เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
All about booksHorizon
[ Review : Romancing Mister Bridgerton 'บริดเจอร์ตันที่ใฝ่ฝัน' ]


  • ชื่อเรื่อง : บริดเจอร์ตันที่ใฝ่ฝัน (Romancing Mister Bridgerton)

    ผู้เขียน : Julia Quinn (จูเลีย ควินน์)

    ผู้แปล : มัณฑุกา

    พิมพ์ครั้งแรก : ค.ศ. 2002



     เรื่องย่อ 

    ทุกคนรู้ว่า "คอลิน บริดเจอร์ตัน" คือหนุ่มเจ้าเสน่ห์อันดับหนึ่งในลอนดอน... "เพเนโลพี เฟเธอริงตัน" แอบรักพี่ชายของเพื่อนสนิท หลังจากเฝ้ามองคอลิน บริดเจอร์ตันมาครึ่งชีวิต เพเนโลพีก็คิดว่าตนเองรู้จักเขาทะลุปรุโปร่งแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบความลับดำมืดของเขา... และหวั่นใจว่าเธออาจไม่รู้จักเขาเลย


        "คอลิน บริดเจอร์ตัน" อ่อนใจกับการถูกใคร ๆ มองว่าเป็นเพียงหนุ่มหน้าใสไร้สมอง เขาเหนื่อยหน่ายกับความซ้ำซากจำเจในชีวิต และสุดระอาที่ทุกคนเอาแต่หมกมุ่นกับเลดี้วิสเซิลดาวน์ นักเขียนข่าวซุบซิบชื่อดังที่กล่าวถึงคอลินในแทบทุกย่อหน้าแรกของคอลัมน์ แต่เมื่อคอลินกลับมาลอนดอนหลังการทัศนาจรในต่างแดน เขาก็พบว่าไม่มีอะไรในชีวิตของเขาที่เหมือนเดิมอีกต่อไป...โดยเฉพาะเพเนโลพี เฟเธอริงตัน!


        จู่ ๆ หญิงสาวที่ดูเหมือนเป็นของตายก็กลับมาวนเวียนในความฝัน และเมื่อเขาพบว่าเพเนโลพีเองก็มีความลับซุกซ่อนอยู่ หนุ่มโสดจอมลดเลี้ยวผู้นี้จึงต้องตัดสินใจว่าเธอคือมหันตภัย หรือโอกาสแห่งความสุขชั่วนิรันดร์...






          Romancing Mister Bridgerton 'บริดเจอร์ตันที่ใฝ่ฝัน' เป็นหนังสือเล่มที่4 ในนิยายชุด Bridgerton ที่มีทั้งหมด8เล่ม(ไม่รวมเล่มพิเศษ) นิยายชุดBridgerton จะพูดถึงเรื่องราวความรักของพี่น้องตระกูลบริดเจอร์ตันทั้งหมด8คน โดยเล่มที่4นี้จะเล่าเรื่องความรักของคอลิน บริดเจอร์ ( ลูกคนที่3 ของตระกูล ) และเพเนโลพี เฟเธอริงตัน นั้นเองค่ะ



     — ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเรา โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ :) — 





     รีวิว (แบบไม่มีสปอย)  

    • ใครที่ยังไม่ได้อ่านนิยายเล่มก่อนหน้าก็สามารถอ่านนิยายเล่มนี้ได้ค่ะ ไม่ได้รู้สึกติดขัดหรือมีช่องโหว่ใดๆ


    • สำหรับเราเนื้อหาค่อนข้างเบา มีประเด็นหลักๆอยู่ไม่กี่ประเด็น แต่สำนวนการเขียนนั้นช่วยให้เราอ่านได้เรื่อยๆแบบไม่เบื่อเลย เหมาะสำหรับคนที่อยากอ่านอะไรเพลินๆ น่ารักๆ ปนตลกหน่อย


    • เราชอบไดอะล็อก หรือบทสนทนาของหนังสือเล่มนี้มากกก รู้สึกว่ามันไม่เหมือนหนังสือเล่มอื่นๆ ชอบเวลาที่นางเอกคุยกับเลดี้เดนเบอรี่, นางเอกต่อปากต่อคำพระเอก, ตอนที่พระเอกเถียงกับน้อง หรือตอนที่คนบ้านบริดเจอร์ตันคุยเล่นกัน มันมีความไหลลื่น ต่อปากต่อคำ อ่านแล้วอมยิ้ม บางทีก็ตลก เรารู้สึกถูกจริตมากๆ ขอชื่นชมนักเขียนจากใจจริง


    • ตามเรื่องย่อ เรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับรักข้างเดียว แต่เพเนโลพีนางเอกของเราก็ไม่ได้เพ้อจนน่ารำคาญ


