“มึงงงง ฮือๆๆๆๆๆ” ผมเหลือบตามองตามเสียงครวญครางโหยหวนของไอ้จั๊บที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะเรียนแล้วหันมาทางซ้ายมือ ซึ่งก็คือที่นั่งผมนี่แหละ ถึงจะเป็นแบบนั้น สายตาและมือซ้ายของผมยังคงวุ่นอยู่กับการสรุปช็อตโน้ตวิชาเคมีที่เพิ่งเรียนเสร็จไปเมื่อกี้
“อะไรของมึง” ผมตอบกลับโดยไม่ได้หันไปมอง
“มึงงงง ไอ้สิงห์ๆๆ กรี๊ดด”
ใครก็ได้บอกผมทีว่ามันเป็นอะไร..
“เป็นเชี่ยไรวะ”
“มึงงงงง น้องจินน์ น่ารักสัดดด” ผมเห็นมันพูดชื่อน้องจินน์อะไรนี่มาเป็นรอบที่ 10 ของวันแล้ว
ไม่ดิ อันที่จริงก็ตั้งแต่เปิดเทอมด้วยซ้ำ ได้ยินทุกวันอะชื่อนี้
“เออ มึงบอกกูรอบที่พันล้านแล้วมั้ง”
“โอ๊ย มึงไม่เชื่อกูวะ ดูนี่!”
ไม่รู้ว่าเพราะบนหน้าผากผมมีคำว่า 'ขนาดนั้นเลยหรอ เหอๆ' แปะอยู่รึเปล่า
มันเลยไม่ปล่อยให้จบแค่นั้น
ไอ้จั๊บยื่นมือถือมันมาใกล้แทบจะกระแทกตาผม สิ่งที่เห็นบนหน้าจอคือแอพอินสตาแกรม ดูจากชื่อเดาว่านี่น่าจะเป็นแอคเค้าท์ของน้องจินน์ เห็นรูปของน้องเขาในชุดที่ดูคล้ายกับปีเตอร์แพน บนหัวมีหมวกที่เป็นรูปกระต่ายหูยาวๆ
เอ่อ เข้ากันตรงไหนวะครับ
ดูน่ารักนะ ... แต่ไม่เป็คอะ
“ก็น่ารักดี”
“ไม่อะ! ไม่ใช่แค่น่ารักดี แต่น่ารักมากๆๆ” ผมแทบจะขยับเก้าอี้หนีไอ้จั๊บที่ใกล้บ้า มันลุกขึ้นเต็มความสูง(เหมือนเปรต) แถมยกสองแขนชูขึ้นฟ้าเหมือนคนเสียสติ “ชีวิตพี่สดใสเพราะมีน้องงงง”
อยากจะกลอกตาเป็นเลขแปดใส่ไอ้จั๊บรัวๆ
มันนั่งลงตามเดิม ทำปากจู๋ใส่หน้าจอโทรศัพท์เหมือนคนโรคจิต
ไม่พอ.. จั๊บทำปากขมุบขมิบอะไรไม่รู้(ผมไม่กล้ามอง) แล้วไถโทรศัพท์เล่นดูรูปน้องจินน์สุดที่รักมันต่อ
“ไปกันมึง เดี๋ยวโต๊ะแม่งเต็ม” ผมบอกไอ้จั๊บทันทีที่จดสรุปครบทุกตัวอักษร ไอ้คนตัวโย่งลุกจากเก้าอี้อย่างอารมณ์ดีเหมือนคนเพิ่งสูดก๊าซหัวเราะเข้าไป หน้าที่ผมคือต้องคอยดูแลไอ้จั๊บไม่ให้มันเขินจนเผลอไปทำลายข้าวของรอบตัว
ผมกับจั๊บเดินมาเรื่อยๆจนถึงโรงอาหาร ที่นี่วุ่นวายแถมเสียงดังแบบนี้ประจำ แต่แปลกไปคือวันนี้คนเยอะกว่าปกติ แทบจะไม่มีโต๊ะว่างให้ผมกับไอ้จั๊บแทรกตัวเข้าไปเลย
“ทำไมคนเยอะจังวะ”
“เออว่ะ จริงด้วย ทำไมวะ”
“นั่นพวกมหาลัยปะ ทำไมมากินโรงอาหารฝั่งเราได้วะ”
“อ๋อ กูนึกออกละ เมื่อเช้านี้ที่ครูเทพาบอกว่าโรงอาหารฝั่งนั้นมันปิดปรับปรุงไง เค้าเลยเรียกให้พวกเด็กมหาลัยมาฝั่งนี้มั้ง”
ซวยละ คนเยอะขนาดนี้ผมจะได้กินข้าวเที่ยงชาติไหนวะ หรือผมกับจั๊บควรแยกกันไปสั่งข้าว อีกคนนึงไปหาโต๊ะนั่ง
“มึงไปหาโต๊ะนั่งไปไอ้สิงห์ เดี๋ยวกูสั่งข้าวให้”
ข้อดีของการเป็นเพื่อนกับไอ้จั๊บคือตรงที่มันรู้ใจผมมากๆนี่แหละ ถึงมันจะหัวช้าไปนิดและติดขี้เกียจก็เถอะ แต่จริงๆมันไม่ได้โง่หรอก
“เออๆ เดี๋ยวกูลองดู”
“มึงเอาไรอะ”
“กะเพราไก่ไข่ดาวไม่สุกพิเศษ”
“เคๆ”
ผมเลี่ยงตัวออกมาแล้วชะเง้อมองหาโต๊ะว่าง ดูเหมือนจะยังไม่มีใครลุกให้สักที
เลยจัดการเดินไปต่อแถวซื้อแตงโมที่ร้านผลไม้ โชคดีที่คนไม่ค่อยเยอะ
เพราะร้อนๆแบบนี้ยังไงก็ต้องกินแตงโมใช่มั้ยล่ะ อันที่จริง แม่เคยบอกว่าเราสามารถกินผลไม้กับข้าวได้ด้วย ผมยังไม่เคยลอง และคิดว่าครั้งหน้าควรลองดู (แน่นอนว่าผมต้องแอบๆให้พ้นสายตาไอ้จั๊บ ล่าสุดมันเห็นผมกินแตงโมกับบัวลอยแล้วมันด่าว่าผมเป็นบ้า) ผมเลือกฝรั่งแช่บ๊วยมาเผื่อจั๊บถุงนึง และแตงโมสำหรับตัวเองถุงนึง
เฮ้อ.. หวานชื่นใจ
“สิงห์!” ผมหันไปตามเสียงเรียกของไอ้จั๊บ เป็นเวลาเดียวกับที่เห็นนักเรียนกลุ่มนึงลุกจากโต๊ะพอดี
ลัคกี้ เจอโต๊ะว่างแล้ว
ไอ้จั๊บเดินมาหาผม ในมือมันถือจานข้าวสองที่
“ทำไมได้ข้าวไวจังวะ”
“มีน้องให้คิวกู อิอิ”
“เออดีเว้ย”
ไอ้จั๊บเห็นแบบนั้นสาวกรี๊ดมันเยอะมากๆ เรียนอยู่ห้องวิทย์ เล่นกีฬาเก่ง ตัวสูง ผมงี้อิจฉามันอยู่ในใจเหมือนกัน จั๊บได้ขนมนมเนยเกือบทุกวันแหละครับ ซึ่งมันก็ชอบมากนะเพราะตัวเองกินเก่ง ส่วนผมไม่ชอบพวกของหวานๆแบบนี้เท่าไหร่ เลยขอรับไว้แค่น้ำใจก็พอ
“เชี่ย... เชี่ยๆๆๆ” ไอ้จั๊บเข้ามาประชิดตัวผมจนผมตกใจถอยหลังไปสองก้าว แต่มันก็เขยิบเข้ามาอีก
อยู่กับมันจนกลัวตัวเองจะติดนิสัยไปจริงๆ อะไรจะเล่นใหญ่ได้ขนาดนี้วะอยากรู้
“มึงๆๆ เก้านาฬิกาๆๆ” ลุกลี้ลุกลนชิบหาย ... ผมทำตัวให้เป็นปกติหลังจากวางจานข้าวตัวเองลงกับโต๊ะ ไอ้จั๊บเดินตามมาติดๆ ผมแสร้งทำเป็นคุยกับมัน โดยไม่ลืมที่จะมองไปทางเก้านาฬิกาอย่างเนียนๆ
อ้อ... ว่าอะไร น้องจินน์ที่รักของจั๊บนั่งอยู่ตรงนั้น กับเพื่อนอีก 3-4 คนมั้ง ถ้าผมมองไม่ผิด
ตัวจริงดูน่ารักกว่าในรูปนะ
และก้นยังไม่ทันจะสัมผัสกับเก้าอี้ดี ผมดันไปสบตาเข้ากับน้องคนนึงบนโต๊ะนั้นเข้าซะก่อน
แปลกว่ะ ..
