เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryWhitebearwitheyeglasses
ท่านเทพจะเป็นคนยังไง?
  • เรื่องราวของผมเริ่มต้นขึ้นพร้อมๆกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเดือนมกราคม ผมได้สมัครเข้าร่วมค่ายค่ายหนึ่งที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ
    ''.....การเข้าค่ายคือสิ่งที่นักเรียนแพทย์มหาลัยห่างเมืองหลวงคนหนึ่งเช่นผมมักจะทำเพื่อหาประสบการณ์และหาเพื่อนใหม่ๆซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าจะนับเราเป็นเพื่อนใหม่มั้ย55555555'' 

    เท่าที่จำได้ค่ายนี้เริ่มประมาณต้นๆเดือนหลังเทศกาลปีใหม่ได้จบลง และวันที่ค่ายนี้ได้เริ่มต้นขึ้นผมได้ทราบว่าเพื่อนสมัยมัธยมปลายที่ไปเรียนอีกที่ก็มาเข้าร่วมด้วย เราเจอกันที่ห้องอาหารของรีสอร์ต พร้อมด้วยเพื่อนของเขาอีกคน ผมสังเกตริสแบนด์ที่เขาใส่ก็พอจะเข้าใจว่าม.ปลายเขาเรียนที่ไหนและเขานิสัยน่าจะเป็นยังไง (รร.นี้นร.มีความกวนตีนแต่เรียนเก่งชิบหาย)
    ผมเริ่มทักทายเค้า และเราก็พูดคุยกัันนิดหน่อยตามประสาของคนเพิ่งเจอกัน

    เมื่อค่ายจบลง ผมตัดสินใจทักไปหาเค้าผ่านแอพลิเคชั่นแสนงี่เง่าที่แยกตัวออกมาจากfacebook ใช่ครับมันคือmessenger ครับ เขาก็ตอบ แต่ผมอ่านแล้วก็เข้าใจแหละว่าเค้าก็ตอบส่งๆไปตามมารยาท เมื่อรู้ตัวแล้วยังไงล่ะครับ เอ้า เค้าไม่สนเราก็พอเถอะ ผมจบการสนทนาลงเพียงเท่านั้น......

    เวลาผ่านไปนานระดับที่ทำให้ห้องผมเปลี่ยนผ้าปูที่นอนไปประมาณ5ครั้ง (5เดือนจ้า)
    ผมกำลังเล่นfacebookอยู่ตอนเวลาประมาณ5โมง และพบว่าเค้าคนนั้นได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใหม่ ด้วยความเฟรนลี่ของเราจึงเข้าไปคอมเม้นท์ใต้รูปว่า นั่ลลัค(ขออภัยในความสก๊อยแต่ต้องยอมรับว่ามันให้ความรู้สึกมากกว่าคำว่าน่ารักจริงๆ555555) สุดท้ายเค้าก็replyกลับมา เราสื่อสารกันผ่านการreplyในคอมเม้นท์ ผมถามเค้าว่าได้ไปค่ายที่พะเยามั้ย เค้าก็บอกว่าไม่เพราะยุ่งๆ ผมก็อื้มๆโอเค....

    เดี๊ยวววว มันยังไม่จบ อยู่ๆอีแอพลิเคชั่นสุดงี่เง่าที่ผมเกลียดนักหนามันก็ทำตัวน่ารักขึ้นมาซะงั้น...
    นายคนนั้น: เออๆแกมีไลน์ป่ะ เผื่อมีค่ายอะไรจะได้บอกกัน 
    ......ใช่ครับ เค้าทักมา อยู่ๆหน้าของผมที่กำลังเริ่มหงุดหงิดเพราะหิวก็เกิดรอยย่นของรอยยิ้มขึ้นมาซะงั้น ไอบ้าเอ๊ย คิดว่าผมจะให้ไหมครับ ถ้าคุณคิดว่าผมให้ คุณคิดถูกครับ ^^

    เอาล่ะ สลับแอพไปที่ไลน์ เค้าแอดมาแล้ว อะเครๆ ผมส่งสติกเกอร์ที่คิดว่าน่ารักและไม่ใช่สติกเกอร์ฟรีไปหยั่งเชิง ตื่อดึ๊ง!!!
    อ่า เค้าก็ส่งมาเป็นสติกเกอร์เช่นกัน เอาไงต่อดีวะ?
    อ่าๆ งั้นถามเรื่องทั่วๆไปก็ได้มั้ง . . .
    ......การสนทนาดำเนินต่อไปตามธรรมชาติของมัน เราคุยกันดีมาก ผมไม่อยากให้การสนทนาของเราจบลงเลยล่ะครับ ^^