    • เราคิดว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินประโยคประมาณว่า “ถ้าจะชอบก็คงชอบไปนานแล้ว” แต่มันก็ไม่เสมอไปว่าไหมคะ บางทีรู้จักกันมาตั้งนานแต่อยู่ๆเขาก็สะดุดตาขึ้นมาซะเฉยๆ เชื่อว่าอะไรแบบนี้ก็มีเหมือนกัน 

    นิยายเรื่องนี้เป็นอย่างหลังค่ะ นางเอกแอบชอบพระเอกมานานมากแล้ว(ตั้งแต่อายุ16 จนในเรื่องอายุ28) ส่วนพระเอกก็มองเพเนโลพีเป็นน้องสาวมาตลอด จนในปีที่พระเอกกลับจากเดินทางท่องเที่ยว แล้วมาเจอเพเนโลพีอีกครั้งเขาก็รู้สึกเพเนโลพีเปลี่ยนไป หรือจริงๆเพเนโลพีเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วแต่เขาไม่เคยสังเกตเห็น คงเป็นความรู้สึกเหนือความคาดหมาย, เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงกับคนที่อยู่ใกล้ตัวแต่เรา คอยสังเกตการกระทำของเขา จนรู้ตัวอีกทีก็ชอบเขาไปแล้ว แต่ถ้าถามเราเอาเข้าจริงส่วนใหญ่น่าจะเป็นแบบแรกไหมคะ ถ้าเขาจะชอบก็คงชอบไปนานแล้วT___T


    • ในส่วนของตัวละคร เราชอบนางเอกนะคะ นางเป็นคนฉลาดช่างพูดช่างจา น่ารัก ดูเป็นคนขี้อายเมื่ออยู่กับคนที่ไม่รู้จัก แต่นางก็เป็นคนกล้าคนนึง บางตอนเราค่อนข้างเซอร์ไพรส์ไม่คิดว่าเพเนโลพีจะกล้าขนาดนี้ ส่วนพระเอกเราก็รู้สึกว่าเขาน่ารักดี ดูเป็นคนช่างพูดช่างจา มีเสน่ห์ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษ



    • นิยายเรื่องนี้เสนอมุมมองที่ว่า ไม่มีใครเพอร์เฟคไปหมดทุกอย่าง บางอย่างที่เราเห็นที่เราคิดก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ซึ่งเรื่องนี้จริงมากๆ มันเหมือนกับภูเขาน้ำแข็งเรามองเห็นแค่ส่วนที่พ้นขึ้นมาจากน้ำ ส่วนที่อยู่ใต้น้ำลึกลงไปแค่ไหนก็ไม่รู้

    เป็นเรื่องที่เราเอามาคิดต่อ สมัยนี้สื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย เป็นเรื่องที่เข้าถึงง่าย บางครั้งเราเห็นภาพชีวิตที่สวยงามของคนอื่น แล้วเอามาเปรียบเทียบกับตัวเอง จนมันเกิดเป็นความ toxic แต่เราก็ควรพึงระลึกไว้เสมอว่าทุกอย่างที่อัพลงโซเชียลนั้นถูกคัดสรรมาอย่างดี มันเป็นสิ่งเขาอยากให้เราเห็น เป็นแค่เสี้ยวเสี้ยวหนึ่งของชีวิตเขา เราไม่มีทางรู้ทั้งหมดของชีวิตเขา หรือสิ่งที่เขาเผชิญ ถ้าเราเอาทั้งชีวิตของตัวเองไปเปรียบเทียบกับเสี้ยวที่ที่สุดของคนอื่น มันคงเป็นที่เรื่องน่าเศร้า

    • รู้สึกว่าตอนจบขมวดปมง่ายไปนิดนึง ทั้งปมของพระเอก และนางเอกเลยมันเป็นเรื่องที่เดาได้


    • การดูซีรีส์ก่อน ช่วยให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น เวลาอ่านเรานึกเป็นฉากหลังเหมือนในซีรีส์เลยค่ะ ทั้งบ้านบริดเจอร์ตัน บ้านเฟอริงตัน หรือเมืองลอนดอน







    —————รีวิวส่วนนี้มีสปอย—————

    ในชุดนิยายบริดเจอร์ตันทั้ง8 เล่ม เราอยากอ่านเล่มนี้ที่สุดเพราะดูซีรีส์ตอนจบแล้วรู้สึกค้างคาเรื่องเพเนโลพี คือนางเป็นเลดี้วิสเซอร์ดาวน์ แล้วมันยังไงต๊ออ 