เคยเผลอสบตาใครแล้วรู้สึกวูบๆแปลกๆมั้ยครับ
ผมทำเป็นเฉยๆ ก้มมองจานข้าวตัวเอง อย่างกับผัดกะเพราตรงหน้านี้มันวิเศษนักหนายังไงอย่างงั้น
มองไอ้จั๊บที่ตอนนี้คือเข้าสู่โหมดเก็ก “น้องจินน์คือนางฟ้าที่แท้ทรู”
มันพูดแบบกัดฟัน ทำท่าเหมือนหมั่นเขี้ยวอะไรสักอย่าง
โชคดีที่โต๊ะที่เรากำลังนั่งอยู่ สามารถมองเห็นโต๊ะของน้องจินน์และบรรดาเพื่อนๆได้ชัดเจนแจ่มแจ๋ว
ไอ้ผมก็อยากจะยินดีไปกับเพื่อนอะนะ... แต่แบบ.. สงสารน้องจินน์ สงสารน้องทุกคนที่กรี๊ดมัน
พี่จั๊บสุดเท่.. นิสัยที่แท้จริงคือเป็นแบบนี้นะครับ อยากน้องๆให้มาเห็นจัง
โอเค ผมเผลอสบตากับน้องคนนั้นอีกแล้ว เพราะเขาดูเด่นกว่าคนอื่นด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้
มองกันอยู่แปปนึง น้องเขาก็หลบสายตาก่อน แล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อน
คือตอนยิ้มนี่.. ยังไงดี...
มันแลดู แบบ... อ่า โลกสดใสอะ ใช่ๆ แบบนั้น
“จั๊บ..” ผมเรียกมันเบาๆ แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากจานข้าว
“ว่าไง” ถือว่ามันมีเซ้นส์และอยู่เป็นพอสมควร จั๊บกำลังทำท่าทางแบบเดียวกับผมนี่แหละ
“มึงรู้จักคนนั้นปะ”
“คนไหนวะ” มันทำเป็นหันไปมองรอบนึง
"โต๊ะที่สุดที่รักมึงนั่งอยู่อะ"
“บ้าน่าาาเพื่อน.. อืม.. ข้างๆน้องจินน์ปะ”
“ไม่ใช่”
“แล้วคนไหน”
“คนที่ใส่หูมิกกี้เม้าส์ ถือชานมไข่มุก”
“กูมองไม่ถนัด เดี๋ยวรอตอนลุกละกัน”
“เออๆ”
พูดจบปุ๊ปก็ดันสบตากันอีกแล้ว แต่รอบนี้ไม่ธรรมดา เพราะเขาดันยิ้ม.. เขายิ้มให้ผม
ผมถึงกับไปไม่เป็น มันออกจะประหลาดหน่อยๆมั้ยที่เขาดันยิ้มให้คนไม่รู้จักกันอย่างผม
ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีรุ่นน้องยิ้มให้นะ บอกตรงๆว่ามี แต่เป็นการยิ้มที่แบบเหนียมๆ
อยากจะกรี๊ดแต่ไม่กรี๊ด พอผมสบตาด้วย ก็จะแสดงออกแบบชัดเจนเลยว่า.. เอ่อ ปลื้มอะไรแบบนี้
แต่น้องคนนี้ เป็นยิ้มที่ต่างออกไป..
ตัวผมไม่ได้อะไรหรอก แค่มองผ่านไปเฉยๆ
ไม่แน่ใจว่าตัวเองแสดงสีหน้ายังไงออกไปให้น้องเขาเห็น เสียงหัวเราะใสๆของน้องดังมาถึงโต๊ะผม
ประหลาดอีกนั่นแหละที่มันไม่ได้ฟังดูน่ารำคาญเลยแม้แต่น้อย
น้องทำให้ผมรู้สึกเหมือน.. ผัดกะเพราโรงอาหารสชาติหนักเค็มมื้อนี้มันไม่เหมือนเดิม
เด็กผู้ชายคนนึงจะดูน่ารักได้ขนาดนี้จริงดิ?
.
.
ใช้เวลาไม่นาน ผมกับจั๊บก็ลุกจากโต๊ะ ส่วนน้องจินน์กับน้องหูมิกกี้เม้าส์ลุกออกไปก่อน
ประมาณ 10 นาทีได้แล้วมั้ง
วันนี้เป็นมื้อกลางวันที่แบบ โคตรจะแฟนซีบอกไม่ถูก
แล้วไอ้จั๊บมันก็เริ่มโวยวายระหว่างทางกลับห้อง
“มึงงงง กูเสียใจที่กูมองไม่ทัน”
"มองไร"
"น้องคนที่มึงถามกู"
“เออน่ะ ก็แค่.. เขาดูโดดเด่น”
“ไม่ กูอยากรู้ไง นานๆทีมึงจะสนใจใคร”
“.. ไม่ถึงขนาดนั้นมั้งครับเพื่อน”
ไอ้จั๊บส่งสายตาล้อๆ ให้ ถ้าไม่ติดว่ามีเรียนต่อมันคงจะเซ้าซี้กับผมต่อจนคนหมดโรงอาหารนั่นแหละ
ครึ่งบ่ายหลังจากนั้น มีอะไรบางอย่างที่ผมรู้สึกว่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสิ่งนั้นคืออะไร
และเย็นวันต่อมาผมดันแปลกใจกับแจ้งเตือนบนจอไอโฟนของตัวเอง
[songsingha]: mheeman_mm is now following you!
