เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storylittlemm
The letter
  • นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้เขียนจดหมาย ถ้านึกย้อนไป ฉันเริ่มการเขียนจดหมายตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถม แต่มันก็เพียงแค่การเรียนรู้ การเขียนเพื่อให้มีงานส่ง 

    ใครจะไปรู้ ว่าในโลกแห่งอนาคต ที่ผู้คนสามารถติดต่อกันได้แค่เพียงปลายนิ้วผ่านเทคโนโลยีที่เราเรียกว่า โทรศัพท์มือถือ มันก็เหมือนพาเราไปหากันได้ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันข้ามซีกโลกก็ตาม แต่มันกลับเหงา นั่นเพราะการสื่อสารในอนาคตนั้น จุดหมายหลักของคนเรา กลับไม่ใช่เพื่อให้หายคิดถึง แต่ดันเป็นเรื่องงานซะมากกว่า แทนที่จะทำให้เราได้ใกล้กัน แต่เรากลับห่างกัน แม้ว่าเราจะนั่งแค่ตรงข้ามกันก็ตาม

    แต่ละยุคแต่ละช่วง ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ตัวอีกที รอบตัวฉันก็รายล้อมไปด้วยเทคโนโลยีที่สะดวกสบายและทุกคนต่างเข้าถึงกันได้อย่างง่ายดาย ในแค่คลิกเดียว หรือ แค่เพียงมีเบอร์มือถือหรือไอดีไลน์ หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับการติดต่อสื่อสารต่างๆ เราไม่จำเป็นต้องพกคอมไปทุกที่ ขอแค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียวติดตัว ก็ทำให้เราติดต่อใครก็ตามที่มีรายชื่ออยู่ในนั้น 

     

    แต่แปลกไหม ในเมื่อเราสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา แต่การพิมพ์คุยกันนั้น กลับไม่ทำให้หายคิดถึง หรือได้กลิ่นไออุ่นได้เลยสักนิด นั่นเพราะไม่สามารถสื่อสารได้มาก เท่ากับการได้พูดคุยพบปะกันต่อหน้าหรือแม้แต่การเขียนจดหมายก็ตาม

     

    เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ฉันได้รับจดหมายจากเพื่อนคนหนึ่ง เราไม่ได้เจอกันเลยนับตั้งแต่เรียนจบ เราอยู่กันคนละประเทศ แรกๆ เราติดต่อกันผ่านแอพต่างๆ แต่ยิ่งนับวัน ข้อความที่ตอบกันก็เริ่มเว้นระยะห่างขึ้นเรื่อยๆ จากชั่วโมง เป็นวัน จากวันเป็นเดือน และเป็นปี รู้ตัวอีกทีเราก็แทบไม่ได้พูดคุยกันเลยด้วยซ้ำ 

    เรายังคงเห็นเรื่องราวต่างๆของอีกฝ่ายผ่าน IG Story เสมอ

    ตัวฉันที่มัวแต่ยุ่งกับงาน พอรู้ตัวอีกที โทรศัพท์ก็เต็มไปด้วยข้อความที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ถ้าเป็นเอกสารที่รอการตอบรับ มันคงจะเป็นกองเอกสารที่สูงมากแน่ๆ ในแต่ละวันฉันเหน็ดเหนื่อยกับการดำเนินชีวิต และกำลังท้อกับเรื่องงาน มีเพียงการใช้วันหยุดเท่านั้นที่สามารถช่วยให้ฉันดีขึ้นได้ ถ้าไม่อยู่บ้าน หรือออกไปข้างนอกกับครอบครัว ฉันก็คงใช้วันหยุดกับการออกเดินทางไปที่อื่น  

    แต่แล้ว วันหนึ่ง เมื่อฉันกลับถึงบ้าน ฉันพบว่ากล่องจดหมายสีแดงที่แขวนอยู่หน้าบ้านนั้น มีซองจดหมายอยู่เต็มไปหมด ฉันจึงเปิดเช็ค และรวบรวมซองจดหมายทั้งหมดออกจากตู้จดหมาย 

