โชคชะตาพามาพบเจอ
ภาพยนตร์เรื่อง 'Ito' ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทเพลงดัง 'Ito' ของ นากาจิมะ มิยูกิ
เรื่องราวปาฏิหาริย์แห่งรักตลอดระยะเวลา 18 ปีของ เร็น ที่รับบทโดย สึดะ มาซากิ และ อะโออิ รับบทโดย โคมัตสึ นานะ ร้อยเรียงผ่านเรื่องราวในยุคเฮเซ
"การเป็นนักแสดงทำให้ได้พบกับผลงานมากมาย นานๆ ทีจะได้เจอกับอะไรที่ไร้เหตุผลแต่คิดว่า 'งานนี้ต้องทำ' เท่านั้นและ 'Ito' เป็นแบบนั้นครับ ผมตอบตกลงรับแสดงด้วยสัญชาตญาณตั้งแต่ตอนยังไม่กำหนดบทและนักแสดงเลยด้วยซ้ำ"
เมื่อได้แสดงแล้ว ความรู้สึกในใจเปลี่ยนไปมาก
"ในยุคนี้มีข้อมูลข่าวสารมากมายแบบนี้ไม่ว่ายังไงผมว่าเราคงเผลอเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่แล้ว แต่เร็นกับอะโออิน่ะ พวกเขาตั้งใจใช้ชีวิตอย่างเต็มกำลังแม้อาจเหมือนถูกเส้นด้ายแห่งโชคชะตาดึงลากไปมา แต่สุดท้ายพวกเขาก็เปลี่ยนไปตามความรู้สึกของตัวเอง เพราะฉะนั้นผมเลยคิดว่าจะมีชีวิตอยู่ให้ยืนยาว ไม่ตายง่ายๆครับ (หัวเราะ)
"มันอาจเป็นนิสัยของคนสร้างสรรค์งานหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ มันจะมีช่วงเวลาที่เรารู้สึกพร้อมจะเสียสละทุกอย่างน่ะครับ แต่หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่ามีงานที่เข้ากับจังหวะชีวิตของครอบครัวและคนสำคัญของเราอยู่เหมือนกัน ที่จริงแล้วผมไม่ค่อยได้รับอิทธิพลอะไรจากตัวเนื้องานที่ทำเท่าไหร่ แต่งานครั้งนี้ได้รับอิทธิพลมากเลย"
สายสัมพันธ์ของเพื่อน
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้มี โคมัตสึ นานะ ที่ร่วมงานกันเป็นครั้งที่ 3 แต่นอกจากนี้ยังมีนักแสดงคนอื่นๆ ที่มีสายสัมพันธ์กับสึดะทั้ง นิไกโด ฟุมิ, อิชิซากิ ฮิวอิ และ คาตาโยเสะ เรียวตะ ร่วมแสดงด้วย
"นี่คือความรักของทีมงานเลยครับ ไอเดียการแคสติ้งนักแสดงที่มีสายสัมพันธ์กับผมและโคมัตสึึซังเป็นไอเดียที่สดใหม่มาก ผมคิดว่าการนำสายสัมพันธ์ที่ไม่อาจจินตนาการได้มาทำเป็นภาพยนตร์เป็ํนความคิดที่ไปได้สวยเลยครับ"
"ผมไม่ค่อยร้องไห้เวลาดูผลงานที่ตัวเองแสดงสักเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้มีฉากที่ผมไม่ได้ไปถ่ายด้วยเยอะ ทำเอาร้องไห้เลยล่ะครับ โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครอะโออิที่โคมัตสึซังแสดงทำงานที่สิงคโปร์พลาด แล้วแวะไปนั่งกินคัตสึด้ง(ข้าวหน้าหมู)ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น กินแล้วพูดว่า 'ไม่อร่อย' ไปด้วยร้องไห้ไปด้วย นั่นเป็นฉากเด็ดเลยนะครับ แต่ตอนหลังถามเจ้าตัวดูเหมือนว่าจริงๆ แล้วมันอร่อยมากๆ เลย (หัวเราะ)
การกินเนี่ยมันเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวัน เวลาแบบนี้ความรู้สึกเราจะแสดงออกมาอย่างตรงไปตรงมามาก ได้ดูฉากนี้แล้วรู้สึกว่ามันถ่ายทอดอะไรออกมามากกว่าคำพูด ในมุมมองของเร็นแล้วมันกินใจน่ะครับ"
คนที่ดึงดูดใจ
ไม่เพียงแต่ในงานแสดง แต่สึดะยังมีคอนเนคชั่นกับคนอย่างกว้างขวางทั้งในสายดนตรีและแฟชั่นด้วย จุดร่วมของคนที่สนิทกับสึดะคือ?