ผมกดเข้าไปดูโนติอย่างคนว่างงาน ทวนเคมีจบแล้วค่อยสบายหน่อย
ไอจีผมมีรูปอยู่ประมาณ 5 รูปถ้วน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ได้สนใจอะไรของแบบนี้เท่าไหร่
ความจริงแล้วไอ้จั๊บสมัครให้ผมด้วยซ้ำ --
ไอ้ 5 รูปที่ลงไม่ได้มีอะไรพิเศษ ถึงอย่างนั้นยังคงมีคนมาติดตามผมแบบงงๆ ยอดฟอลส่วนหนึ่งตามมาจากไอจีไอ้จั๊บ เพราะรายนั้นคนฟอลหลักหมื่น..
แล้วอย่างน้อง หมี.. แมน? อะไรนี่มาจากไหนกัน
ผมกดเข้าไปดูหน้าโปรไฟล์ของเจ้าของชื่อไอดี mheeman_mm อย่างความสงสัย
รูปล่าสุดที่เห็น เป็นรูปเซลฟี่ของน้องจินน์ กับเพื่อนอีก 2 คน
ด้านขวาสุดคือน้องคนที่ผมเห็นวันนั้น - ผิวสีน้ำผึ้ง ผมตัดสั้นหยักศกเล็กน้อยดูนุ่มมือ แก้มอิ่มๆ
เป็นลักษณะเด่นที่ทำให้ผมจำน้องได้ น้องโพสท่าโดยการอ้าปากเป็นรูปกลมๆโชว์ฟันกระต่ายด้านหน้า
ทำให้ดูเหมือนเป็นคนขี้เล่น ในมือถือแก้วชานมไข่มุกร้านพี่จี้สาวประเภทสองสุดเปรี้ยวแห่งโรงอาหาร(พี่จี้ชอบให้ชานมไข่มุกไอ้จั๊บฟรี) บนหัวมีที่คาดผมหูมิกกี้เม้าส์อยู่ ..
ผมกดดูคอมเม้นด้านล่าง
View all 28 comments
Kikkaboo_yayah เกลียดที่คาดผมแรดๆของมึงจริง อิหมีแมน
Iamjayjay น่ารักครับ
คนอะไร... ชื่อแปลกชะมัด
"หมีแมน"
.
.
.
พักเที่ยงวันนี้ ผมกับไอจั๊บมาถึงโรงอาหารเร็วกว่าวันก่อนเพราะอาจารย์วินวินแกปล่อยเร็ว
ก๋วยเตี๋ยวเรือทั้งหมด 10 ชามวางกระจายจนแทบล้นโต๊ะ ผมซัดไปทั้งหมด 3 ชาม
อีก 7 ชามที่เหลือเป็นฝีมือของไอ้จั๊บ
ตอนนี้คนเริ่มเยอะขึ้นจนโรงอาหารเริ่มวุ่นวาย
และผมกำลังนั่งเล่นมือถือดูนู่นนี่ไปเรื่อยรอไอ้เพื่อนตัวดีจัดการกับฟักทองแกงบวชถ้วยที่ 2
“พี่สิงห์ครับ” ผมหันไปตามเสียงเรียกด้านหลังทันที
รู้สึกอึ้งปนตกใจกับการปรากฏตัวของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
..
“ครับน้อง?”
พูดจบแค่นั้น น้องหมีแมนในชุดพละก็ยกไอติมโคนรสวานิลลาในมือถูวนรอบปากตัวเองจนเลอะไปหมด
ผมไม่แน่ใจว่า น้องเขาจับอาการแปลกๆของผมได้รึเปล่า แววตาที่ดูมีแววเจ้าเล่ห์ซุกซนนั่นกำลังทำให้ผมประหม่าแบบแปลกๆ
“มีไอติมเลอะปากผมมั้ยครับ?”
ขณะที่กำลังอึ้งอยู่นั้น เสียงหัวเราะไอ้จั๊บก็ดังขึ้นมา
ผมหันไปมองมันอย่างคนไม่แน่ใจว่ากำลังเจอกับอะไรอยู่
“เอ่อ พี่สิงห์ครับ มีไอติมเลอะปากผมมั้ยครับ” น้องถามผมซ้ำอีก
ผมควรตอบว่ายังไงดี น้องกำลังรอคำตอบจากผม
เริ่มส่งสายตาเว้าวอนให้ผมทำอะไรสักอย่าง ไอติมเลอะหน้าน้องจนผมยังเหนียวแทน
ในตอนนั้นเอง ผมได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดมาจากโต๊ะทางด้านหลัง ประกอบไปด้วยน้องๆ ม.4 หลายคน
น้องหมีแมนหันไปตามเสียงนั้นเช่นเดียวกับผม
“อย่าเร่งสิ!”
ผมจึงเข้าใจมันได้ทั้งหมด
“เลอะครับ เลอะเต็มเลย” พอผมตอบไปแบบนั้น แทนที่น้องจะพอใจ น้องหมีแมนกลับทำท่าทางเหมือนคนเสียดายอะไรสักอย่าง
“อ๊า ตามหลักการแล้วพี่สิงห์ต้องหัวเราะสิครับ”
“อ้าว ไม่ใช่แบบนี้หรอ”
“ไม่ใช่น่ะสิ ผมเดินไปถามมาทุกโต๊ะ เขาขำกันทุกคนเลย มีพี่อะไม่ขำ”
“เฮ้ย โทษทีๆ” ใครก็ได้บอกทีว่าพาร์ทไหนที่มันควรขำอะ...
“จะขอโทษทำไมเล่า”
เอ๋า... ไม่พอใจกันอีก
“แล้วนี่.. รู้จักพี่ด้วยหรอ”
“.. มีใครในโรงเรียนไม่รู้จักพี่สิงห์ด้วยหรอครับ” น้องหมีแมนมีสีหน้าประมาณว่าถามจริง
และขณะที่ผมกำลังจะอ้าปากตอบ
“แล้วน้องรู้จักพี่มั้ยครับ” ไอ้จั๊บที่อยู่ๆหยุดหัวเราะไปถามน้องขึ้นมาบ้าง
เหมือนใครบางคนอยากจะมีซีนครับ..
น้องมองหน้าไอจั๊บแปปนึงก่อนจะพูดว่า
“ไม่รู้จักครับ”
ผมหลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย ไอ้จั๊บเล่นแหย่น้องไปแบบนั้น
“...”
