เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
lazy watchingmynkdontbelazy
[Society Game : EP03] ห้าขาสามัคคี
  • อธิบายกติกาและเงื่อนไขของรายการโดยรวม - ที่นี่
    ตอนที่ 01 : จังกีมนุษย์ - ที่นี่
    ตอนที่ 02 : โต๊ะกลมแห่งความทรมาน - ที่นี่
    ติดตามกันได้ที่ twitter นะคะ :)

    -

    I : บรรยากาศอันขมขื่นของนบดง

    เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกับครั้งแรกที่นบดงต้องประสบกับความขมขื่นของความพ่ายแพ้
    บรรยากาศหลังจากการถูกคัดออกของชินแจฮยอก ทำให้บรรยากาศภายในชุมชนนบดง
    ขมขื่นไม่น้อย แต่เราจะก้าวไปไหนต่อไม่ได้ ถ้าไม่สลัดความเจ็บช้ำน้ำใจเอาไว้เบื้องหลัง
    คิมฮีจุน ผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำแห่งนบดงในวันนั้นจึงเรียกประชุมสมาชิกชุมชนทันที
    เพื่อชี้แจงแถลงไขว่าเหตุใดจึงเป็นชินแจฮยอกที่ต้องเป็นคนจากไป ทั้งๆ ที่ผิดความคาดหมาย
    ตัวเลือกแรกๆ ควรจะมาตกอยู่ที่ โอลิเวอร์ - ผู้ที่กระตือรือต้นจนออกนอกหน้า
    หรือไม่ก็ควรจะเป็น มาโช ที่ทำผิดพลาดมากในเกมจนชุมชนต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ให้อภัย

    ฮีจุนบอกว่าเหตุผลที่คัดแจฮยอกออกเป็นเพราะเขาช่วยชุมชนได้ไม่มากในระหว่างเล่นเกม
    (ตามที่เราได้บอกไปเมื่อตอนที่แล้ว) คือช่วยไม่มากไม่เท่าไหร่ แต่ทำท่าทางเหมือนไม่มีแก่ใจ
    จะช่วยต่างหากที่มันจี้ใจผู้นำ และส่งผลมากถึงขนาดที่เขาคิดว่าเอาไว้ต่อไปก็คงจะไร้ประโยชน์

    ฟากมาโชเองตอนให้สัมภาษณ์ ก็บอกว่าไม่รู้สึกดีใจเลยที่รอดมาได้ แสดงให้เห็นว่าลึกๆ แล้ว
    เขารู้ตัว รู้ว่าตัวเองนี่แหละที่เป็นปัญหาใหญ่และหลักในการที่ทำให้ชุมชนพบกับความพ่ายแพ้
    เขารู้สึกว่าตัวเองสูญเสียความเจ๋ง ไม่คูลเลยที่รอดมาได้แบบนี้

    โอลิเวอร์เองก็เช่นกัน เขายอมรับว่าตัวเองทำผิดพลาดหลายอย่างในวันนี้
    และรู้ตัวดีว่าตัวเองพูดมากเกินไป สิ่งที่น่าสนใจคือเขารู้ว่าตัวเองพูดมาก
    แต่ก็ยังพูดต่อ พูดมากเรื่อยๆ พูดมาอย่างเดิม (ฮา) แถมพูดตรงอย่างยิ่งด้วย
    โดยการเรียกมาโชมาคุยกันแบบแมนๆ เปิดอก (เปิดอกจริงๆ เพราะโอลิเวอร์ถอดเสื้อ -..-)
    เขาประกาศกร้าวว่าให้มาโชหยุดเกมการเมืองพวกนี้สักที รู้มั้ยว่าที่รอดมาได้นี่เพราะฮีจุนช่วยไว้
    และเหตุผลที่เขากระเหี้ยนกระหือรืออยากจะทำทุกวิถีทางให้มาโชออกให้ได้ในวันนี้
    เป็นเพราะมาโชห่วย และทำผิดพลาดในเกมอย่างที่ไม่น่าให้อภัย
    และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือต่างฝ่ายต่างพยายามไล่ต้อนให้อีกฝ่ายจนมุม
    จนไม่สามารถโฟกัสกับเกมได้

    ดีจังที่สุดท้ายการคุยกันแบบแมนๆ เปิดอกไม่ได้จบด้วยการตบปาก
    แม้จะไม่ได้จบด้วยการจูบปาก แต่ทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะให้วันนี้เป็นบทเรียน
    ต่อไปต้องต่างก็สัญญาว่าจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่เพื่อตัวเองอย่างเดียว
    แต่เพื่อชุมชนด้วย