    ในหนังสือได้ไม่เฉลยว่าเลดี้วิสเซอร์ดาว์เป็นใครเหมือนในซีรีส์ มาเฉยในเล่มนี้ค่ะ

    พอดูซีรี่ย์มาก่อนเราก็รู้แล้วว่าเพเนโลพีเป็นเลดี้วิสเซอร์ดาวน์ เลยทำให้เมื่ออ่านหนังสือตอนถึงฉากที่เฉลยเราเลยไม่ตื่นเต้น ตอนที่ควรจะว้าวเลยไม่ว้าว แต่ก็ถือว่าได้เก็บรายละเอียดการกระทำของนางเอก


    ในคำโปรยหลังหนังสือมีประโยคที่ว่า  “ เพเนโลพีก็คิดว่าตนเองรู้จักเขาทะลุปรุโปร่งแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งเธอบังเอิญได้พบความลับดำมืดของเขา  เรารู้สึกว่าความลับของคอลลินไม่ได้ดำมืดขนาดนั้น เราอาจจะคาดหวังไปเอง คิดว่าจะมีอะไรมากกว่านี้ 


    ความลับของคอลินก็คือเขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ รู้สึกตัวเองไม่มีเป้าหมายไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับพวกพี่ๆ แอนโทนี่เป็นไวส์เคานท์มี่หน้าที่ดูแลที่ดิน ดูแลครอบครัว และคนจำนวนมาก ส่วนเบเนดิกต์ เป็นจิตกรฝีมือดี มีผลงานที่แขวนไว้ในพิพิธภัณฑ์ คอลินรู้สึกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรทิ้งไว้ให้กับโลกใบนี้ เขาไม่ได้เป็นที่จดจำ 


    ในเรื่องเลดี้เดนเบอรี่เสนอเงินรางวัล1000 ปอนด์กับคนที่เปิดเผยตัวตนของเลดี้วิสเซอร์ดาวน์ได้ นางเอกเลยจะวางปากกาเพราะก็เขียนมานานแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็เกิดเรื่องเมื่อมีคนอ้างว่าตัวเองเป็นเลดี้วิสเซอร์ดาวน์ ซึ่งคนนั้นเป็นคนที่นางเอกไม่ชอบ เป็นคนที่คอยกลั่นแกล้งนางเอกมาตลอด นางเอกรู้สึกยอมไม่ได้ เพราะเลดี้วิสเซอร์ดาวน์เป็นสิ่งที่นางภูมิใจ ก็เลยเขียนขึ้นมาอีกคอลัมน์นึง(ทั้งที่เลิกเขียนไปแล้ว) เพื่อประกาศว่าคนนั้นเป็นตัวปลอม แต่กลับกลายเป็นว่าคอลัมน์นี้ทำให้คนที่แอบอ้างว่าเป็นเลดี้วิสเซอร์ดาวน์จับผิดนางเอกได้ และจะแบล็คเมล์นางเอก ถ้านางเอกไม่จ่ายเงินที่ตามนางต้องการ ซึ่งไม่ได้เป็นเงินน้อยๆ รายได้ที่เขียนคอลัมน์มา11ปีก็ไม่พอ สุดท้ายก็เลยคิดแผนแก้ปัญหา (ขออนุญาตไม่เฉยนะคะว่าแก้ปัญหายังไง) เรารู้สึกว่าตอนจบมันดูคาดเดาได้ง่ายไปหน่อย ไม่ได้ว้าวมากในส่วนนี้


    ส่วนเรื่องปมของคอลินดูง่ายเหมือนกัน การคลี่คลายปมก็แสนง่ายดายเหลือเกินเพราะนักเขียนปูทางไว้หมดแล้ว เราเชื่อว่าใครที่อ่านก็คงรู้ว่าปมนี้จะถูกแก้ยังไง คิดว่าถ้ามีความขัดแย้งอะไรบางอย่างเขามาอีกนิดอาจจะน่าสนใจกว่านี้


     ————หมดสปอย————





    สรุปแล้วเรารู้สึกว่าเราชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ ถึงพล็อตจะไม่ได้แน่น เรื่องพอเดาทางได้ แต่ด้วยการเขียน การบรรยาย ไดอะล็อกต่างๆ เป็นจุดที่เราชอบมากกกกก ทำให้เราพอมองข้ามส่วนนั้นไปได้และเอนจอยกับหนังสือเล่มนี้ได้ไม่ยาก อ่านเพลินๆรู้ตัวอีกทีก็จบเล่มแล้ว หนังสือเล่มนี้ได้ทิ้งปมของเอโลอีสที่เป็นนางเอกของเล่มถัดไปเอาไว้ด้วยค่ะ เราเลยหยิบเล่มต่อไปมาอ่านอย่างรวดเร็ว และตอนนี้อ่านจบแล้วค่ะ ไว้เรามาทำรีวิวอีก ฝากติดตามกันด้วยนะคะ





    Horizon 
    01.02.2021

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in