เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The complicated meheyitsme_hiro
I AM NOT BELONGS TO ANYONE
  • ระหว่างทางที่กำลังเดินกลับหอกับกลุ่มเพื่อน พวกเราก็เดินมาถึงทางแยก
    ทางหนึ่งเป็นทางที่ไปหาเพื่อนๆ 
    ส่วนอีกทางเป็นทางกลับหอของฉัน
    "บ๊ายบาย เจอกันพรุ่งนี้นะ"
    ฉันยกมือขึ้นบ๊ายบาย ก่อนจะขมวดคิ้วสงสัยเมื่อเพื่อนอีกคนที่ปกติมักจะกลับหอกับฉันพูดตอบกลับมา
    "ไปก่อนเลย เดี๋ยวเราไปทำงานกลุ่มก่อน"
    ฉันยกยิ้ม โบกมือลาเพื่อนๆ อีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับหอ
    คนเดียว

    เก่งมาก
    คิดพลางปล่อยให้มุมปากตกลงมา
    ดูเหมือนฉันจะเก่งมากขึ้น เก่งกับการตอแหลความรู้สึกของตัวเอง ทั้งๆ ที่ตอนเล่นเกม Warewolf หรือ Spyfall ฉันเล่นห่วยที่สุดแท้ๆ 

    การที่เราโตขึ้น มันหมายถึงการที่เราต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากขึ้นหรือเปล่านะ ?
    ไม่รู้เหมือนกันว่ามีตำราเล่มไหนได้เขียนไว้มั้ย แต่ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆ
    ตอนอยู่ประถม ก็มีเพื่อนประถม
    พอขึ้นมัธยม เพื่อนสมัยประถมก็หายหน้าหายตากันไป แล้วเราก็มีเพื่อนที่เรียนมัธยมด้วยกันเพิ่มขึ้นมา
    พอจบมัธยม นั่นเป็นช่วงที่ฉันรู้สึกว่าฉันมีเพื่อนเยอะที่สุดแล้ว แม้ฉันจะไม่แน่ใจว่า ฉันเข้าใจความหมายของคำว่าเพื่อนดีแล้วหรือเปล่า แล้วเพื่อนสมัยมัธยมนั้น ฉันสามารถใช้คำว่า "เพื่อน" ได้อย่างแน่นอนหรือเปล่า มันถูกนิยามของมันมั้ยนะ
    นั่นก็เป็นเรื่องที่ฉันเพิ่งรู้สึกเมื่อเร็วๆ นี้เอง
    พอขึ้นมหาลัย จำนวนเพื่อนที่น้อยลงสุดๆ ทำให้ฉันหวั่นใจในตอนแรก แต่ก็พบว่าการมีเพื่อนน้อยๆ นั้นก็ไม่ได้แย่อะไรเลย
    แต่ฉันแค่ไม่ชิน
    เรื่องมันก็แค่นั้นเอง

    ฉันไม่เคยอยู่คนเดียว
    เวลานอนก็นอนกับพ่อแม่ มาโรงเรียนก็อยู่กับกลุ่มเพื่อน ไปห้องน้ำก็ยังไปกับเพื่อน 
    เอาเป็นว่า กิจกรรมที่ต้องทำคนเดียวน่ะ แทบจะไม่มีเลย
    พอขึ้นมหาลัย ก็ต้องอยู่หอ ตอนแรกก็อยู่กับเพื่อนสมัยมัธยมที่ก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่ก็แยกย้ายกัน ฉันก็ย้ายตัวเองเข้ามาอยู่หอใน และดูเหมือนนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการอยู่คนเดียว

    ฉันสังเกตได้ว่า เพื่อนๆ ในมหาลัยดูเหมือนจะสามารถใช้ชีวิตคนเดียวได้เก่งมาก
    ฉันหมายถึง สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และเอนจอยกับการอยู่คนเดียว ในขณะที่ฉันไม่
    ความรู้สึกโดดเดี่ยวและความเหงาเล่นงานฉันได้ดีเกินไป
    ฉันรู้สึกว่าตัวเองอาจจะอยู่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
    แต่นั่นมันก็แค่ช่วงแรก
    ไม่มีใครอยู่คนเดียวมาได้ตั้งแต่แรกหรอกน่า 
    ฉันปลอบใจตัวเองอย่างนั้น
    ฉันปล่อยให้เวลาได้ทำหน้าที่ของมัน
    ค่อยๆ เรียนรู้ว่าควรจะทำอะไรเวลาที่ตัวเองมีเวลามากขนาดนี้
    ฉันเรียนรู้ว่าจะทำให้ตัวเองมีความสุขได้ยังไง
    ฉันอาจจะไม่ได้มีความสุขมากขนาดนั้น แต่อย่างน้อยฉันก็ได้รู้แล้วว่าตัวเองควรทำยังไง

