จะเล่าถึงความดีงามของซีรีส์เรื่อง Louie ให้ฟัง

อย่างที่บอกว่าชอบ Louis C.K. มาก คิดว่าเป็นตลกอัฉจริยะที่พูดถึงความจริงได้ถึงแก่นที่สุดในขณะที่ก็หยาบคายและตลกบ้าบอคอแตกด้วย ชอบในความไม่แคร์โลกแบบพอเหมาะพอดีของเขา และนั่นก็ทำให้ชอบซีรีส์ของเขาไปด้วย

Louie เป็นซีรีส์ตลกร้ายแบบดำเนินเรื่องไปเรื่อยเปื่อย เรื่องแต่ละตอนดูคล้ายจะเป็นเอกเทศจากกัน ทุกตอนพยายามพูดถึงความจริงอะไรบางอย่าง แต่เป็นการพูดอย่าง subtle มากๆ หรือไม่ก็พูดอย่างตรงเป้ามากๆ จนทำให้ได้คิดอยู่หลายตอน

ตอนที่ชอบจนต้องเอามาเขียนเป็นฉากสั้นๆ ฉากหนึ่ง

หลุย (เป็น Alterego ของหลุยส์ตัวจริง) พาลูกสาวไปดูละครเรื่องหนึ่ง ในฉากที่บนเวทีละครตลกอยู่ หลุยหันไปดูลูกสาวแล้วพบว่าเธอก็นั่งดูเฉยๆ ไม่ได้ตลกไปกับฉากนั้น เช่นเดียวกับฉากซาบซึ้ง หันไปดู ลูกสาวก็มองเฉยๆ ไม่ได้แสดงออกว่าซาบซึ้งน้ำตาไหลปริ่มอะไร

จุดพีคมันอยู่ตรงที่ว่าในฉากไคลแมกซ์ที่เป็นประโยคเด็ดบนเวที หลุยหันไปมองลูกสาวว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ปรากฏว่า เธอเล่นมือถือ

พอออกจากโรง หลุยเลยด่าลูกสาวชุดใหญ่ บอกว่าจะยึดมือถือไม่ให้เล่นแล้ว! มัวแต่แชตกับเพื่อนอยู่นั่นแหละ ละครก็ไม่ได้ดู นี่เธออยู่ในเมืองใหญ่ (แมนฮัตตัน) แบบนี้ เธอควรจะ appreciate บรรยากาศรอบๆ ให้มากกว่านี้นะ มีละครให้ดู มีนิทรรศการให้เดิน แล้วทำไมจมปลักอยู่กับการแชตล่ะ

ลูกสาวบอกว่า หนูไม่ได้แชต หนูกูเกิ้ลหาข้อมูลละครเรื่องที่ดูอยู่นี่แหละ

หลุยบอกว่า แล้วดูละครไปกูเกิ้ลไปมันจะได้สาระอะไรวะ ก็ทำอย่างเดียวไปสิ นี่ดูรู้เรื่องหรือเปล่าเหอะ

ลูกสาวบอกว่า ดูรู้เรื่องสิ ฉากที่พ่อหันมาดูหนูคือฉากที่ตัวละครบอกว่า ... ... ใช่มั้ยล่ะ (cite บทละครออกมา) หนูประทับใจฉากนั้น คำพูดนั้นมาก เลยไปเซิร์ชดูว่าประโยคนี้ คนเขียนเค้าคิดอะไรอยู่ตอนที่เขียน พ่อรู้ไหมว่าละครเรื่องนี้ถูกแบนในหลายประเทศ เพราะเขากลัวว่าคนดูจะหดหู่จนฆ่าตัวตาย คนเขียนก็กลัวอย่างนั้นเหมือนกัน หลังจากประโยคที่ซึ้งๆ นั่น คนเขียนเลยเปลี่ยนบทตอนจบให้เป็นแฮปปี้เอนดิ้ง คนดูจะได้ไม่หดหู่จนเกินไป พ่อไม่อยากรู้เหรอว่าบทออริจินัลมันบอกว่ายังไง

แล้วถ้าการที่หนูมีความสามารถในการชื่นชมและเสพสื่อในสองระดับไปพร้อมกัน (can appreciate media in multilevels) มันทำให้พ่อไม่พอใจมากนักละก็ พ่อจะเอามือถือหนูไปเลยก็ได้

หลุยได้ยินดังนั้นก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่สีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

เนี่ย! ซีนซีนเดียวไม่เกิน 5 นาที แต่มันพูดออกมาหมดเลยนะ ทั้งประเด็นการเสพสื่อแบบ multi screen ทั้งเรื่อง distraction ทั้งเรื่อง generation แล้วมันผูกออกมาได้เป็นธรรมชาติมากๆ

ชอบมาก!