    เมื่อฉันกลับเข้ามาในบ้าน ในขณะที่ฉันกำลังจะเอาซองจดหมายทั้งหมดให้กับพ่อแม่ของฉัน ฉันก็เห็นซองหนึ่ง ลักษณะเหมือนจดหมายมากกว่าจะเป็นใบเอกสารสำคัญต่างๆ และเมื่อฉันหยิบมาดูซองสีขาวนั้นมีขนาดยาวเท่ากับเอสี่พับครึ่งมาสามทบได้ เมื่อฉันเช็คดูว่าจ่าหน้าถึงใคร ชื่อที่จ่าหน้าซองจดหมายฉบับนั้นทำให้ฉันยิ้มออกมา ฉันทั้งรู้สึกดีใจและแปลกใจในเวลาเดียวกัน มันจ่าหน้าซองถึงฉัน ส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น จากเพื่อนคนหนึ่งของฉัน

    และนั่นมันคือจดหมายฉบับแรกของฉัน ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยได้รับพัสดุหรือสิ่งของจากผู้อื่นทางไปรษณีย์หรอกนะ แต่ฉันแค่ไม่เคยได้รับจดหมายจากเพื่อน ที่เขียนบอกเล่าเรื่องราวและถามไถ่ไปในตัวผ่านตัวอักษร ซองจดหมายที่เขียนด้วยลายมือแทนการพิมพ์ ฉันบรรจงเปิดซองอย่างบรรจงและระมัดระวัง ฉันตื่นเต้นมากจนอดใจแทบจะไม่ไหวกับการที่จะได้อ่านเนื้อหาข้างในนั้น เมื่อฉันเปิดซองออกมาแล้ว ฉันก็คลี่กระดาษจดหมายออก เป็นกระดาษขนาดเท่าครึ่งเอสี่เลย ลายมือภาษาจีนที่บรรจงเขียนได้อย่างสวยและตั้งใจ เกริ่นหัวกระดาษทักทายฉันอย่างอบอุ่น ถามไถ่ถึงความเป็นอยู่ของฉัน รวมถึงสถานการณ์ที่ฉันเป็นอยู่ ย่อหน้าต่อมาก็เริ่มเข้าเรื่องของอีกฝ่ายที่ต้องการแบ่งปันว่าพบเจออะไรมาบ้างในไม่กี่ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่แยกย้ายกันไป ฉันอ่านไปยิ้มไป ความรู้สึกนี้ มันรู้สึกดีมากๆ แค่ซองจดหมายซองเดียว ไม่จำเป็นต้องมีของต่างๆ แค่กระดาษแผ่นเดียวที่เขียนด้วยปากกาธรรมดาๆ ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันและเพื่อน เราไม่ได้ห่างกันเลย เหมือนกับระยะห่างเรานั้นใกล้กันมากกว่าการพิมพ์คุยกันซะอีก

    นับตั้งแต่นั้นมา เมื่อถึงวันเกิดของเพื่อน ฉันไม่รีรอที่จะซื้อของขวัญ พร้อมกับเขียนจดหมายตอบกลับระยะเวลาที่อีกฝ่ายจะได้รับอาจจะช้าหน่อย แต่ฉันคิดว่าวิธีนี้นี่แหละที่จะทำให้เราได้ใกล้กันมากกว่าเดิม

    ผ่านไปเกือบเดือน เพื่อนของฉันได้รับพัสดุพร้อมกับจดหมายของฉันเรียบร้อย เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราก็ยังคงดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆเหมือนกัน ต่างคนต่างยุ่งกับงาน เมื่อปัดหน้าจอมือถือเห็นเรื่องราวต่างๆผ่าน IG Story ก็พบว่าเราไม่ได้กลับมาแชทกันผ่านแพลทฟอร์มต่างๆเหมือนเคย แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกห่างกันแม้แต่น้อย

    ฤดูกาลเปลี่ยนผันไป ฉันได้รับจดหมายฉบับที่สองจากเพื่อนคนเดิมของฉัน กล่าวขอบคุณ และยังคงเกริ่นต้อนรับได้อย่างอบอุ่นเหมือนเดิม ฉันสัมผัสได้ถึงความจริงใจและอบอุ่นผ่านตัวอักษรไม่เปลี่ยน จากนั้นฉันก็เขียนจดหมายตอบกลับไปอีกครั้ง  