"คนที่ใช้ชีวิตคนเดียวเยอะน่ะครับ อันนี้หมายถึงในด้านของจิตใจนะ รอบๆตัวผมมักจะมีแต่คนที่ต่อให้ในความเป็นจริงแล้วจะมีคนอยู่ด้วย แต่ก็ไม่แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของหรือบังคับใคร เป็นคนที่พยายามทำเรื่องของตัวเองอย่างเต็มที่ มีแต่คนแปลกๆ น่ะครับ(หัวเราะ) ดังนั้นตัวผมเองก็มีเพื่อนเยอะล่ะ แต่คนที่อยู่ด้วยตลอดน่ะแทบไม่มี ส่วนใหญ่มักจะเจอกันโดยบังเอิญแบบไม่ได้วางแผนอะไร แล้วจะเป็นจังหวะเวลาที่ 'มาทำอะไรกันเถอะ!' พอดี ผมชอบทำอะไรๆ กับทุกคนนะ แต่มันใช้ทั้งแรงกายทั้งสมอง เลยรู้สึกอยากเก็บไว้เป็นอะไรที่ใช้เวลาเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่น่ะครับ"
เมื่อถามถึงเรื่องสนุกๆ ที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน เลยได้รู้เบื้องหลังบทเพลงดัง
"ก่อนหน้านี้ MV เพลง 'Sayonara Elegy' กับเพลง 'Machigai Sagashi' ใน YouTube มียอดวิวเกินร้อยล้านวิวน่ะครับ 'Sayonara Elegy' นี่นั่งกินมตสึนาเบะ(หม้อไฟไส้อ่อน)อยู่ที่บ้านกับฮิวอิคุง(ผู้เขียนเนื้อร้องและทำนอง) แล้วก็คุยกันไปด้วยว่า 'ทำเพลงแบบไหนดี' เดี๋ยวนี้มตสึนาเบะนี่สั่งมาส่งได้แล้วใช่มั้ยครับ ที่เหลือเราแค่จุดเตาที่บ้านเท่านั้นเอง แต่ว่าตอนนั้นผมทำมันหกจนต้องทิ้งพรมที่เปื้อนไส้อ่อนไป สุดท้ายเลยกลายเป็นแค่ซุปกระเทียมที่ไม่มีไส้อ่อนน่ะครับ และสิ่งที่เกิดจากมตสึนาเบะวันนั้นคือ 'Sayonara Elegy' นี่ล่ะครับ (หัวเราะ) มีคนดูตั้งร้อยล้านวิว เหลือเชื่อจริงๆ เลย"
สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
การได้พบกันเป็นเรื่องของโชคชะตา หรือพลังแห่งการดึงดูดกันแน่ "ยากนะ" สึดะดูกังวลนิดก่อนตอบออกมาว่า "มันถูกกำหนดไว้แล้ว"
"ผมคิดว่าการพบเจอกันที่แท้จริงมันกำหนดมาแล้ว เราจะได้พบกับสิ่งที่ควรพบครับ แต่ช่วงอายุ10ปี (10-19) ผมไม่ชอบออกไปไหนมากเลยครับ คือเคยเป็นคนที่อยากอยู่แต่ในบ้านอ่านการ์ตูนและเล่นเกมอย่างเดียวเลย แต่พอคิดว่าเป็นอย่างนี้ไม่ได้นะเลยเริ่มออกไปข้างนอก พอทำอย่างนั้นแล้วก็มีเพื่อนเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ มันมีหลายอย่างเลยที่ถ้ามีแค่คนเดียวคงเกิดขึ้นไม่ได้ พกความตั้งใจออกไปข้างนอกแล้วผลลัพธ์จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นก็แค่พูดเรื่องนั้นตอนจัดรายการวิทยุเท่านั้นเอง (ยิ้ม) ผมว่าพลังแห่งการดึงดูดน่าจะคือการกระทำที่เป็นรูปธรรมแบบนี้ล่ะครับ"
ความคิดที่ว่าการได้พบกันเป็นอะไรที่กำหนดไว้แล้วนั้นมีประสบการณ์ตรงของเขาก็มีส่วน