    II. การหลั่งน้ำตาของผู้นำแห่งมาดง

    ถ้าหากพอจะจำกันได้ ช่วงท้ายของตอนที่แล้วหลังจากที่นบดงต้องคัดสมาชิก 1 คนออก
    ผู้นำแห่งมาดงอย่างยางซังกุกถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอย่างน่าสงสาร
    สมาชิกในชุมชนต่างเข้ามาช่วยกันปลอบ ส่งผ้าเช็ดหน้าให้ ลูบไหล่ลูบหลัง
    นำมาซึ่งความเห็นใจ ความปลาบปลื้มแก่สมาชิกชุมชน
    เขาย้ำว่าที่ร้องไห้ก็เพราะชอบทุกคน เขาคงเสียใจถ้าวันหนึ่งจะต้องเป็นเขา
    ที่ทำหน้าที่คัดใครสักคนออกไป 

    แต่แน่นอนว่าไม่สำหรับทุกคนที่จะซาบซึ้งกินใจกับการหลั่งน้ำตานี้
    บางคนมองว่านี่เป็นเพียงองก์หนึ่งของการแสดงเพื่อซื้อใจ
    เพื่อให้เห็นใจ เพื่อรวมเสียง และทำให้ตำแหน่งผู้นำของซังกุกน่านับถือมากขึ้น
    และยังจีอัน คือคนๆ นั้น 

    เธอคิดว่าทั้งหมดเป็นการแสดงของซังกุกและทุกคนกำลังคล้อยตาม
    เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเรื่องความสำคัญของอาซลที่ฉายชัดผ่านการแบ่งเงิน
    (ตอนท้ายของตอนที่แล้ว มาดงเป็นผู้ชนะ ทำให้ได้รับรางวัล 10 ล้านวอน
    และซังกุกแบ่งเงินให้กับทุกคนคนละล้านวอน รวมถึงตัวเอง ยกเว้นอาซล)
    เพราะการไม่แบ่งเงินให้อาซลในครั้งนี้ ทุกคนสามารถตระหนักได้ทันทีเลยว่า
    อาซลกับซังกุกจะไม่มีวันแยกออกจากกันอย่างแน่นอน

    ความคิดนี้เองขับเคลื่อนให้ยังจีอันรู้สึกไม่พอใจ
    จนถึงขนาดสนับสนุนแฮซองอย่างเต็มกำลัง ให้เขากลับไปเป็นหัวหน้าอีกครั้ง
    ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และแม้ว่าเธอจะถูกคัดออกก็ตาม

    เรามาดูพันธมิตรฝั่งแฮซองกันบ้างดีกว่า
    แฮซองมีพันธมิตรก็คือ แฮซอง อินจิก ฮาเอล และจีอัน
    จากความคิดที่ต้องการผลักดันแฮซองให้กลับไปเป็นผู้นำอีกครั้ง
    จึงมีความคิดที่จะรวบรวมคนให้พอสำหรับการก่อกบฏ
    ชเวซอลฮวา เป็นตัวเลือกของพันธมิตรนี้

    ประกอบกับความสำคัญของอาซลที่ฉายชัดออกมานี้ นำไปสู่ความเคลื่อนไหวสำคัญ
    เพราะมาจากฝั่งพันธมิตรของผู้นำเอง อย่างซอลฮวา
    ความสำคัญของอีกคน ทำให้ความไว้ใจของอีกคนสั่นคลอน
    ซอลฮวาเริ่มมีความคิดที่ว่ากำลังจะถูกซังกุกหักหลังอยู่ตลอดเวลา
    เพราะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองสำคัญไม่เท่ากับอาซล 
    และถ้าหากเขาจะเลือกใครสักคนเพื่อยืนเคียงข้างในตำแหน่ง 3 คนสุดท้าย
    ก็ต้องเป็นอาซลมากกว่าเธออยู่แล้ว

    อีกหนึ่งคนที่มีอิทธิพลต่อความคิดของซอลฮวาก็คือฮาเอล
    (ฮาเอลเป็นหนึ่งในพันธมิตรแห่งแฮซอง) ในที่นี้ฮาเอลรับหน้าที่ในการปั่นหัว
    เพราะฮาเอลเป็นคนที่ซอลฮวาฟังมากที่สุด
    ฮาเอลบอกกับซอลฮวาว่า เธอได้ยินมาว่าซังกุกจะกำจัดผู้หญิง (ในกลุ่ม) ออกก่อน


    ความหวั่นไหวนี้ สั่นคลอนความมั่นใจของซอลฮวาได้
    จนถึงขนาดถามกับตัวเองและฮาเอลดังๆ ว่า
    "ฉันควรใช้กุญแจแห่งกบฏดีมั้ยนะ"

