เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Amazing ThailandTeeraphat Janejai
ร้านกาแฟขอ Chair นะครับ
  • อันที่จริงผมก็ไม่รู้หรอกว่า ผมติดกาแฟ หรือ ติดบรรยากาศร้านกาแฟ หรือติดแม่งทั้งสองอย่างกันแน่และผมก็เดาเอาเองว่าคนไทยหลายๆ คนก็น่าจะอึกอักเมื่อเจอคำถามนี้

    แต่เอาเป็นว่าตอนนี้คนไทยหลายหมื่นหลายแสนกระจายตัวอยู่ตามร้านกาแฟ จะเล็ก จะใหญ่ จะฮิป จะเดิร์น จะดริฟ จะชง คือถ้าร้านนั้นไม่ได้สร้างเขาวงกตไว้ที่ทางเข้าร้าน ยังไงก็ต้องมีคนเข้าล่ะวะ 

    ผมใช้บริการร้านกาแฟมาก็หลายปี ซึ่งพบว่าเป็นสถานที่ฆ่าเวลาและใช้เวลาอย่างมีประโยชน์ได้ในที่เดียวกัน 

    ลองนึกดูครับว่าเวลาเราไปนั่งในร้านกาแฟเราทำอะไรบ้างนอกจากการดื่มกาแฟ

    ทำงาน ติวหนังสือ ประชุมงาน กุ๊กกิ๊กกับแฟน กุ๊กกิ๊กกับกิ๊ก กุ๊กกิ๊กกับชู้ (จริงๆ คำว่าชู้ไม่ค่อยเข้ากับบรรยากาศร้านกาแฟเลยเนอะ...) 

    หรือจะนั่งอ่านหนังสือ นั่งเสวนาการเมืองแบบสภากาแฟ นั่งชิวๆ นั่งเปื่อยๆ นั่งไม่งอก นั่งไม่ผัก นั่งแห้ง นั่งเกาเหลา (ไปร้านก๋วยเตี๋ยวมั้ยมึง) 

    หลังๆ มานี้ร้านกาแฟเลยตอบสนองลูกค้าด้วยการทำให้เหมือนโฮมออฟฟิศ เป็น co-working space ที่คนเดี๋ยวนี้ใช้เรียกพื้นที่เปิดสำหรับทำงานนู้นนี่นั่น หรือบางร้านก็เปิด 24 ชม.เหมือนเซเว่นเลย 

    พอร้านกาแฟเริ่มมีความใกล้เคียงกับการมาบ้านเพื่อน ก็ทำให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป หรืออะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นในร้านกาแฟก็ได้เห็นเป็นบุญตา

    หนึ่ง— นอน

    ...

    คือยังไงวะ ปกติกาแฟมันช่วยให้เราตื่นตัวไม่ใช่เหรอ แล้วมึงมานอนร้านกาแฟเนี่ยนะ 

    ต้องอธิบายก่อนครับว่า สิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่ว่ามานอนฟุบเพราะเพลีย แต่นี่คือการนอนแบบจริงจัง นอนเอาอิ่ม นอนเอาตาย ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น (มักจะพบกิจกรรมเหล่านี้ในร้านกาแฟที่เปิด 24 ชม. และผู้กระทำมักจะเป็นนักศึกษาในช่วงติวสอบ ที่ต้องมาอาศัยหมู่ชนคนในร้านสร้างอารมณ์จิตวิญญาณในการอ่านหนังสือสอบ) 

    เข้าใจนะครับว่าอาจจะเหนื่อยจากการสอบ หรือทำโปรเจกข้ามวันข้ามคืน แต่ร้านกาแฟควรพึงระวังไว้นะครับ เพราะคนนอกอาจจะสงสัยในตัวโปรดักส์กาแฟของคุณก็ได้ว่า นี่มึงใช้เมล็ดกาแฟจริงๆ ใช่มั้ย ไม่ใช่แค่ใส่กลิ่นกาแฟหลอกประสาทจมูกกู แล้วทำไมกาแฟมึงทำคนหลับกันทั้งร้าน 

    และที่พีคกว่านั้นคือ

    มีผ้าห่มคลุมโปงด้วยนะ สบายเลยมึง... 


    สอง—เล่นดนตรี 

    ไม่ได้หมายถึงวงที่ร้านจ้างมาเล่นสร้างบรรยากาศนะครับ 

    อันนี้คือลูกค้าแบกกีต้าร์มาเล่นเลยครับ (อันนี้เจอที่ร้านแถวโรงเรียนเก่า เป็นร้านเอ้าท์ดอร์ ซึ่งคนที่เล่นก็คือนักเรียนโรงเรียนผมนี่แหละ)

    คือ ผมจะพอเข้าใจได้ในกรณีที่เด็กพกกีต้าร์มาโรงเรียน แล้วมาแวะที่ร้านกาแฟกับผองเพื่อน อาจจะมีการหยิบกีต้าร์มาเกลาเบาๆ แก้เหงา หรือเล่นเพลงใหม่ที่แกะโซโล่มาโชว์เพื่อน 

    แต่นี่คือการเปิดมินิคอนเสิร์ตครับ ทุกท่านคงพอนึกภาพสมัยเรียนออกใช่มั้ยครับ เวลาที่เรากับเพื่อนอยู่ที่โรงเรียน แล้วมีคนเอากีต้าร์มาพร้อมหนังสือคอร์ดเพลง นั่นล่ะครับ จัดให้สุดเสียง พักกลางวันนี่เหมือนอยู่ร้านเหล้า มีดนตรีสดให้ฟังด้วย (แม้ว่าจะไม่มีเหล้าเบียร์ และกำลังกินข้าวแกงโรงอาหารอยู่ก็ตาม) 

    และน้องๆ กลุ่มนี้จัดเต็มในระดับนั้น คิดว่าน้องอาจจะกำลังคิดว่าว่า ทุกคนในร้านเป็นแฟนคลับที่มาฟังซิงเกิ้ลใหม่ของเขา หรือไม่ก็คิดว่า ไม่มีใครอยู่ในร้านเลย... ซึ่งไม่ ลูกค้าอยู่กันเต็มร้านเลยโว้ยยย

    แน่นอนครับว่า ไม่ถึงครึ่งเพลง ไฟเปิด ผับปิด เจ้าหน้าที่ (ร้านกาแฟ) เข้าชาร์จ แล้วก็เดินลงจากเวทีกันแบบเขินๆ 

    จริงๆ ยังมีกิจกรรมที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เห็นในร้านกาแฟ อีกเยอะ แต่คิดว่าหลายๆ ท่านคงเห็นกันชินตาแล้วอย่างเช่น ขอแต่งงาน (ซึ่งก็เหมาะดีนะ เสียอย่างเดียวคือ อิจฉา) 

    ซึ่งที่จริงผมเป็นคนไม่ค่อยยี่หระกับเรื่องพวกนี้มาก คือ ถ้าไม่ได้รบกวนอะไรมาก (แต่ไอเด็กข้างบนนี่ก็นิดนึงนะ) ก็ไม่เป็นไร ขออย่างเดียวเลย 





    มึง อย่า เอา หนังสือ / ชีทแผ่นเดียว มา จอง โต๊ะ แล้ว หาย ไป จาก ร้าน ได้ มั้ย 

    เหลือที่ให้กูนั่งบ้างโว้ยยยยยยย














     



     
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in