“ล้อเล่นนน รู้จักสิครับ พี่จั๊บห้องวิทย์”
แหม่ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้เหมือนจะโปรยเสน่ห์ กับผู้ชายก็ไม่เว้นหรอจั๊บ
“ไม่ต้องบอกพี่ก็คงรู้แล้วแหละเนอะว่าตัวเองป็อปอะ”
“จริงหรออ ไม่บอกพี่ไม่รู้เลยน้า” โอโห จีบปากจีบคอมาก ผมเห็นจั๊บมันทำท่าทางแบบนั้นแล้วอยากกระโดดเตะก้นมัน
“โถ้ อันที่จริงก็ไม่เท่าไหร่หรอก” ผมมองกิริยาท่าทางของน้องหมีแมนที่แลดูมีนิสัยออกจะขัดกับชื่อตัวเอง
ยังไงดี ... คือน้องเขาไม่ใช่คนมาดแมนอะไรแบบนั้น หุ่นค่อนไปทางผอม ผิวแทนเหมือนพวกชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง แปลกใจเหมือนกันที่เมื่อลักษณะทั้งหมดพอมาอยู่ด้วยกันแล้ว มันไม่ควรจะแบบ.. ไงดีอะ
ก็เด็กผู้ชายทั่วไปนี่แหละ
แต่มันดู.. นุ่มนิ่มๆ ซนๆ บอกไม่ถูก
“ง่ะ” ไอ้จั๊บแสร้งทำหน้าผิดหวัง หมั่นไส้มันมากเลยครับตอนนี้ ควรจะไปเป็นนักแสดงนะจั๊บ
“ผมไปละ เล่นกะพวกพี่ไม่เห็นสนุก” น้องบอกพวกเราแบบนั้นแต่ตัวเองกลับหัวเราะออกมาเบาๆ เหมือนจะบอกว่าที่พูดออกมาไม่ได้หมายความที่ว่าจริงๆ
และก่อนที่น้องหมีแมนจะได้หันหลังกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
ท่ามกลางความวุ่นวายของโรงอาหารเหมือนในทุกๆวัน
ผมจับแขนน้องเค้าไว้อย่างถือวิสาสะ
“อย่าลืมไปล้างหน้านะ” ผมบอกสีหน้าจริงจัง
จะให้เดินไปไหนมาไหนแบบนั้นคนได้มองหนักแน่ แบบนั้นคงไม่ดีเท่าไหร่หรอก
น้องหมีแมนยิ้มออกมาอีกครั้ง
“รับทราบครับผม”
[mheeman_mm]: songsingha is now following you!
.
.
.
เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว ที่มีโพสอิทสีเหลืองสดแปะอยู่บนโต๊ะผม บางวันก็มีก่อนที่ผมจะมาโรงเรียน บางวันก็โผล่มาตอนพักเที่ยง
พี่สิงห์ ตั้งใจเรียนนะ!
กินข้าวเยอะเยอะด้วย
ประโยคง่ายๆสั้นๆ บนโพสอิทแผ่นเล็กๆนั้นจะทิ้งท้ายไว้ด้วยสติ๊กเกอร์รูปหมีเสมอ
ผมดึงโพสอิทออกจากโต๊ะ ตั้งใจอ่านในทุกๆตัวอักษร
ลายมือน่ารักกว่าที่คิด
“ดูอะไรของมึงอยู่วะไอ้สิงห์ กิ๊วๆ”
ไอ้จั๊บทักทายตอนเช้าด้วยการวางกระเป๋าจาค็อบลงบนหัวผม
ผมสบถออกมาเล็กน้อย แล้วผลักกระเป๋าเบาๆออก สงสัยว่ามันพกกระเป๋ามาเรียนทำไม
ถ้าข้างในมีสมุดบางๆอยู่สองเล่ม
“เสือก” ตอบกลับแค่นั้นก่อนจะเก็บโพสอิทใบล่าสุดไว้ในแฟ้มที่เคยเก็บชีทเคมีเอาไว้ ไอ้จั๊บหัวเราะใส่ผมก่อนจะเดินไปนั่งที่นั่งของตัวเอง
ผมกับจั๊บเดินไปเข้าแถวที่หน้าเสาธงอย่างเคย
สำหรับประเทศไทย แดดตอน 8 โมงเป็นอะไรที่ไม่น่าพิศวาสเท่าไหร่นัก
คงจะก้มหน้าก้มตาภาวนาให้ช่วงเวลาน่าเบื่อนี้หมดไปเร็วๆ เพราะอากาศร้อนเป็นบ้า
หืม..
แถวของผมอยู่ไม่ไกลจากแถวห้องภาษาของน้องหมีแมน ผมสูงกว่าเขาเล็กน้อย เลยสามารถมองเห็นน้องยืนนิ่งในแถวเหมือนคนสัปหงกอยู่
นอนดึกรึไง
อยู่ๆเพลงมาร์ชจากวงดุริยางค์ก็เริ่มบรรเลง หมีแมนสะดุ้งตื่นยืนตัวตรงก่อนจะตั้งใจอ้าปากร้องเพลงชาติตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เพียงแค่นั้นเพราะเมื่อเพลงแอโรบิกประจำโรงเรียนในตอนเช้าที่ผมเบื่อมาก
เพลงเฉิ่มๆเหมือนเพลงที่เปิดตามรถบั๊มและไม่รู้ว่าใครเป็นคนเลือกดังขึ้นไปทั่วสนาม
แม้ว่าจะมีเด็กนักเรียนเต้นนำท่าอยู่บนเวทีที่อาจารย์ใหญ่เคยยืนอย่างคนมีจังหวะในหัวใจ
แต่ดูเหมือนทุกคนที่ยืนอยู่ในแถวจะเต้นเหมือนขอไปที
กลับกัน เมื่อผมเหลือบไปเห็นน้องหมีแมน น้องจริงจังกับการออกกำลังกายยามเช้านี้มาก
ตั้งใจขยับแข้งขยับขาจนผมสะดุดตา
การเข้าแถวตอนเช้ามันไม่ได้แย่นัก อาจจะเป็นเพราะได้เห็นปฏิกิริยาที่แลดูตลกๆแบบนั้นด้วยมั้ง
เอ้าเวร ..
น้องเห็นผมซะงั้น
แถมดันส่งยิ้มมาอีก
น้องหมีแมนเอาทำมือวาดเป็นรูปไปรอบๆปาก หลับตาทำหน้าพริ้ม ก่อนจะส่งสัญญาณต่อด้วยการยกนิ้วโป้งขึ้นมา
แปลกที่วันนั้นผมอารมณ์ดีไปทั้งวัน
“ทำไมวันนี้ไม่เห็นมีโพสอิท” เวลาพักเบรกผมบังเอิญเจอหมีแมน น้องนั่งอยู่คนเดียวบริเวณโต๊ะหินแถวๆสวนหน้าสหกรณ์ เอาจริงๆ ไม่อยากยอมรับแบบคนขี้ขลาดเลยว่าถ้าเพื่อนน้องอยู่ผมคงไม่กล้าเดินเข้ามาทักน้องแบบนี้
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
“โพสอิท?” น้องหมีแมนทำหน้าตกใจ แต่ขอล่ะ มุกนี้ ถ้าแรกๆ คงเชื่อไปแล้ว
“มะเหงกสิ” ผมเคาะที่หน้าผากน้องเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
น้องขี้แกล้งจริงๆ ต้องลองมาเจอกับตัวเอง
“อูยย แหะแหะ วันนี้ตื่นสายครับ”
สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าน้องเขานิสัยน่ารัก คือต่อให้น้องจะเริ่มสนิทกับผมขึ้น
น้องหมีแมนยังคงลงท้ายประโยคด้วยครับเสมอ
เรียกผมพี่สิงห์อย่างงั้น พี่สิงห์อย่างงี้
ดันเผลอคิดว่าอยากมีน้องชายแบบนี้ซะละ
“ที่ตื่นสายเพราะเมื่อคืนดูหนังจนดึกใช่มั้ย”
“ถ้าบอกว่าไม่ใช่ก็คงไม่เชื่อแล้วสินะครับ”
“ถูกต้อง”
“ว้า แย่จุมเบยย” ทำเสียงสองแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นผมคงขนลุกเกรียวไปแล้ว
แต่เพราะนี่คือน้องหมีแมน..