    ความคิดนี้มาถูกที่ถูกเวลากับความต้องการของพันธมิตรแห่งแฮซอง
    แฮซองสนับสนุนซอลฮวาให้ก่อกบฏ ด้วยการเติมเชื้อไฟลงไปในความหวั่นไหว
    ด้วยความคิดที่ว่าถ้าให้เลือกว่าต้องคัดใครออก ซังกุกต้องเลือกซอลฮวามากกว่าอาซลแน่ๆ
    แต่เขาไม่ได้บอกว่าให้ลงมือทำอะไรนะ เพียงแต่กระซิบดังๆ ว่า
    ถ้าคิดจะกบฎก็ขอให้บอก เราพร้อมจะเป็นแบคอัพให้เสมอ

    ซังกุกเองก็เริ่มเคลื่อนไหวกับความคิดใหม่ๆ 
    เขาวางแผนจะกำจัด 2 คนแรกออกจากชุมชน
    เพื่อปลดปล่อยทุกคนออกจากกลุ่มก้อนในตอนนี้
    ให้ไปเริ่มสร้างพันธมิตรใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่าง
    และแนวทางในการดำเนินเกม

    ทำไม... ผู้นำแห่งมาดงถึงคิดเช่นนั้น ทำไมล่ะ
    เราน่าจะต้องรักษาพันธมิตรเดิมเพื่อสร้างความแข็งแกร่งสิ ถึงจะถูก
    แต่เพราะความที่ระบบของมาดงค่อนข้างจะพิเศษ
    เพราะการวางเงื่อนไขของผู้ที่ถือกุญแจแห่งกบฎ 2 คน
    ทำให้อำนาจของผู้นำไม่มั่นคง และ 2 คนนี้ก็มีอำนาจมากขึ้น
    อุปสรรคอันใหญ่หลวงในการขับเคลื่อนให้ชุมชนมาดงดำเนินต่อไปได้เนี่ย
    คือการที่คนที่เหลือ (ที่เป็นสมาชิกดั้งเดิมแบบปราศจากอภิสิทธิ์ใดๆ) ทำการประท้วง (strike)
    ถ้าเขาเกิดไม่อยากตั้งใจเล่นเกมเพื่อเอาชนะล่ะ หมดแรงจูงใจไปเรื่อยๆ
    อัตราการแพ้ในเกมก็จะเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องส่งผลลบต่อชุมชน

    ซังกุกคิดว่าถ้าหากว่าเหลือ 9 คน (จำกัดคนในชุมชนไป 2 คนแล้ว)
    จะเกิดการเปลี่ยนผู้นำคนใหม่ มันจะเกิดสถานการณ์ใหม่
    คือจะทำให้เกิดพันธมิตรกลุ่มใหม่ สร้างความจูงใจใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนชุมชน
    ซึ่งตรงนี้อาซลไม่เห็นด้วย (เสียงแตกแล้ว)

    อาซลคิดว่าการคงไว้ซึ่งพันธมิตรเก่าที่เริ่มกันมาตั้งแต่แรก 
    และรักษาซึ่งสัญญาดั้งเดิมที่สร้างร่วมกันมาให้สำเร็จเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า
    เพราะมันเป็นความเชื่อใจที่มั่นคงและชัดเจน

    ความคิดนี้เองที่ทำให้อาซลไปบอกกับซอฮยอน (หนึ่งในพันธมิตรแห่งซังกุก)
    และซอฮยอนก็คล้อยตามไปในทางไม่เห็นด้วย อาซลก็เลยบอกว่าให้เออออห่อหมก
    ตามความคิดของซังกุกไปก่อนละกัน ถ้าเกิดว่าจะเกินการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงใดๆ
    ก็เดี๋ยวไว้ค่อยบอกกันอีกที แถมอาซลยังเอาความคิดนี้ไปบอกกับซอลฮวาด้วย

    เอาล่ะสิ จากที่ซอลฮวาก็อ่อนไหวในสถานการณ์ที่ตนเองเจออยู่แล้ว
    ก็เพราะอาซลนี่แหละ เดิมทีซอลฮวาไม่อยากร่วมงานกับอาซลอยู่แล้ว
    ถ้าไปรวมตัวกับกลุ่มแฮซองที่พร้อมจะเป็นแบคให้อยู่แล้วเนี่ย
    จะรักษาระดับความสำคัญของตัวเองได้มากกว่ามั้ย
    ดีกว่าจะต้องมาตามเป็นลูกไล่ของอาซลอีก 
    (ต่างคนต่างครอบครองกุญแจแห่งกบฏคนละดอก
    อำนาจของทั้งคู่ก็เลยคานๆ กันอยู่ แต่ผู้นำในขณะนี้
    ดูท่าทางจะเอนเอียงไปทางอาซลมากกว่าอย่างชัดเจน)

