เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
OptimisticTeeraphat Janejai
ย่ำเยื้องย้างอย่างสม่ำเสมอ
  • วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่เราไปฟิตเนส

    ร่างกายปวดระบบไปหมด เพราะกล้ามเนื้อที่เคยมีสลายไปกับสุราและอาหาร

    เราไม่อยากใช้คำว่า ไม่มีเวลาออกกำลังกาย.

    เรามี แต่ไม่ทำเอง


    ขณะที่เดินบนลู่วิ่งเพื่อเบิร์นช่วงสุดท้ายของการเข้าฟิตเนส

    เทรนเนอร์ปรับระดับให้ความสูงให้เหมือนการเดินขึ้นเขา

    45 นาที

    แม้สปีดที่ตั้งไว้จะไม่เร็วมาก

    แต่ก็มากพอที่จะทรมานร่างกายที่ทรุดโทรมนี้ให้แหลกร้าว


    ผ่านไปเพียง 15 นาที

    ร่างกายเริ่มฟ้องถึงอาการอ่อนล้า ระดับการเต้นของหัวใจพุ่งไปที่ 145 ครั้งต่อนาที


    30 นาที

    ต้นขาที่เคยมีพละกำลังจากการเป็นนักฟุตบอลตอนเด็กๆ บัดนี้ไม่เหลือสภาพนั้นอีกต่อไป

    ร่างกายเรารับไม่ไหวแล้ว

    ทั้งๆ ที่เดินอยู่กับที่ แต่ทำไมเราถึงสู้มันไม่ได้


    คล้ายกับว่าเราไม่ได้เคลื่อนที่ไปไหนเลย การย่ำอยู่กับที่แบบนี้จะมีประโยชน์ได้อย่างไร?


    หัวใจเต้นเร็วจนแทบขาดใจ

    เหลือแต่กำลังใจเท่านั้นที่สั่งการแทน


    อยู่ๆ ดีเราก็เหลือบมองไปที่ต้นแขนเรา

    มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาเม็ดใหญ่ๆ มากมาย

    บ้างค่อยไหลย้อยลงไปที่ท้องแขน บ้างก็ไหลหยดลงไปบนลู่วิ่ง


    ก่อนที่ร่างกายจะหยุดทำงาน กำลังใจของเราหยุดไปก่อนแล้ว


    คนบางคนกล่าวถึงการย่ำอยู่กับที่ในเชิงลบ

    เราเห็นด้วย...จนกระทั่งวันนี้


    เราว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น


    การเดินย่ำอยู่กับที่ในบางสถานการณ์อาจหมายถึงการรอคอย ไม่ได้หมายถึงการยึดติด

    อาจหมายถึงการฝึกซ้อมให้ช่ำชอง ไม่ได้หมายถึงการไม่พัฒนา


    เราไม่ได้เดินย่ำเพื่อรอให้ถึงนาทีที่ 45 แต่เราย่ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อรอวันที่จะกลับมาฟิตเหมือนเดิม

    เราไม่ได้เดินย่ำเพียงเพื่อขจัดของเสียออกจากร่างกาย แต่เราจะย่ำเยื้องย้างจนกว่าจะถึงวันที่มัดกล้ามและหัวใจจะไม่ทำให้เราทรมาน


    ย่ำต่อไป..อย่าหยุด
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in