อะไรๆ มันก็เลยดู... น่ารักไปหมด ทำไมวะ..
“ไอบ้า” ผมเคาะเบาๆอีกครั้งที่หน้าผากน้อง น้องกลับฉีกยิ้มขี้เล่น
ขนาดฟันยังดูน่ารัก ... เดี๋ยวนะ โรคจิตไปละกู
ไอ้สิงห์... มึงคิดอะไรวะ
“แล้วเพื่อนๆอะ?” ทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเหมือนกลัวว่าน้องจะอ่านใจผมได้ ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆด้วย อันนี้ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองว่ะ
“เพื่อนไปห้องน้ำครับ ขนกันไปหมดเลย” บุ้ยปากไปทางห้องน้ำอีกด้านของที่ๆเรายืนอยู่
“ท่ออยู่ติดกันรึไงก็ไม่รู้”
หลุดขำออกมาแล้ว ผมว่าผมไม่ใช่คนเส้นตื้นขนาดนั้นนะ .. แต่ไอ้ที่พูดออกมาอะ ตลกดี
“หมีแมน ขนตา” ผมบอกน้องเมื่อเห็นขนตาเส้นนึงติดอยู่บนแก้มน้อง
“หืม? ขนตาหรอครับ”
“ไม่ใช่ ตรงนี้ๆ” ผมจิ้มๆที่แก้มตัวเอง เพื่อที่จะบอกตำแหน่ง
แต่น้องก็ยังเขี่ยขนตาเส้นนั้นไม่ออก “ยังไม่ออก ตรงนี้” แล้วน้องก็จัดการปัดมือบนหน้าตัวเอง
หวังจะให้ขนตาหลุดออกไป และใช่ครับ ขนตาเส้นนั้นยังอยู่ที่เดิม
ทนเห็นไม่ได้เลยเอื้อมมือไปจับให้หยุดทำ “หยุดๆ”
ก็เล่นท่าทางเหมือนตบหน้าตัวเองแบบนี้ บ๊องจริง
“ปัดอะไรแรงขนาดนั้น”
“หลับตาๆ” ผมเข้าไปใกล้ๆ เพื่อที่จะอาสาหยิบออกให้
หมีแมนหลับตาลงช้าๆ อวดแผงขนตาเรียงสวยนั่น จมูกเล็กๆกำลังทำท่าฟุดฟิด
ปากอิ่มรูปเล็กสีสดปล่อยสบายๆ
ผมใกล้น้องพอที่จะได้กลิ่นนมช็อคโกแลตจางๆจากริมฝีปากนั่น
..
“ออกละ”
“ไหนๆขอดูหน่อย”
“ดูอะไร”
“ขนตาไง”
“ห๊ะ? เอาไปทำไร”
“จะเอามาอธิษฐาน”
“ใช่หรอ ใครบอก”
“มีคนบอก ขอหน่อย ยังอยู่มั้ยเนี่ย”
“ทิ้งไปแล้ว”
“โห่ยยยย พี่สิงห์!” ใครเขาบอกกัน กลไกธรรมชาติของการผลัดขนตา มันจะไปเกี่ยวโยงกับเรื่องการขอพรได้ยังไง
แล้วคนตรงหน้าผมก็ดูจริงจังไม่ใช่เล่นเลยนะ ผมจึงหัวเราะออกมาเบาๆ
ไม่ทันจะได้เถียงกันต่อ เพราะได้ยินเสียงแซว เสียงผิวปาก
ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดของน้องๆด้านหลังดังขึ้นมาพอดี
"ทำอารายยยยอยู่ววววน่ะะะ"
“งั้น.. พี่ไปก่อนนะ”
น้องหมีแมนพยักหน้า ผมยิ้มส่งๆให้พวกเพื่อนของหมีแมนก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา
และมองเห็นไอ้จั๊บที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องธุรการพอดี
ยกมือขึ้นตั้งใจจะโบกเรียกให้จั๊บเห็น
“พี่สิงห์!” ผมหันกลับไปตามเสียงเรียก
“เดี๋ยวเอาโพสอิทไปให้นะ!”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องชอบใจจากน้องๆ หมีแมนยิ้มออกมา
“เออ!”
ผมตอบกลับไป โดยที่ยังไม่หายตื่นเต้นจากเหตุการณ์เมื่อกี้
"มึงจำน้องคนที่ไอติมเลอะปากได้ป่ะ"
"..เออจำได้"
"ดี น้องชื่อหมีแมน" รู้อยู่น่ะ
"... อ่าห๊ะ?"
“กูได้ยินว่าน้องหมีแมน มีผะหลัวแล้ว” แทบจะสำลักเส้นใหญ่เย็นตาโฟออกมาทางจมูก เมื่อได้ยินไอ้จั๊บพูดขึ้นมาแบบนั้น
“มึงเอาอะไรมาพูด” พูดไปพลางไอไป รีบคว้าแก้วน้ำที่ไอ้จั๊บส่งให้ขึ้นมาดื่ม
“จริงมึง กูไปได้ยินมา จริงๆแม่งคุยกันหึ่งกว่านี้อีก เดี๋ยว.. นี่มึงรู้ช้ะว่าน้องเขาแบบ...”
ผมทุบอกตัวเองสองสามครั้งก่อนจะทวน “แบบ..”
“แบบชอบผู้ชายไง!”
อื้อ.. อันที่จริง.. ผมควรจะแปลกใจนะ
แต่มันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น จะว่าไงดี
“เออ ก็น่าจะรู้ ..” ผมตอบอะไรออกไปวะเนี่ย
“แต่ที่บอกว่ามีผัว.. นี่ .. ผัวเลยอ่อ”
“เอ๊า เออดิวะ ได้ยินมาแบบนี้จริงมึง กูก็ไม่ค่อยเชื่อหรอก”
“...”
“น้องเขาดูซนๆ แสบๆ ทั่วไป แต่ถ้ามีแฟนเป็นผู้ชาย มันก็ไม่แปลกป้ะ โลกไปถึงไหนกันละ”
ใช่ ผมก็คิดแบบนั้น ทุกวันนี้สังคมและทั่วโลกเขาก็พยายามสนับสนุนเรื่องนี้กันอยู่
ซึ่งผมไม่ได้มีปัญหากับรสนิยมของน้องเขาเลยนะ
“...”