    เอาล่ะ มาดง สนุกจริงๆ

     

  • III. โค้ดลับ

    ปริศนาที่เริ่มโผล่มาในตอนที่แล้วคือการปรากฏตัวของโค้ดลับที่ไร้ความหมาย (?)
    มาพร้อมกับขวดน้ำดื่มโซดาเย็นๆ ในทุกๆ เช้า ผ่านทางกล่องแห่งผู้นำ

    จาก ตอน 02 โค้ดลับที่ปรากฏได้แก่
    มาดง 12/13
    นบดง RH

    และจาก ตอน 03
    มาดง 1/12
    นบดง EK

    คืออะไรวะ?
    เออ ไม่รู้ง่ะ รายการยังไม่เฉลย
    และคนในชุมชนก็ยังคิดไม่ออก


    IV. ผู้นำคนที่ 3 ของนบดง

    เช้าวันที่ 4 นบดงมีการเลือกผู้นำคนใหม่อีกครั้ง
    เช้านี้มีผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้นำเพียงแค่ 2 คน
    คือ คิมฮีจุน (ผู้นำคนที่ 2) และ ฮงซาฮยอก (ผู้เข้าชิงครั้งที่แล้ว)
    และคิมฮีจุนได้รับคะแนนถึง 6 คะแนน และได้รับตำแหน่งผู้นำอีกสมัย

    เบื้องหลังคะแนนถล่มทลายอยู่ที่แรงขับเคลื่อนของส่วนมากที่เบนไปทางเดียวกัน
    คือ ต้องการกำจัดโอลิเวอร์ไปให้พ้นจากชุมชน
    (ตรงนี้ชัดเจนมาก เรื่องความเป็นผู้นำของ MJ เพราะฐานเสียงหลักของฮีจุน
    มาจากสามสาว ซึ่งสองคนคล้อยตามตามความคิดของ MJ มาเลย)

    อันตรายจึงตกมาอยู่บนตักของโอลิเวอร์
    หนทางเดียวที่จะรักษาความอยู่รอดของตัวเองในเกมนี้
    คือการชนะเกมหลักในวันนี้ให้ได้เท่านั้น
  • V. เกมหลัก : ห้าขาสามัคคี

    กติกาของเกมหลัก มีดังนี้

    1) แต่ละชุมชนเลือกสมาชิก 4 คน โดยจะมัดขาทั้งสี่คนเข้าด้วยกันเป็น 5 ขา

    2) ระยะทาง 10 เมตร มี 2 ภารกิจที่ปลายทาง รวม 4 ภารกิจ (ไป - กลับ)
    คนที่ 1 และ 3 จะเล่นเกมตัวต่อ - มีตัวต่อ 7 ชิ้น ประกอบให้ออกมาอยู่ในกรอบตามรูปร่างที่กำหนด
    คนที่ 2 และ 4 จะเล่นเกมโยนห่วง เข้า 1 ห่วงก็ถือว่าภารกิจสำเร็จ

    3) ผู้ที่เล่นจะต้องสวมหมวกเอาไว้ คนที่ได้รับหน้าที่ให้ทำภารกิจต่อตัวต่อ
    หลังจากต่อเสร็จแล้วให้ยกธงขึ้น กรรมการจะขานว่าทำถูกมั้ย ถ้าถูกให้ส่งหมวกต่อให้คนต่อไป
    คนที่ 2 จะต้องเล่นเกมโยนห่วง โยนลง 1 ห่วงก็ส่งหมวกต่อให้กับคนที่จะเล่นตัวต่อ
    หลังจากเล่นตัวต่อเสร็จก็สวมหมวกให้คนที่จะโยนห่วง เป็นอันจบเกม

    4) ชุมชนที่ชนะเกม 2 ใน 3 เกม จะถือว่าเป็นผู้ชนะในเกมหลักของวันนี้

    ในช่วง มินิเกม เป็นการแข่งต่อตัวต่อ
    ซอลฮวาจากมาดง โอลิเวอร์จากนบดง
    ซอลฮวาจากมาดงชนะไป
    มาดงได้รับรางวัลเป็นโคชูจัง (น้ำพริกอเนกประสงค์ของเกาหลี)

    หลังจากเล่นมินิเกมจบ 
    ต่างชุมชนต่างแยกย้ายไปฝึกฝนเกม
    ตรงนี้มีเหตุการณ์น่ารักๆ เกิดขึ้น
    เมื่อมาดง ผู้ที่เคยชินกับชัยชนะ
    เกิดเห็นใจนบดงที่แพ้ติดๆ กันมาตลอด
    ก็เลยจัดการเทน้ำมันใส่กล่องเล็กๆ โยนให้ฟังนบดง
    เป็นการแบ่งปันเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเห็นว่า เออ น่ารักดี