    ฉันค่อยๆ จัดการกับความเหงาได้ดีขึ้น
    นั่นแลกมากับความอ่อนไหวทางอารมณ์ที่มากเป็นพิเศษ
    โอเค พูดอย่างนั้นอาจจะดูเว่อร์ไปสักนิด
    แต่ฉันหมายถึงว่า ฉันรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอมากขึ้น
    ฉันไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไร
    แต่ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองเป็นอย่างนั้น

    มีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าฉันเข้มแข็งมาก ดูเป็นคนปากร้าย ดูเป็นคนแรงๆ
    แต่เอาจริงๆ ข้างในฉันมันกลวงเหลือเกิน
    ฉันเข้มแข็ง แล้วอย่างไร
    นอกจากครอบครัวที่รักฉันมากๆ แล้ว ฉันก็รู้สึกว่าความเข้มแข็งของฉัน มันไม่ได้ทำให้ใครอยากที่จะอยู่ด้วยกันกับฉันเลย
    ฉันคิดว่าตัวเองมันใจในตัวเองมากนะ อย่างน้อยก็มั่นใจว่าตัวเองมีพลังบวก มีความสดใส แต่นั่นคงไม่พอที่จะรั้งให้ใครอยู่ด้วยกัน ฉันคิดอย่างนั้นนะ
    ไม่รู้สิ ความโดดเดี่ยวคงส่งลูกสมุนมาเล่นงานฉันอีกแล้วล่ะมั้ง ฉันถึงได้คิดอย่างนี้
    ฉันอาจจะเริ่มจัดการกับอารมณ์นี้ไม่ได้อีกแล้วล่ะมั้ง

    บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าอยากให้ใครสักคนเข้าใจฉัน และต้องการฉันจริงๆ ฉันอยากเจอเขา 
    ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองจะทนไม่ไหวแล้ว ถ้าหากไม่เจอเขาฉันคงแตกสลายในเร็ววัน
    แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกว่า ไม่อยากให้ใครเข้าใจฉันเลย ไม่อยากยุ่งกับใคร และไม่อยากให้ใครมายุ่ง
    มันเหมือนเป็นความรู้สึกหงุดหงิดราวกับภูเขาไฟระเบิดเลยล่ะ
    ฉันเริ่มจะไม่เข้าใจตัวเองแล้วสิ

    ฉันอยากเป็นของใครสักคนนะ อย่างน้อยนั่นก็เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ฉันมั่นใจ
    ฉันไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นของใครเลย ไม่อยากเลยจริงๆ
    มอบพื้นที่สักเศษเสี้ยวหนึ่งให้ฉันได้มั้ย ให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีค่าสำหรับคุณ ให้ฉันรู้สึกว่าฉันยังเป็นคนที่คุณต้องการ เป็นของคุณ แม้ไม่ใช่ตลอดไป แต่แค่ตอนนี้ก็ยังดี
    ได้โปรด
    ชวนฉันด้วยก็ได้ 
    โทร.หาฉันบ้างก็ได้
    เม้าเรื่องใคร ปรึกษาอะไรกับฉันก็ได้
    คิดถึงฉันบ้างเถอะนะ

    ฉันดูเหมือนคนเห็นแก่ตัวเลยเนอะ
    อยากเป็นของใครสักคน กลัวความโดดเดี่ยว แต่กลับไม่ยอมให้ใครได้เข้ามาอยู่ข้างในเลย 
    ไม่ยอมคิดถึงเพื่อนให้มาก ไม่ยอมทุ่มให้เพื่อนอย่างที่สุด แต่กลับอยากให้เขาทุ่มให้กับเรา
    ฉันทุ่มไม่สุดจริงหรอ ?
    นั่นสินะ "สุด" ของแต่ละคนคงต่างกัน
    สุดของฉัน ฉันก็พยายามในแบบของฉันอย่างเต็มที่แล้ว
    บางทีฉันอาจจะต้องปล่อยวางบ้าง
    ฉันควรจะพอใจกับสภาวะในตอนนี้
    ตอนนี้ฉันยังมีเพื่อน แม้ว่าฉันจะไม่ใช่ที่สุดในใจของใครเลยก็ตาม
    แต่อย่างน้อย ฉันก็ยังมีเพื่อน ฉันยังเป็นของพวกเขา แม้เพียงเศษเสี้ยวเดียวก็ตาม

    อา ฉันคงต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับความโดดเดี่ยวให้มากกว่านี้แล้วสิ
    ภาวนาให้ฉันยังสามารถยิ้มได้ในทุกวัน
    แม้มันจะเป็นการตอแหลกับตัวเองก็เถอะ
    สู้ๆ นะ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in