“รู้สึกจะอยู่มหาลัยแล้วด้วยว่ะ”
แต่ไอ้สิ่งที่กวนใจอยู่ตอนนี้ มันคงไม่ใช่.. ใช่มั้ย
..
.
.
บอกตรงๆว่าผมเรียนคาบบ่ายหลังจากนั้นไม่รู้เรื่องเลยสักนิด หัวสมองมันวนเวียนคิดถึงอยู่แต่กับเรื่องที่ได้ยินเมื่อตอนพักเที่ยง ผมไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ไอ้จั๊บฟังเท่าไหร่
ผมกับหมีแมนเป็นแค่รุ่นพี่ รุ่นน้อง
ทักทายกัน
ยิ้มให้กัน
คุยกันบ้าง
ถึงจะไม่ได้เจอกันบ่อยมาก แค่เฉพาะเวลาพักหรือตอนบังเอิญเดินสวนกัน
ถามตัวเองให้แน่ใจ ว่ารู้สึกยังไงกับน้อง
ไม่ได้โง่หรือบื้อขนาดที่ไม่รู้ตัวเองหรอก
ชอบที่น้องเรียกชื่อ?
ชอบเวลาที่สบตาน้อง ทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ?
ดีใจทุกครั้งเวลาเห็นโพสอิทแปะอยู่บนโต๊ะตัวเอง?
เวลาน้องยิ้มให้ หรือเวลาได้เห็นหมีแมนเต้นแอโรบิกตอนเช้า
ถามว่าผมอยากให้ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นทุกวันมั้ย?
ถ้าคำตอบทุกข้อของผมคือใช่
มันคงไม่ใช่แค่พี่น้องร่วมโรงเรียนกันแล้วสิ
แล้วถ้าเกิด.. น้องเขามีคนที่รักแล้ว ผมยังสามารถยิ้มให้น้องเขา หรือทักทายแบบที่เคยทำได้รึเปล่า
เพราะถ้าผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้อีก มันคงเหงาไม่ใช่หรอ
เริ่มจะเข้าใจไอ้จั๊บขึ้นมานิดๆละ
.
.
.
บังเอิญไปเห็นหมีแมนตอนเช้าที่น้องเพิ่งถึงโรงเรียน เกือบจะได้ทักแล้วมั้ง ถ้าไม่ดันไปเห็นว่ามีผู้ชายรูปร่างสูง ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่งตัวดี ใส่เสื้อเชิ้ตติดกระดุมดูเรียบร้อยเดินลงมาจากรถ
เขาเดินอ้อมมาหาหมีแมน อ้าแขนรอรับ น้องเข้าไปกอดคุณคนนั้น
แล้วหอมแก้มกันก่อนที่น้องจะเดินเข้าโรงเรียน
ยิ้มหน่อยเร็ว!
เย็นวันนี้ผมถูกไอ้จั๊บทิ้ง ..
มันไปซ้อมบอลสำหรับลงแข่งกีฬาแล้ว
ส่วนผมต้องอยู่ทำเวรคนเดียว
เอาขยะไปทิ้ง ลบกระดาน กวาดพื้น จัดโต๊ะให้เข้าที่
ที่จริงมันก็ใช้เวลาไม่นานหรอก จัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว
แต่ที่นั่งๆอยู่ตรงโต๊ะตัวเอง มองวิว คิดอะไรไปเรื่อยแบบนี้
แม่ง มึงเล่นเอ็มวีอยู่หรอวะสิงห์
ผมเดินลงบันไดจากชั้นเรียนของตัวเองอย่างคนไม่รีบร้อน
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเล่น ถึงจะไม่ใช่นิสัยผมก็เถอะ
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ตัวเองชอบกดเข้าไปดูรูปของหมีแมน
เห็นน้องเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์แล้วชอบโพสวิดิโอลงไอจี เวลามันกินเมล็ดทานตะวัน หรือตอนวิ่งในกรงล้อ เจ้าหนูแฮมสเตอร์มันน่ารักดี
ผมอยากลองจับเหมือนกันแต่ไม่กล้า ไม่ใช่อะไร กลัวจะทำมันเจ็บ ตัวเล็กนิดเดียวเอง
“ดูอะไรอยู่ !!”
“เชี่ย!”
ผมตกใจเกือบทำโทรศัพท์ร่วง หมีแมนที่โผล่มาจากไหนไม่รู้วางแขนลงบนไหล่ผม
“หืมม? นี่โก้หนิ” น้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้โทรศัพท์ในมือผมก่อนถามเมื่อมองเห็นว่ากำลังดูอะไรอยู่
จะแก้ตัวว่าไม่ใช่ก็ไม่ทันละ เพราะหน้าเจ้าตัวดันอยู่ในวิดิโอด้วย
หมีแมนมองผม ถ้าเข้าใจไม่ผิด เหมือนน้องอยากจะพูดอะไรสักอย่าง นิ่งไปสักพักก่อนจะเอ่ยออกมา
“ชอบหรอ?”
ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า คำถามที่น้องถามผมนี่..
หมายถึงหนูแฮมสเตอร์ หรือหมายถึงอย่างอื่น
“เออ ก็.. น่ารักดี”
คำตอบนี้ผมหมายถึงโกโก้นะ
เพราะหมีแมนไม่ใช่แค่ “ก็ น่ารักดี” นี่
“เดี๋ยวเอามาให้เล่น”
น้องเดินนำไปข้างหน้าแล้วหันหน้ามาทางผมที่ยังหยุดอยู่ตรงทางเดิน “ทำเวร?”
“เออ”
“เป็นอะไร ทำไมวันนี้พูดน้อยจังครับ”
ปกติผมดูเป็นคนพูดมากหรอเนี่ย ... “เปล่าๆ”
“แล้วทำไมแกยังไม่กลับ” ผมตัดสินใจถามออกไป
“อ้อ.. รอจอห์นมารับ”
จอห์นที่ว่านี่.. คนที่มาส่งเมื่อเช้าสินะ..
“รอนานละเนี่ย ยังไม่มาอีก โว้ะ”
“เดี๋ยวบอกให้เลิกมาส่งซะนี่” พูดเหมือนบ่นกับตัวเองเบาๆ เกลียดที่ตัวเองดันหูดีได้ยินชะมัด
เพราะรู้ตัวอีกทีผมก็ดึงมือน้องให้ไปด้วยกัน ก่อนจะผลักประตูเข้าไปในห้องของเด็กชั้น ม.4 สักห้อง
ปัง!