    VI. อิสรภาพแลกน้ำแข็ง

    มีเสียงประกาศดังขึ้น ให้ผู้นำของทั้งสองชุมชนไปอ่านจดหมายที่อยู่กล่องผู้นำ

    เนื้อหาในจดหมายระบุว่า "ให้ขังสมาชิก 1 คนในคุก แล้วจะได้รับน้ำแข็งเป็นการตอบแทน
    ดังนี้ 1 ชั่วโมง ได้ 2.5 กิโลกรัม ถ้าขัง 10 ชั่วโมงก็รับไปเลย 25 กิโลกรัม"

    สิ่งที่ต้องแลกกับน้ำแข็งอันมีค่าในสังคมที่อะไรก็จำกัดไปหมดอย่างที่หมู่บ้านวอนฮยองนั้น
    ต้องจ่ายด้วยศักยภาพของคนหนึ่งคนที่อาจจะช่วยทีมในเกมได้
    คนที่จะถูกขังในคุกนั้น จะถูกยกเว้นจากการแข่งขัน จากการถูกคัดออก (ถ้าอยู่ในเวลาที่คัดออก)
    และจากการก่อกบฏด้วย (ถ้าอยู่ในมาดง) 

    ฝั่งนบดง ฟาโรห์เสนอตัวเองเข้าไปอยู่ในคุก
    เพราะตัวเองกลัวไก่ (?) ไม่สามารถช่วยคนอื่นฆ่าไก่ได้
    ก็เลยอาสาเข้าไปอยู่ในคุก ไปล้างคุก - ที่ใช้ฆ่าไก่ให้

    ฝั่งมาดง ซังกุกเลือกให้ฮันบยอลเข้าไปอยู่ในคุก
    สถานการณ์เหมือนจะเข้าข้างฝั่งมาดง เพราะฮันบยอลกำลังเจ็บขา
    เกมหลักที่ต้องเจอ ต้องผูกขาเข้ากับคนอื่นๆ การเคลื่อนที่ที่รวดเร็ว
    แน่นอนว่าช่วยลดเวลาในการเคลื่อนที่และจะทำให้เพิ่มโอกาสในการคว้าชัย
    ซึ่งฮันบยอลเจ็บขาอยู่ ไม่เป็นประโยชน์ต่อเกมอยู่แล้ว
    แต่ถึงกระนั้น ฮันบยอลก็ยังเป็นประโยชน์อยู่ดีในความคิดของบางคน
    สมาชิกในชุมชนเห็นว่าฮันบยอลน่าจะเป็นประโยชน์กับเกมมากกว่า
    รวมถึงตัวฮันบยอลเอง ก็เห็นว่าตัวเองน่าจะมีประโชน์กับเกมมากกว่า
    แต่ก็เลี่ยงคำสั่งของผู้นำชุมชนไม่ได้อยู่ และเพราะสภาพร่างกายที่ปฏิเสธไม่ได้
    ฮันบยอลจึงเสียสละตัวเอง ไม่เข้าร่วมเกม เพื่อแลกน้ำแข็งให้กับชุมชน

    ฮันบยอลอยู่ในคุกถึง 6 ชั่วโมง
    ในขณะที่ฟาโรห์อยู่เพียงไม่นาน
    พอถึงเวลาก็ออกมาซ้อมกับเพื่อนๆ
    แล้วเป็นกำลังหลักในการลงแข่งขันเกม



  • VII. องุ่นและพีช

    องุ่นและพีชคือรางวัลอันแสนหวานสำหรับผู้ที่จะชนะในเกมหลัก

    ขั้นตอนการได้มาซึ่งรางวัลอันแสนเย้ายวนใจนั้น 
    ก็หอมหวานและน่าสนใจสำหรับคนดูอย่างเราๆ ไม่น้อย

    การวางตำแหน่ง แต่ละรอบ แต่ละคน 
    แต่ละคนต้องรับผิดชอบในภารกิจต่างๆ ที่ต้องแก้
    การเดินห้าขา (ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย) การหมุนตัวกลับทิศทาง
    ทิศทางการเดิน ความรวดเร็ว ความแม่นยำในการโยนห่วง
    การต่อตัวต่อให้ได้อย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนหมวก 
    ล้วนแต่เป็นทักษะที่ต้องผ่านการวางแผนและฝึกฝน
    เรียกได้เลยว่า เกมห้าขาสามัคคี เป็นเกมที่รวมเอาทั้ง 3 ทักษะเอาไว้ด้วยกันอย่างดีทีเดียว

