ผมใช้เวลาบนรถบัสราว 4 ชั่วโมงจากสนามบิน Taoyuan (จริงๆต้องออกเสียงว่า ‘เถา-ย เหวียน' แต่ทนความบูดเบี้ยวของหน้าเวลาออกเสียงไม่ไหว เลยเรียกว่า ‘เถาหยวน’ ก็แล้วกัน เอาเป็นว่าถ้าเจอคำนี้เมื่อไหร่ให้อ่านว่า ‘เถาหยวน’ โอเคนะ) ลงมาทางตะวันตกเฉียงใต้ และหยุดลงที่เมืองเจียอี้(Chiai) เมืองเล็กๆที่เป็นทางผ่านของนักท่องเที่ยวหลายๆคนเพื่อไปสู่แลนด์มาร์กสำคัญอย่างภูเขา Alishan
ที่เจียอี้ผมพบกับหมู่บ้านเล็กๆสไตล์ญี่ปุ่นซ่อนอยู่เนียนๆ(จริงๆก็ไม่เนียนหรอกถ้าเนียนคงมองไม่เห็น) หน้าหมู่บ้านมีป้ายติดไว้ว่า Hinoki Village ผมจึงแวะเข้าไปเดินถ่ายรูปเล่นตามประสานักท่องเที่ยวทั่วไป
ภายในหมู่บ้านประกอบไปด้วยบ้านชั้นเดียวสไตล์ญี่ปุ่นประมาณสามสิบหลัง แต่ละหลังถูกตกแต่งภายในให้เป็นร้านค้าต่างๆทั้งร้านกาแฟ ร้านกิฟท์ชอป ร้านอัญมณี หรือร้านขนม โดยที่ภายนอกยังคงกลืนไปกับบรรยากาศความเป็นหมู่บ้านญี่ปุ่น (กลืนจริงๆนะ ขนาดห้องน้ำยังกลืนจนแทบหาไม่เจอ ถ้าปวดหนักขึ้นมาทีมีหวังเข้าผิดหลังแน่ๆ)
ผู้คนในหมู่บ้านมีความน่ารัก ทักทายผมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่เสมอ และตามด้วยการเสนอขายของในร้านตัวเองอย่างสุดฤทธิ์
คนที่นี่เป็นมิตรและไม่ถือตัว แถมปฏิบัติต่อชาวต่างชาติอย่างเท่าเทียม ต่อให้ผมพูดภาษาไทยใส่ หรือใช้ภาษาอังกฤษ ทุกคนจะฟุตฟิตฟอไฟเป็นภาษาจีนกลับมาทุกครั้ง แม้กระทั่งชาวเยอรมันที่เดินเข้ามาก็ได้รับความเท่าเทียมนี้เช่นกัน
Can you speak English? ผมสวนกลับไปเมื่อเจ้าของร้านอาหารทะเลอบกรอบสาธยายสรรพคุณ และโปรโมชันของสินค้าแทบทุกชิ้นในร้าน คำตอบที่ได้คืออาการส่ายหน้า และนางยังคงสาธยายเป็นภาษาจีนต่อไป
สุดท้ายแล้วผมก็เสียเงินให้กับอาหารทะเลอบกรอบร้านนี้จนได้ ทั้งๆที่ฟังอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว การขายของนี่มันเป็นศิลปะจริงๆ
Hinoki Village เป็นหมู่บ้านที่ยังมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่มากนัก แต่เป็นจุดที่คนท้องถิ่นนิยมมาถ่ายภาพกันเช่น ถ่ายพรีเวดดิ้ง หรือถ่ายรูปรับปริญญา
พี่ไกด์ท้องถิ่นเล่าให้ผมฟังว่า ย้อนกลับไปสมัยที่เกาะไต้หวันตกอยู่ในความปกครองของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ตรงนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นที่อยู่อาศัยของทหารญี่ปุ่น เนื่องจากอยู่ใกล้ป่า Alishan ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรที่สมบูรณ์ รวมถึงมีการสร้างทางรถไฟเพื่อขนย้ายทรัพยากรต่างๆด้วย
เมื่อทหารญี่ปุ่นย้ายออกไป หมู่บ้านนี้จึงถูกทิ้งร้างไว้กลางป่า ต่อมาทางการไต้หวันจึงทำการพัฒนาปรับปรุงหมู่บ้านนี้ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยยังคงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นไว้เช่นเดิม
ปล.ขออภัย หลังจากย่อหน้าแรกก็ไม่มีคำว่าเถาหยวนอีกเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in