“พี่สิงห์ มีอะไรป่ะครับ?” น้องรีบถามผม คงตกใจแล้วก็สงสัยที่อยู่ๆก็โดนลากเข้ามาในนี้
“.. ไม่มี”
น้องขมวดคิ้ว “จริงอะ มีอะไรบอกได้นะ” เหมือนคิดว่าถ้าไม่มีอะไรแล้วจะลากตัวเองมาทำซากอะไร
“ไม่รู้”
“เอ๋า งั้นถ้าพี่สิงห์ไม่รู้ ละนี่จะทำไงดีอะ”
“ไม่รู้” ผมตอบออกไปอีก
“พี่พูดเป็นแต่คำนี้ป่ะนิ”
หมีแมนยกมือขึ้นกอดอก ท่าทางเหมือนมาเฟียกำลังจะเรียกเก็บแผงค่าเช่า น้องกดดันให้ผมพูดอะไรสักอย่าง
หงุดหงิดตัวเองจริงๆ
ทำตัวเหมือนพวกขี้แพ้ชะมัด
“โอมมมม” ผมตกใจรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ เมื่อหมีแมนวางมือลงบนหัวผม
ถ้าเป็นคนอื่นผมคงปัดออกไปแล้ว ไม่ชอบเวลามีคนมาจับ มายุ่งอะไรแบบนี้เลย
“สติจงมา สติจงมา” มองน้องหมีแมนที่หลับตาแล้วทำท่าทางเหมือนจะเป่ามนต์อะไรสักอย่าง
“เพี้ยง”
ในหัวตอนนี้ความคิดตีกันไปหมด
บางทีมันอาจจะเริ่มตั้งแต่ที่น้องยิ้มให้ผมครั้งแรกนั่นแหละ
“ดีขึ้นยังครับ?”
ทั้งดีใจ เสียใจ สับสนในสิ่งที่น้องกำลังทำอยู่
น่าจะรู้ตัวให้เร็วกว่านี้
คนตรงหน้าผมสบตาผม พอมองเข้าไปในนั้น สายตาน้องเต็มไปด้วยคำถาม
คงเป็นเพราะมือผมเองที่วางทับลงไปบนมือของเจ้าคนตรงหน้าตอนนี้
“ถามจริงๆ”
“คะ.. ครับ?”
“ทำแบบนี้ทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้วอะนะ”
หมีแมนมองผมอย่างไม่เข้าใจ “แฟน?”
ผมเงียบไม่ตอบอะไร “แฟนที่ไหน.. เอ้ย ได้ยินมาเหมือนกันหรอ”
คิดไปเองรึเปล่าไม่รู้ว่าร่างกายมันชาๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ถ้ามีแฟนแล้วที่ทำอยู่นี่ก็ปกติปะ”
“ฮะ? ทำ? ทำอะไร” น้องถาม สีหน้าสับสนเต็มที่ อยากจะโกรธแต่ไม่รู้ว่าผมมีสิทธิจะรู้สึกแบบนั้นรึเปล่า ผมคงจะดูเป็นไอ้งี่เง่าสินะตอนนี้
“ก็อัธยาศัยดี ยิ้มให้ทุกคน อะไรแบบนั้นอะ”
“เฮ้ย ไม่ใช่แบบนั้นนะ” ยิ่งได้ยินแบบนั้นยิ่งไม่เข้าใจ เหมือนโดนปั่นหัวให้คิดอะไรเองไปเรื่อย
ถ้าไม่ได้ชอบกัน ทำแบบนี้มันถูกต้องหรอ?
“แล้วแบบไหน?”
“โอมมมม ตั้งส..” ตั้งท่าเตรียมจะวางมือบนหัวผมอีกครั้ง แต่ผมไม่มีอารมณ์จะมาสนุกหรอก
“ไม่เล่น”
“ง่ะ..”
น้องชะงักแล้วมองผม แก้มใสๆกำลังขึ้นสี นั่นทำให้ผมยังคงไม่ได้รับคำตอบหรือเข้าใจในสิ่งที่กำลังสงสัยอยู่ดี
แต่ถึงอย่างนั้น น้องก็น่ารักมากจริงๆ
ผมรู้ดีเลยแหละ
“โอเค พี่สิงห์ฟังก่อนเด้อ..” เว้นวรรคแล้วสูดหายใจ “นี่อะ” ชี้ที่ตัวเอง
“ยังไม่มีแฟน”
“...”
“จริงๆ” ยืนยันอีกรอบ “คนปล่อยข่าวไปเรื่อย ไม่ได้มีใครซะหน่อย”
“แล้วคนที่มาส่งเมื่อเช้าอะ?”
“หื้ม จอห์นหรอครับ?” ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วอยู่ๆน้องก็ทำหน้าแปลกใจ “เห็นด้วยหรอ”
เห็นสิ คนทั้งโรงเรียนก็เห็น เพราะดันมาเข้าแถวช้าด้วยนั่นแหละ
“นั่นพี่ชายผมครับ ลูกพี่ลูกน้อง ชอบทำเหมือนนี่เป็นเด็กอายุ 5 ขวบ น่าเบื่อเนอะ”
ประโยคที่แค่ได้ยินผมก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ดีใจตั้งแต่ที่บอกว่าไม่มีแฟนแล้ว
“งั้นแกก็โสด?” ผมยิงคำถามเข้าไปอย่างตรงประเด็น แต่กลับต้องประหลาดใจเมื่อน้องหมีแมนมีอาการประหม่าแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“เอ๊ะ เอ้อ ก็.. ครับ โสดครับ” พูดเสียงเบา ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนตรงประโยคหลัง
“ทำไมมม จะจีบหรอออ อิอิ” แต่ก็ยังไม่วายพูดเหมือนคิดว่าผมเป็นรองตัวเองยังไงอย่างงั้น
หมีแมนยังไม่เข้าใจสินะ ว่าตอนนี้ ผมกำลังจะเอาจริง
ผมเท้าแขนกับผนังซีเมนต์ด้านหลังที่ดูดซับความเย็นไว้ นั่นไม่ได้ทำให้บรรยากาศรอบๆผมตอนนี้ดูสบายขึ้นเท่าไหร่
เพราะผมรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากหมีแมน และเหมือนน้องตัวเล็กลงหากมองจากมุมของผม
คนที่ดูเก่งเมื่อกี้.. แค่ไม่ถึง 1 วิด้วยซ้ำมั้ง กลายเป็นน้องลูกหมีไปซะแล้ว
แถมทำท่าเหมือนจะหนีด้วย
แต่ผมไม่ยอมให้หนีไปตอนนี้หรอก ให้ตายก็ไม่
“ชอบมั้ย?”
“ครับ?”
