เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I read, therefore I amF.
Lonely land ดินแดนเดียวดาย
  •                                                             Jirabell




    เมื่อ 5 ปีก่อนเพิ่งบินกลับมา​จากเมืองเหงา ก็โดนตีหัวลากกลับเข้าดินแดนเดียวดายเฉย เล่มนี้ซื้อที่ร้านหนังสือในสนามบินดอนเมือง ในขณะที่​มองหาร้านกาแฟนั่งแล้วไม่ได้อยากนั่งจิ้มมือถืิอเล่น บางครั้งเราก็อยากจะละเลียดกาแฟ แล้วจมดิ่งอยู่ในโลกของตัวหนังสือ

    หนังสือเล่มหนา หน้าปกเขียนว่า "ความเรียงที่ระลึก​ บันทึกถึงฮ่องกง ดินแดน​แห่ง​ความเหงาที่เราเหงาไม่เท่ากัน" อ่านปุ๊บได้กลิ่นความหว่องโชยมาเลย เอาเถอะ หว่องให้สุดแล้วหยุดที่เหงาแล้วกัน อย่างน้อยเราก็มีสิ่งที่ระลึก​ถึงอยู่ร่วมกัน นั่นคือฮ่องกงในความทรงจำของทรงจำของพลเมืองแห่งดินแดนเดียวดายนั่นเอง

    ฮ่องกงของคุณเบลล์ไม่ใช่แค่การออกเดินทางไปท่องเที่ยว เก็บเกี่ยวประสบการณ์แล้วเอามาเขียนเล่า หากคือการกลับไปเยี่ยมเยียนญาติ ไม่มีแพลนใด ๆ ในทริป แต่อ่านแล้วเหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วย ได้มุมมองใหม่ ๆ ให้กลับมาพิจารณา ทบทวนและขบคิดให้ถี่ถ้วนลึกซึ้ง สิ่งที่ดูเหมือนจะธรรมดา กลายเป็นความตราตรึงและพิเศษกว่าหนังสือท่องเที่ยวเล่มไหน ให้ความรู้สึกเคว้งแต่ก็อบอุ่นหัวใจ สวิงอยู่แบบนั้น เลยทำให้ตลอดการเดินทาง 277 หน้า ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด

    หนังสือเล่มนี้ทำให้กลายมาเป็นแฟนคลับของคุณเบลล์ และตั้งแต่นั้นมาก็ตามเก็บทุกเล่มเท่าที่จะหาได้ สำนวนอันอบอุ่นละมุนละไมเล่าถึงความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เชื่อมโยงกับสถานที่และวิถีชีวิต มีนักเขียนไม่กี่คนที่เขียนได้อบอุ่นฉายชัดผ่านตัวหนังสือได้ขนาดนี้ มุมมองฮ่องกงผ่านสายตาของคุณเบลล์จึงเป็นฮ่องกงสีอุ่น ๆ เหมือนเปิดเพลง Can’t help falling in love ขับคลอ เชื่อว่าคงไม่มีใครมองฮ่องกงได้อ่อนโยนเท่านี้อีกแล้ว อย่างน้อยก็ ณ ขณะนี้ ย้อนกลับ​ไปอ่านหนังสือเล่มนี้ทีไร ความรู้​สึกเหมือนใส่แว่นสีนวล ๆ มองฮ่องกงยังไง​ยังงั้น​ ป้ายไฟนีออนสีจัดจ้าน กลายเป็นป้ายไฟส้มสลัว เป็นสีวอร์ม​โทน เป็นสิ่งเดียวที่ปลอบประโลมความเหงาด้วยเรื่องเล่าแสนอบอุ่น ความทรงจำเกี่ยวกับดินแดนเดียวดายผุดขึ้นมาราวกับมีใครกดปุ่มรีเวิร์สให้เป็นแบบสโลว์โมชัน 

    ใครจะไปคิดว่าเมืองที่คึกคักติดอันดับโลก ประชากร 7.48 ล้านคน ในพื้นที่ 1,106.34 ตรกม. เมืองที่คนต่างบอกว่าเป็น The city that truely never sleeps เมืองที่ไม่เคยหลับใหลกลับกลายเป็นเมืองอันแสนเหงาได้ขนาดนี้ ใช่หรือไม่ว่าความเหงาไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดอื่น บางครั้งเสียงอึกทึกครึกโครมวุ่นวายกลับไม่สามารถกลบความวังเวงเงียบงันในหัวใจได้เลย

    และฮ่องกง​เป็นเช่นนั้น



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in