    เกมนี้สำคัญกับนบดงมากกว่ามาดง
    ทั้งเงื่อนไขความปลอดภัยของโอลิเวอร์
    และการเอาชนะเพื่อเรียกความมั่นใจให้กลับคืนสู่ชุมชน
    จะได้ไม่จมอยู่กับความพ่ายแพ้อย่างซ้ำซาก

    และในที่สุดนบดงก็ยิ้มออก
    เมื่อพวกเขาได้สัมผัสกับชัยชนะครั้งแรก
    ผลการแข่งขันคือพวกเขาชนะ 2 เกมแรก เป็นการชนะ 2 ใน 3
    อย่างสนุกสนาน จนหัวใจแทบคว่ำไปหลายจังหวะ
    หอมหวานกว่าองุ่นและพีช
    ก็รสชาติของการเป็นผู้ชนะนี่แหละค่ะ


    VIII. หลังจากเกมที่ 3 จบลง

    มาดูฝั่งผู้แพ้อย่าง มาดง กันก่อน

    มาดงแพ้เป็นครั้งแรก แน่นอนว่าผู้ที่ชนะมาตลอด
    ไม่ว่าจะเกมหลักหรือมินิเกม ย่อมรู้สึกไม่คุ้นเคย

    การแพ้ในเกมแรก เข็มเบนไปชี้ทางอาซลที่เป็นต้นเหตุ
    เกมแรก มาดงนำมาโดยตลอด แต่มาแหกเอาที่โค้งสุดท้าย
    เมื่ออาซลไม่สามารถโยนห่วงให้คล้องหลักได้ จนสุดท้าย
    ดงฮวานแห่งนบดงตามมา โยนสองสามทีแล้วลง ชนะตัดหน้าไปเสียอย่างนั้น

    การแพ้ในเกมที่สอง เข็มเบนไปชี้ทางซอลฮวาว่าเป็นต้นเหตุ
    เพราะมาช้า ทำยังไงก็ต่อตัวต่อไม่ได้ซักที จนกระทั่งนบดงที่ตามมา
    ต่อตัวต่อชนะ แล้วก็แซงไปจนถึงภารกิจสุดท้าย คว้าชัยไปสวยๆ
    โดยที่ซอลฮวายังต่อตัวต่อไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ

    เอาล่ะสิ มาดงจะสนุกไปไหนล่ะเนี่ย
    สองคนที่มีซีนต่อกัน ดันมามีแอคชั่นที่ทำให้เกมแพ้ทั้งคู่
    งานนี้ซังกุก ผู้นำแห่งมาดงจะไปทางไหนน้า
    ปฏิกิริยาของสมาชิกในชุมชนจะเป็นอย่างไรน้า
    มาดง นี่สนุกชะมัด

    ซังกุกเลือกคุยกับทั้งคู่พร้อมกัน
    ในฐานะะพันธมิตร ผู้ครอบครองกุญแจแห่งกบฎ และสองคนที่ผิดพลาดมากที่สุดในเกม
    ซังกุกและอาซลเห็นไปในทางเดียวกันว่าควรกำจัดฮาเอลออก
    (แม่สาวน้อยนกต่อที่อยู่ฝั่งแฮซองแล้วคอยเป่าหูซอลฮวาไง)
    ด้วยเหตุผลที่ว่าฮาเอลแทบไม่ช่วยอะไรในเกมเลย
    แถมการงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าวหรือล้างจาน
    ก็ไม่เห็นฮาเอลจะยอมเสียสละตัวเอง ออกอาสาช่วยสักครั้ง
    ยังไม่รวมเหตุผลเบื้องหลังที่ว่าฮาเอลเปํนพันธมิตรของฝั่งตรงข้ามอีก

    ในขณะที่ซอลฮวาขอร้องเอาไว้ ว่าอย่ากำจัดฮาเอลตอนนี้นะ
    เพราะฮาเอลเป็นคนเดียวที่เธอสนิทใจพอจะพูดคุยด้วยได้ในชุมชนนี้
    ขอให้กำจัดจีอันแทน เพราะถ้าพูดถึงเรื่องไม่มีประโยชน์ในเกม
    จีอันก็พอๆ กัน เพราะไม่เก่งอะไรซักอย่าง แถมยังแย่กว่าฮาเอลเพราะแก่กว่า!

