๆ เรียนรู้ด้วยตนเอง ทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี แม้ว่าเด็กๆ อาจจะดื้อบ้างก็ตาม หลังจากหมดคาบเรียนที่ 5 แล้ว ผมก็กลับมานั่งเขียนไดอารี่ต่อ จนกระทั่งปิดห้องสมุดและเดินทางไปที่หน้าเสาธง เพราะวันนี้จะมีการสวดมนต์ประจำสัปดาห์ก่อนกลับบ้านของเด็กนักเรียนทุกคน แน่นอนว่าทุกอย่างก็ดำเนินไปด้วยดี ก่อนที่เด็กๆ และผมจะกลับบ้าน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in