"ผมไม่ชอบการทำนายทายทักที่มีอิทธิพลต่อผลลัพธ์มากๆเลย แต่มันมีหนังสือที่บอกนิสัยใจคอของคนตามวันเกิดอยู่ใช่ไหมครับ พอผมเปิดไปที่หน้าวันเกิดของตัวเอง ช่องที่บอกว่า 'คนที่มอบพลังให้' มีวันเกิดของ โยเนสึ เคนชิ กับ นักเขียนของรายการวิทยุ อยู่ครับ! ช่องที่เขียนว่า 'Soulmate' หรือ 'เพื่อน' หรือ 'คู่แข่ง' เป็นวันเกิดของ นิไกโด ฟุมิ กับ นากาโนะ ไทกะ ส่วนช่อง 'เนื้อคู่' มีวันเกิดของหัวหน้าเมเนเจอร์อยู่ครับ รู้ได้ขนาดนี้นี่น่ากลัวนิดๆ นะครับ (หัวเราะ) เลยเหมือนจะยอมรับได้ว่าที่จริงแล้วคนเราถูกกำหนดมาตั้งแต่เกิดแล้ว ผมว่าสถิตินี่มหัศจรรย์จริงๆ ครับ"
เวลากับครอบครัว
ตั้งแต่เริ่มทำงานมาก็ 10 กว่าปีแล้ว ชีวิตของสึดะพบเจอใครต่อใครมากมาย จุดที่ยืนอยู่ในตอนนี้เป็นสถานที่แบบไหน?
"ผมรู้สึกว่าตัวเองทำทุกอย่างมาอย่างเต็มที่จนถึงปีที่แล้วครับ ตอนนี้เลยรู้สึกว่าต้องจัดระเบียบสักครั้ง ชีวิตไม่ใช่การแสดงเพียงอย่างเดียว ตอนนี้ผมคิดว่าเป็นช่วงที่กำลังค้นหาว่าตัวเองอยู่ที่ไหนครับ"
พอคิดได้อย่างนั้นก็หันไปทาง "ครอบครัว"
"พ่อของผมนี่ผิิวเต่งตึงมากเลยครับ ดูเหมือนว่าแม่จะทาเซรั่มเพื่อลดริ้วรอยวัย60ให้พ่อ เป็นสามีภรรยาที่ดีมากเลยเนอะ (หัวเราะ) คนในครอบครัวรักกันดีมันอบอุ่นนะครับ แต่ช่วงหลังก็เริ่มคิดมากขึ้นเหมือนกันว่าหากครอบครัวแบบนี้หายไปจะเป็นยังไง เราเองก็เป็นพี่คนโตด้วย ถึงพวกเขาจะบอกว่า 'ตั้งใจทำงานไปเถอะ' แต่ผมว่าผมต้องให้ความสำคัญกับเวลากับครอบครัวเหมือนกันครับ ตอนนี้ก็กำลังคิดว่าจะทำอะไรให้พ่อแม่ที่แต่งงานกันมา 30 ปีีได้บ้างน่ะครับ"
-------------------------------------------------------------------
Original Link: https://baila.hpplus.jp/35729
*มีการตัดบางส่วนออกเล็กน้อย(ส่วนคำบรรยายของผู้เขียน)
แปล&เรียบเรียง(ญี่ปุ่น-ไทย)โดย: @meengeywalin
*เราแปลสัมภาษณ์คนที่เราชอบจากใจ, เวลา และความสามารถที่เรามีอย่างเต็มที่
รบกวนไม่นำเนื้อหาที่แปลไปใช้หรือเผยแพร่ต่อโดยไม่ให้เครดิตหรือไม่ได้รับอนุญาตนะคะ
-------------------------------------------------------------------
Translator's Note
เราไม่ควรใช้เวลาในการแปลบทสัมภาษณ์นี้นานเลย เพราะทั้งไม่ยาวและไม่ยาก แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ตอนนี้รวบรวมสมาธิได้ยากเหลือเกิน
สึดะมักไม่ใช้คำยากเวลาให้สัมภาษณ์ ส่วนใหญ่แล้วมักใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมา ซึ่งก็เหมือนนิสัยของเจ้าตัว แต่ทุกครั้งที่อ่านสัมภาษณ์ของสึดะเราต้องเตรียมรับเซอร์ไพรส์เพราะเป็นคนที่สามารถลากเรื่องราวต่างๆ มาพูดได้อย่างอย่างคาดไม่ถึง มีเหตุการณ์ในชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างงานเยอะ อย่างในบทสัมภาษณ์นี่ก็มตสึนาเบะ?
สนุกดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in