    นั่นแหละ สนุกล่ะ 
    มาดูกันว่าซังกุกจะเลือกกำจัดใคร


    ทางฝั่งนบดงผู้ชนะ ก็เบิกบานกับชัยชนะอันหอมหวาน
    แต่คนที่ดูเหมือนจะโล่งอกราวกับเพิ่งรอดพ้นจากปากเหวแห่งความตาย
    ก็คือโอลิเวอร์ ครั้งนี้เขารอดจากการถูกคัดออกจากเกมเพราะว่าชุมชนชนะ
    แถมยังทำผลงานได้น่าชื่นชมเสียด้วย

    แต่คนที่ดูจะโดดเด่นและได้รับคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำก็คือ MJ
    ทักษะด้านพละกำลังของ MJ ถูกพิสูจน์ให้ประจักษ์ไปเมื่อเกมแรก
    ที่เขาสามารถเอาชนะผู้ชายร่างยักษ์และล้มตุ๊กตาไม้ของฝั่งตรงข้ามได้
    (แม้ชุมชนจะแพ้ก็ตาม) แถมในเกมที่สองก็ยังเป็น 1 ใน 3 คนที่ช่วยกันแบก
    โต๊ะกลมแห่งความทรมานที่หนักถึง 120 กิโลกกรัมนั่นอีก

    ในเกมนี้ MJ พิสูจน์ว่านอกจากจะมีความสามารถด้านพละกำลังแล้ว
    ด้านสติปัญญาของเธอก็ไม่ได้น้อยหน้าใคร เพราะ MJ เป็นผู้รับผิดชอบในเกมตัวต่อ
    และสามารถเอาชนะซอลฮวาตัวแทนของชุมชนตรงข้าม จนคว้าชัยให้ชุมชนได้

    มาดูความเคลื่อนไหวสำคัญที่เกิดขึ้นในฝั่งผู้ชนะบ้างดีกว่า

    หลังจากที่ได้รับชัยชนะ ผู้นำของคิมฮีจุนเรียกทุกคนเข้าไปคุยทีละคน
    และจากการคุยนี้เอง ได้แปลสภาพเป็นการหาเสียงในสนับสนุนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

    ยังไงอ่ะหรอ มันเป็นหยั่งงี้ค่ะ

    เริ่มจากการขัดแย้งกันเองระหว่างโอลิเวอร์และซาฮยอก (ที่แต่เดิมเป็นพันธมิตรกัน)
    ต่างฝ่ายต่างคิดว่าควรเป็นอีกฝ่ายที่จะต้องถูกกำจัดในครั้งหน้า
    หรือแม้แต่ควรเป็นรายชื่อที่ควรจะนำขึ้นบัญชี blacklist เพื่อปรามการกระทำ
    เพื่อแลกกับการจะไม่มีรายชื่อติดใน blacklist ต้องแลกกับการที่
    พรุ่งนี้ทั้งสองจะต้องลงคะแนนให้ฮีจุนเป็นผู้นำอีกครั้ง!

    (สำหรับโอลิเวอร์ก็เห็นๆ กันอยู่จากตอนที่ผ่านๆ มา
    แต่สำหรับซาฮยอกนั้น ความกระเหี้ยกระหือรือของเขาเพิ่งจะมาแสดงออกชัดในวันนี้
    จนสมาชิกทุกคนในชุมชนเริ่มหวั่นๆ 
    คือยอมรับว่าซาฮยอกน่ะเก่ง ฉลาด แต่เขาโลภไปหน่อย
    ดูได้จากการที่ตอนแรกจะไม่ยอมให้ MJ รับหน้าที่ในการเล่นเกมตัวต่อ
    เขาบอกว่าเขาเองก็เก่งนะ เขาเล่นเองได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น MJ)

    ดงฮวาน ต้องการยืนยันว่าตัวเองเป็นกลาง ไม่เข้ากับฝ่ายไหนทั้งสิ้น
    แต่ฮีจุนไม่เชื่อ เขาอ้างว่าจากการที่ดงฮวานเลือกซาฮยอกวันนี้
    บอกหมดแล้วว่าดงฮวานน่ะ เป็นแค่ลูกไล่ของพวกโอลิเวอร์เท่านั้น
    เขาคิดจะอาศัยการต้องการพิสูจน์ตัวเองนี้ของดงฮวานในการเรียกคะแนนให้ตัวเอง
    ด้วยการบอกให้ดงฮวานเลือกเขา เพื่อพิสูจน์ว่าดงฮวานเป็นกลางจริงๆ
    ไม่ได้อยู่ข้างโอลิเวอร์อย่างที่เขาเข้าใจ
    แต่ดงฮวานปฏิเสธ และเขาบอกว่าไม่ เขาจะเสนอชื่อตัวเอง
    แล้วลงคะแนนให้ตัวเองเพื่อพิสูจน์ความเป็นกลาง 
    เอ้อ! เอาสิ