    จดหมายฉบับที่สามส่งตรงมาถึงกล่องจดหมายที่บ้านฉันอีกครั้ง เมื่อเราได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ และชีวิตความเป็นอยู่ที่เจอผ่านตัวอักษรที่เขียนผ่านปลายปากกาของแต่ละคน ฉันก็ได้เรียนรู้จากเพื่อนคนนี้และประสบการณ์ครั้งนี้ เป็นความทรงจำที่ดี ถึงแม้ว่าเราจะมีเบอร์โทร มีไลน์ หรือแพลทฟอร์มแชทต่างๆ ที่หลายคนคิดว่าเราสามารถคุยกันได้ทุกวันได้ก็จริง แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อต่างคนต่างยุ่ง เราก็จะค่อยๆหายกันไปจากในโซเชียล จากแชทที่เคยตอบประจำ เราก็จะค้างแชทนั้นไว้เพราะเหนื่อยล้าจากงานที่ทำในแต่ละวันจนอยากจะพัก เวลาผ่านไป เราก็จะห่างกันไป เหลือเพียงแค่ข้อความที่ค้างไว้ จนขาดการติดต่อและลืมกันไปในที่สุด

    แต่มันไม่มีอะไรที่จะทำให้ใกล้กัน สัมผัสถึงความห่วงใจจริงใจและอบอุ่นได้เท่ากับตัวอักษรที่เขียนผ่านจดหมาย หรือแม้แต่เสียงผ่านปลายสายจากโทรศัพท์

    การที่เราไม่ได้คุยกันเลยในโลกออนไลน์ และถึงแม้ว่าจดหมายนั้นจะส่งถึงช้ากว่าข้อความในมือถือก็ตาม แต่มันกลับทำให้เราได้ใกล้กันมากกว่าข้อความที่ส่งถึงได้ในวินาทีเดียว  เพียงแค่กระดาษแผ่นเดียว  แต่กลับทำให้เราอบอุ่นและเข้าถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย รับรู้ความรู้สึกรวมถึงสถานการณ์ต่างๆของอีกฝ่ายได้มากกว่าการพิมพ์ยาวๆเพื่ออธิบายในแชท แรกๆมันอาจจะแปลกสำหรับฉันมาก แต่จนถึงตอนนี้มันก็ทำให้ฉันรู้สึกดี

    ครั้งนี้ฉันคงต้องขอบคุณเพื่อนของฉัน ที่สอนให้ฉันได้รู้ในเรื่องนี้

    ฉันเคยคิดว่าคนเราห่างกันไปเพราะยุ่ง แต่เรารู้ตัวอีกทีก็อาจจะลืมกันไปแล้ว เมื่อเจอหน้ากันอีกครั้ง ที่เคยคิดว่าสนิทหรือรู้จักกัน อาจจะห่างกันมากกว่าเดิมก็ได้ ถึงแม้จะมีนึกถึงกันบ้างบางครั้ง แต่เมื่อเจอกันอีกเราจะเหมือนเดิมรึปล่าวนะ ที่เคยคิดว่ามีเรื่องเล่ามากมาย หลายอย่างอยากระบาย แต่เมื่อเจอหน้ากันอีกครั้ง เราจะยังคุยกันหลายๆเรื่องไหม นั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ได้

    ฉันรู้เพียงแค่ว่า ตั้งแต่ฉันได้เริ่มเขียนจดหมาย ทุกๆอย่างในความคิด มุมมองของฉัน รวมถึงชีวิตฉันก็เริ่มเปลี่ยนไป

    ขอบคุณนะจดหมาย ไว้ฉันจะเขียนอีกเมื่อมีโอกาส  

    ขอบคุณนะเพื่อนของฉันที่ไม่เคยลืมกัน ไว้เราเจอกันในซักวันนึงนะ

     

    Littlemm

    29.5.2022

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
faiinormal (@faiinormal)
น่ารักดีนะคะ