เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เด็กบ้าไปเซิร์นVichayanun Wachirapusitanand
Day 43: วัดทิเบต
  • วันนี้ก็เหมือนกับวันอื่น ๆ ที่ผ่านมาครับ ตรงที่ว่าน้อง ๆ อีกสามคนแม่งหนีเที่ยวไปประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ผมซึ่งขี้เกียจออกไปหาที่เที่ยวจึงอยากไปที่ ๆ มันไปง่าย ๆ และอาจารย์พัด (อีกแล้ว) ก็เคยเล่าให้ผมฟังว่ามันมีรถเมล์สายหนึ่ง (ไม่ใช่เลข 1 นะครับ) ที่สามารถพาเราไปยังกระเช้าเพื่อขึ้นภูเขาอะไรสักอย่างได้ แต่ต้องสังเกตนิดหน่อย

    ภูเขานั้นชื่อ Mt Saleve ครับ เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในฝั่งฝรั่งเศสตรงข้ามกับฝั่งที่พวกผมพักอยู่ ภูเขานี้มีวิวสำหรับดูเมืองเจนีวาได้ทั้งเมือง และยังมีกระเช้าให้สามารถขึ้นไปได้สบาย ๆ ไม่ต้องปีนให้เหนื่อย แต่ใครที่อยากไต่ Mt Saleve เขาก็ไม่ขัดศรัทธากันนะครับ ข้างบนจะมีร้านอาหาร ร้านค้าเล็ก ๆ ลานสำหรับเล่นพาราเซล (ไอ้กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่เวลาเล่นต้องกางชูชีพออก แล้วค่อยล่องลอยไป ๆ มา ๆ ในท้องฟ้า นั่นแหละครับ ผมไม่แน่ใจว่าเขาเรียกแบบนี้รึเปล่านะ) จุดชมวิวเมืองเจนีวาซึ่งสามารถเห็นได้ทั้งเมือง ยาวไปถึงเซิร์นของเราด้วย และทางเดินขึ้นเขา ซึ่งทางเดินขึ้นเขาก็จะมีอะไรอีกหลาย ๆ อย่างเช่นวิวอีกมุมหนึ่งของเจนีวา วิวที่สามารถมองเห็นมองต์บลังได้ และวัดทิเบต

    ใช่ครับ ผมไม่ได้พิมพ์ผิด Mt Saleve มีวัดทิเบตตั้งอยู่จริง ๆ ครับ

    วัดนี้ชื่อ Shedrub Choekhor Ling เป็นวัดทิเบตบน Mt Saleve ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2010 และองค์ทะไลลามะองค์ปัจจุบันเคยเสด็จประพาสมายังวัดแห่งนี้ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ภายในวัดจะมีส่วนที่เป็นร้านอาหารสักอย่างที่ผมไม่กล้าเข้าไป เพราะกลัวว่าตัวเองจะไม่มีเงินไปกินอาหารทิเบตในฝรั่งเศสแน่ ๆ อีกส่วนเป็นวัดทิเบตจริง ๆ มีธงสี ๆ มีพระพุทธรูปตามนิกายมหายาน มีการตกแต่งแบบวัดในนิกายมหายานของจริง วัดนี้เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ และปิดวันจันทร์ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ผมจึงถือโอกาสเดินเข้าไปเสียเลย

    ภายในตัววัดเป็นวัดแบบทิเบต ผนังทำจากไม้ มีพระพุทธรูปหลักตั้งตรงกลาง ด้านข้างมีพระโพธิสัตว์หรือองค์อะไรสักอย่างที่ผมก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นพระโพธิสัตว์รึเปล่า ที่แน่ ๆ คือมีหลายองค์มาก ด้านหน้าพระประธานมีข้าวและแยม (?) ถวาย วัตถุมงคลต่าง ๆ พระสังกัจจายน์ พระบรมสารีริกธาตุ (รึเปล่า) และยังมีองค์จตุคามจากไทยวางไว้ด้วยครับ

    เบื้องซ้ายของพระประธานยังมีอาสน์ที่ประดับรูปขององค์ทะไลลามะองค์ปัจจุบัน อาสน์นั้นประดับอย่างเรียบง่าย มีผ้าคลุมสีเหลืองนวลคลุมรูปองค์ทะไลลามะ และเหมือนจะมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกสามห่อประดับอยู่บนอาส์น ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ครับว่าทำไมเขาต้องเอาบะหมี่สามห่อไปวางไว้ที่อาส์นขององค์ทะไลลามะ ใครรู้ช่วยบอกผมทีครับ

    นอกจากพระพุทธรูปแล้ว ยังมีที่นั่งสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ และทำวัตร เสียดายที่ผมไม่เห็นพระสักรูปแถวนี้ ไม่งั้นผมคงถามเขาแล้วว่าที่นั่งพวกนี้เขาใช้ทำอะไรบ้าง เมื่อมองออกไปข้างนอก เราจะเห็นธงสี ๆ เหมือนในสารคดีท่องเที่ยวเมืองทิเบตเลยครับ ทำให้เรารู้สึกว่าเราอยู่ที่ทิเบต ไม่ได้อยู่เจนีวาแม้แต่น้อย

    ผมเดินออกจากวัดทิเบตแห่งนั้นด้วยความปีติ ไม่นึกเลยว่าเราจะได้เจอกับวัดทิเบตบนสถานที่ท่องเที่ยวสิ้นคิดแบบนี้ ผมเลยสงสัยว่า เฮ้ย มันน่าจะมีวัดไทยในสวิสที่เราสามารถไปได้บ้างสิ ผมจึงหยิบมือถือเพื่อค้นหาวัดไทยในสวิส และผมก็ไปเจอวัดศรีนครินทรวราราม เป็นวัดไทยที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ ข่าวร้ายคือวัดนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Olten ซึ่งถ้ามึงเดินทางเลยไปอีกหน่อย มึงไปถึงซูริคได้เลย

    เออ กูยอมไม่ไปก็ได้

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in