    จนมาวันที่2 อยู่ๆเค้าก็ชงประโยคนึงมาเข้มๆ(จริงๆเค้าคงไม่ได้ตั้งใจ) เป็นช่องว่างให้ผมหยอดได้ มีหรอที่ผมจะพลาด ผมหยอดไป1ช้อนโต๊ะเข้มๆเช่นกัน 
    ไล๊น์(เสียงไลน์สุดกวนตีนแจ้งเตือนมา)
    เขาหยอดผมกลับครับ เอาล่ะวา ผมตัดสินใจไม่เปิดอ่านในทันที ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะเขินจนต้องนอนบิดไปมา ผมจึงกดเข้าไปเล่นig ใน private account ลงสตอรี่ว่ากูไม่นกโว๊ยยให้เพื่อนอิจฉาเล่นๆ แล้วสลับไปแอปไลน์

    ผมมีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก มันดีใจ สดชื่น  มีความสุขแบบที่ไม่ใช่ความสุขที่เจอบ่อยๆ อาจจะเป็นเพราะเราไม่ชินกับอะไรแบบนี้...ใช่ครับ ผมยังไม่เคยมีแฟน :D

    การสนทนาดำเนินต่ออีกประมาณ15ข้อความ เค้าก็ส่งมาข้อความหนึ่งที่ว่า ''คือเราอยากรู้เรื่องแกกับเราอ่ะ''
    เชรี่ย หัวใจผมเหมือนจะออกมาเกลื่อนอยู่ที่หน้าโทรศัพท์ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพิมพ์มาให้ผมอ่านแบบนี้
    เค้าถามเราว่า เราชอบผู้ชายหรอ? ผมบรรจงพิมพ์และตอบเค้าไปทันทีว่า ผมชอบคนที่ผมชอบ (อยากจะบอกเหมือนกันว่าและคนนั้นก็คือคุณนั่นแหละสัด) เค้าก็บอกว่า''เค้าเองก็เช่นกัน'' 
    : เราอยากเจอแกสักครั้ง (เค้าบอก)
    ความจริงผมอยากจองตั๋วเครื่องบินไปหา ณ บัดนั้นเลย 55555555 แต่ทำไม่ได้น่ะสิครับ ครั้นจะหาเวลาไปเจอก็พบว่าตารางตัวเองนั้นแน่นมาก แน่นยิ่งกว่าพุงตอนกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อนที่กินน้อยแต่สะเออะสั่งเยอะ - -'

    จากการที่เรานั้นเรียนในโรงเรียนแพทย์คนละที่ เราอยู่ไกลกันประมาณ 10ยกกำลัง3 กิโลเมตร ทำให้สุดท้ายเราเลือกที่จะคุยกันในฐานะเพื่อนครับ.....

    ผมเสียใจนะ เสียใจมากด้วยแหละ ผมอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ค่อยจะได้เจอกับใครมากมาย การจะเจอคนที่เราโอเคกับเค้าและเค้าก็โอเคกับเรานั้น เป็นอะไรที่ยากพอๆกับการทำข้อสอบแคลคูลัสให้ได้เต็มทุกครั้ง ผมจึงยิ่งเสียใจ และรู้สึกเสียดายกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ แต่ก็นั่นล่ะครับ มันพลาดไป แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ได้เกิดขึ้น อย่างน้อยหัวใจของผมก็ได้พองโตบ้าง แม้จะเป็นช่วงสั้นๆก็ตาม......อุต๊ะ มันหล่อเว้ย555555555

    ตัดภาพมาที่อีกวันหนึ่ง ผมกำลังนอนบนเตียงเล่นมือถือเพลินๆ อยู่ๆปากผมก็อุทานคำว่าเชี่ย!!!!ออกมาอย่างดัง เพราะอะไรน่ะหรอครับ เมื่อต้นเดือนน่ะผมได้ไปเที่ยวพม่ากับเพื่อนมา และได้ขอพรกับเทพองค์หนึ่งว่า ''ขอให้ผมมีแฟนก่อนปีใหม่นะครับ'' ไปน่ะสิ เพิ่งนึกออก ทำเอาตัวเองเหวอไปเหมือนกัน 

    น่าแปลกนะครับ ที่ครั้งแรกผมทักเค้าไปแต่เค้าไม่ได้สนใจ แต่ครั้งนี้ แค่เม้นท์รูปเล่นๆ เค้ากลับทักมาซะงั้น อะไรจะเกิดมันก็เกิดขึ้นได้จริงๆ 5555555555

    ผมอยากแบ่งปันความประหลาดใจครั้งนี้กับเพื่อนร่วมทริปพม่า จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง 
    ผมถามเธอว่า แล้วแบบนี้พรจะยังมีฤทธิ์อยู่อีกมั้ยวะมึง?
    (คือสงสัยว่าแบบนี้คือนับว่ามีแฟนแล้วยัง -0- )
    เธอตอบกลับว่า : ก็คือได้แล้วก็หมดเลยหรอวะ
    ผม : มึงว่าท่านเทพเป็นคนยังไงวะ จะยังให้คำขอพรมีฤทธิ์อีกป่ะ
    เธอ : กูจะไปรู้มั้ย กูคน ไม่ใช่เทพ!!! 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
NO.W (@WRUNK)
เนื้อเรื่องอ่านเเล้วอินตามมากครับ เเต่ถ้าจัดวางให้อ่านง่ายกว่านี้ซะหน่อยจะเยี่ยมไปเลย