    พอความกระหายในอำนาจของฮีจุนฉายชัดขึ้นเรื่อยๆ
    ทำให้คนที่รักสงบอย่าง MJ เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหากจะร่วมมือกับฮีจุน
    เธอค่อนข้างมั่่นใจในศักยภาพของตัวเอง และอย่างน้อยๆ ตัวเองก็มีแบคอัพอยู่แล้ว
    (คืออีกสองสาวที่ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็มักจะคล้อยตาม MJ เสมอ)
    โดยคิดจะเสนอชื่อตัวเองเข้าเป็นผู้นำ โดยมีฟาโรห์คอยหนุนหลังด้วย
    และเธอคิดจะดึงเอาโอลิเวอร์และซาฮยอก (ที่ต้องการความมั่นคงในชีวิต) เข้ามาร่วมวงด้วย

    เอาสิ เอาสิ ทางนบดงก็สนุกไม่แพ้กันเลยค่ะคุณ


    IX. แบ่งเงิน / บัญชีดำ / คนที่จากไป

    ฮีจุนตัดสินใจแบ่งเงิน 10 ล้านวอนให้สมาชิกนบดงคนละ 1 ล้านวอน
    ยกเว้น MJ ที่ได้ 2 ล้านวอน ด้วยเหตุผลที่ว่าวันนี้ MJ ทำได้ดีที่สุด
    เป็นกำลังหลักสำคัญที่ทำพาทีมมาพบกับชัยชนะในครั้งแรกจนได้
    (โดยที่ไม่รู้ว่าจะมีเหตุผลเบื้องหลังในการซื้อใจ ซื้อเสียงอะไรหรือเปล่านะ)

    อีกหนึ่งสิทธิของผู้ชนะ คือผู้นำของชุมชนที่ชนะมีสิทธิขึ้นชื่อคนใน blacklist
    ถ้าใครมีชื่อใน blacklist 2 ครั้ง จะต้องออกจากเกมทันที
    และในวันนี้ ในที่สุด ก็มีคนได้ขึ้น blacklist เป็นคนแรก
    นั่นคือ ฮงซาฮยอก
    เหตุผลเบื้องหลังของการขึ้นชื่อซาฮยอกในครั้งนี้
    เป็นเพราะว่าฮีจุนแอบไปได้ยินซาฮยอกแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในชุมชน
    กับผู้นำชุมชนตรงข้ามอย่างยางซังกุกนั่นเอง! 

    คนที่จากไปในตอนที่ 03 นี้ได้แก่ .... ยังจีอัน
    ซังกุกเลือกจะทำตามคำขอของซอลฮวา เพื่อยังรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับซอลฮวาเอาไว้
    แม้จะเสี่ยงกับการที่จะเก็บฮาเอลเอาไว้ก็ตาม และยังคิดว่าการที่ฮาเอลรอดมาได้ในครั้งนี้
    จะทำให้เจ้าตัวมีแรงจูงใจ มีแรงกระตุ้นในการมีส่วนร่วมกับเกมและงานที่ชุมชนมากขึ้น

    ในขณะที่ยังจีอันนั้นคูลมาก เหมือนเธอเตรียมใจมาแล้วด้วยซ้ำ
    เธอให้ความเห็นก่อนที่จะก้าวออกไปอย่างเท่ๆ ว่า
    ในชุมชนมาดงนั้นได้มีการสร้างกลุ่มอำนาจกันเรียบร้อยแล้ว
    แต่ละคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเรียบร้อย
    มีเพียงสองคนที่ยังไร้หน้าที่ ยังไงถ้าไม่ใช่เธอ ก็ต้องเป็นฮาเอลแน่นอน
    และเธอหวังอย่างยิ่งที่จะให้คนอื่น (ที่ไม่ใช่พันธมิตรแห่งซังกุก)
    ผนึกกำลังกันแล้วโค่นล้มกลุ่มอำนาจนี้ให้ได้ เธอจะเอาใจช่วย




    *
    ตอนนี้เป็นตอนที่สนุกมาก สนุกเพราะมันเข้มข้นขึ้น
    และทุกอย่างก็ดูเข้าที่เข้าทาง เราไม่จำเป็นต้องมาคอยจำชื่อ
    คอยทำความรู้จักว่าแต่ละคนมีคาแรคเตอร์อย่างไร
    เพราะคุ้นเคยและเริ่มจะมองและจำทุกคนได้แล้ว
    แถมยังมีปริศนาและเรื่องการเมืองภายในชุมชนให้ได้ลุ้นอีก
    แต่ที่สำคัญอยู่ที่ทีเซอร์ตอนต่อไปต่างหากกกกกกกกกก!
    มีแว่วๆ ว่า จะมีการสลับตัวสมาชิกในชุมชนแหละทุกคนนนนนนนน!
    (คาดหวังว่ามันน่าจะมีอะไรแบบนี้ แล้วมันก็มีจริงๆ สิ ให้ตายเถอะ!)
    ตอนหน้าจะรีบมาอย่างไว อย่าลืมไปติดตามกันได้ตามทวิตเตอร์ด้านบนนะจ๊ะ :)


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in