“..ชอบมั้ย?” ผมย้ำชัดๆอีกครั้ง สาบานเลยว่าที่พูดออกไปไม่ใช่ว่าไม่เขิน
ไม่เคยจะจีบใครจริงจังสักครั้ง
ปกติชีวิตผมมีแค่กิน เรียน กลับบ้าน อ่านหนังสือ วนไปรื่อยๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจ
ผมไม่ได้รู้สึกชอบอะไรกับใครเขานานแล้ว มันยังไม่ใช่
เพราะพอใจกับสิ่งน่าเบื่อๆในทุกๆวัน
ถามว่ามีคุยมั้ยก็มีบ้าง โดนจับคู่กับรุ่นพี่ รุ่นน้องบ้าง แต่ผมไม่ได้คบกับใคร
แค่เพราะมันยังไม่ใช่
หมีแมนเป็นคนแรกที่ผมคิดอยากจะลองเข้าหาดู
คิดเหมือนกันว่าน้องเขามีความพิเศษอะไร
ผมถึงได้รู้สึกเหมือนถูกดึงให้เข้าไปอยู่ในวงโคจรของเด็กคนนี้
บางทีความรู้สึกที่เราพยายามคิดแทบตาย มันอาจจะง่ายมากๆ
จำไม่ได้แล้วว่าทำไมถึงชอบกินแตงโม ยังมีผลไม้อย่างอื่นที่อร่อยอยู่อีกตั้งเยอะ
แต่แตงโมก็คือแตงโม ผลไม้ที่เอาไว้ทานในหน้าร้อนอย่างมะม่วง ยังมาแทนที่แตงโมไม่ได้
ก็แค่ชอบ แค่นั้นแหละ
“พี่สิงห์หมายถึงโกโก้..?” โถ่เอ๊ย เวลาแบบนี้ใครเค้าจะถามถึงหนูแฮมสเตอร์ตัวเองกันล่ะเนี่ย
“ไม่ใช่สิ.. ” ผมขยับเข้าไปใกล้อีก คนตัวเล็กถดหน้าหนีจนชิดกำแพง
“ชอบพี่สิงห์มั้ย”
หมีแมนก้มหน้าก่อนจะพยายามผลักผมออก แต่ดูเหมือนแรงที่ส่งมาจะไม่มากพอ เพราะนั่นไม่ได้ทำให้ระยะห่างจากน้องมากขึ้นเลย
“พี่สิงห์..” อย่าเรียกเสียงอ่อนแบบนั้นจะได้มั้ยหมีแมน
ไม่คิดว่าพอตัวเองยอมรับแล้วถามตรงๆ จะกลายเป็นแบบนี้นะเนี่ย รู้งี้รีบๆ ทำตั้งนานแล้ว
“เงยหน้า เร็ว” หมีแมนยอมทำตามผมอย่างว่าง่าย .. หูแดงด้วย
“ตอบคำถามพี่ด้วย”
“...”
“...?”
“...ชอบ”
“อะไรนะ”
“ชอบไง โอ้ย อย่าแกล้งสิครับ” หมีแมนยกมือขึ้นปิดหน้า
แปลกชะมัด คำว่า “ชอบ” ง่ายๆสั้นๆ นี่ทำให้ผมมีความสุขได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ
น้องไม่ได้มองหน้าผมเลยตอนนี้ หุบตาลงต่ำแถมทำปากเบะเหมือนตัวเองโดนแกล้งให้จนมุม
อ๋า... รู้สึกแบบนี้เองสินะ
“หมีแมน แกน่ารักอะ”
“...”
ผมตั้งใจจะพูดซ้ำเพราะคนตรงหน้าเหมือนจะไม่มีสติแล้ว “น่า..”
“ร.. รู้แล้ว คนชมเยอะ รู้ตัวๆๆ” ปากพูดแบบนั้นแต่การกระทำไม่ใช่เลยนะ เก่งแต่ปากนี่นา
“ขอหอมแก้มที” ผมบอกในสิ่งที่กำลังคิดอยู่ในใจ บอกไปตรงๆหน้าด้านๆแบบนี้แหละ
น้องทำตาโตแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน .. คราวนี้ผมหลุดขำออกมาเลย
ตกใจมากเลยหรอ
“พี่สิงห์พูดอะไรเนี่ย”
“อย่าล้อเล่นดิ” น้องก้มหน้าก้มตาหนีผม ขยับไปทางซ้ายทีขวาที
ได้ใจผมเลยครับ จัดการแหย่อีกโดยการยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“เปล่านี่”
“พี่เมาสารเคมีห้องแล็ปหรอ ทำไมเป็นงี้อะครับ”
“เอ้า ..” ผมเคาะหัวน้องเบาๆเป็นเชิงหยอกล้อ สารเคมีอะไร เพ้อเจ้ออีกแล้ว
“...”
“แกถามว่าจะจีบหรอ พี่ก็กำลังทำอยู่ไง”
“...”
“อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นนะ” ผมบอกอย่างจริงจัง อยากเก็บไว้ชื่นชมเองคนเดียว
อยากเห็นความน่ารักนี้คนเดียว จนไม่อยากแบ่งให้ใคร
“ทำอะไรอีก ฮือ” กระทืบเท้าเบาๆเหมือนคนไม่พอใจ
ไม่ได้ดูน่ารำคาญสักนิด
อยากแกล้งอีกเยอะๆ อยากให้อ้อนเยอะๆ
“ทำแบบนี้”
บรรจงประทับริมฝีปากลงไปบนแก้มนุ่มๆนั่น ความรู้สึกไม่ได้ต่างจากที่คิดไว้เลย
“เฮ้ย พี่สิงห์”
“แก้มหอมดี” ผมลอยหน้าลอยตาตอบ
หมีแมนเหมือนจะพูดไม่เป็นภาษาแล้ว น้องอึกๆอักๆอยู่แปปนึง จนผมหมั่นเขี้ยวอยากทำอีกรอบ
แต่ก่อนจะได้ลงมือ น้องเล่นทีเผลอ ผลักผมออกแล้วชิงพูดขึ้น
“ไปแล้ว! เดี๋ยวจอห์นรอ”
“อื้อ เชิญ” เสียดายนิดหน่อยที่ไม่ทันจะได้เริ่มอย่างจริงจัง
พอคิดไปคิดมา เก็บไว้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวน้องหมีเขาจะตกใจหนีไปซะก่อน
หมีแมนทำหน้าเหมือนอยากจะตีผม ไม่รู้เป็นเพราะตัวเองไม่กล้าเอาคืนหรือว่าอะไร
มองน้องที่รีบจ้ำเท้าออกไปจากห้อง ส่วนผมยังคงยืนยิ้มอยู่ที่เดิม
ทันใดนั้นเสียงน้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง “พี่สิงห์!” เรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นตอบรับ
เริ่มอยากให้เรียกว่าสิงห์เฉยๆ แล้วแฮะ
“เจอกันพรุ่งนี้ครับ” น้องบอกเบาๆ ยื่นหน้าโผล่พ้นประตูโดยที่ตัวยังยืนหลบอยู่หลังกำแพง
ผมหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะตอบ
“อื้อ”
หมีแมนน่ารักจริงๆ ว่ามั้ยครับ :)
------------------------------------------------------------------
Yo
ปุรินจังค่ะ
เพลงนี้มีความน่ารักใสใสกุ๊กกิ๊กมาก
และยากเหมือนกัน T_T
พยายามสุดๆเลย
อยากมีน้องหมีแมนเป็นของตัวเอง แง้
ถ้าชอบสักคนก็ดีใจแล้ววว
พูดคุยกันได้เช่นเดิมนะ!
จะแอบไปส่อง หุหุ
เยิฟฟฟ ♥
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in